“สธ.” ยันวัคซีนโควิดฉีดให้กับประชาชนได้ตั้งแต่กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป หลังมีข่าวเชิงบวกว่ามี 1 บริษัทพิจารณาเอกสารเสร็จ คาดได้รับอนุญาตให้ใช้ได้แบบฉุกเฉินในประเทศไทย
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 18 มกราคม 2564 ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค แถลงความคืบหน้าสถานการณ์โรคไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ว่า สำหรับการจัดหาวัคซีนโควิด เพื่อฉีดให้กับประชาชนนั้น รัฐบาลมีนโยบายว่าจะต้องจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยเป็นที่ยอมรับมาฉีดให้กับประชาชน จะต้องคำนึงถึงความสมดุลทั้ง 2 ประการ ขณะนี้มี 1 บริษัทวัคซีนที่มายื่นขออนุญาตต่อคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพื่อรับการตรวจสอบแล้ว
“เบื้องต้นมีข่าวเชิงบวกว่าคงจะได้รับการอนุญาตให้นำวัคซีนมาใช้ได้แบบฉุกเฉินในประเทศไทยไม่เกินสัปดาห์นี้ โดยภายหลังจากดูเอกสารที่ยื่นมาครบถ้วนแล้ว เชื่อว่ามีประสิทธิภาพและความปลอดภัยเป็นที่ยอมรับได้ คาดว่าจะมีวัคซีนที่สามารถฉีดให้ประชาชนได้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์นี้ เป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามแผนที่วางไว้เบื้องต้น” นพ.โอภาส กล่าว
นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีการถามกันมากถึงความปลอดภัยของวัคซีนนั้น จะมีการตั้ง คณะขึ้นมาติดตามอาการอย่างน้อย 4 สัปดาห์ ทั้งในส่วนของปัญหาเรื่องการแพ้ยาและอาการไม่พึงประสงค์หลังรับการฉีดวัคซีน ซึ่งจะมีคณะกรรมการ 1 ชุดทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนแต่ละคน รวมทั้งประวัติการรักษา และหากในรายที่เสียชีวิตจะมีการชันสูตรสาเหตุว่าแต่ละราย มีความเกี่ยวข้องกับการได้รับฉีดวัคซีนหรือไม่เกี่ยวข้อง หรือในรายที่เกี่ยวข้องแต่สรุปไม่ได้ โดยสำหรับในรายใดที่หากสงสัยก็จะให้หยุดการรับฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 ในรายดังกล่าวไว้ก่อน
อย่างไรก็ตาม วัคซีนยังคงถือว่าเป็นเครื่องมือที่สามารถควบคุมโรคโควิดได้ดีในขณะนี้ แต่มาตรการการเว้นระยะห่างใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ยังคงเป็นเครื่องมือที่ดีที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก จึงขอความร่วมมือจากประชาชนว่ายังคงให้ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวต่อไป
สำหรับกรณีปัญหาเรื่อง Application หมอชนะ ที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวยืนยันว่า แอพพลิเคชั่นดังกล่าวมีประโยชน์ต่อการควบคุมโรคและมีหลายตัวอย่าง ว่า หากไม่มีการใช้แอพพลิเคชั่นนี้ก็จะทำให้ต้องใช้ความพยายามในการติดตามประวัติของผู้ที่ติดเชื้อเป็นอย่างมาก ขณะนี้ผู้ที่ดูแล Data Controller ของกระทรวงดิจิทัลฯ ได้มีการพูดคุยกันแล้วเชื่อว่าความเข้าใจที่ผิดจะหมดไปและจะทำให้มีการพัฒนาระบบให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม ส่วนรายละเอียดความชัดเจนนั้น ขอให้ติดตามได้จากการแถลงข่าวของรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี