21 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุมอู่หลง ศาลากลาง จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจ.เชียงราย นายแพทย์ทศเทพ บุญทอง นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงราย นายแพทย์สมศักดิ์ อุทัยพิบูลย์รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ร่วมกันแถลงข่าวการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ชาวจ.เชียงราย รายล่าสุดถือว่าเป็นรายที่ 65 นับตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.2563 เป็นต้นมา และเป็นรายแรกในรอบ 1 เดือนเศษของ จ.เชียงราย
สำหรับรายล่าสุดนี้ พบเป็นชายอายุ 28 ปี ชาว ต.ป่าซาง อ.แม่จัน จ.เชียงราย ทำงานเป็นพนักงานบริษัทแห่งหนึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯ และเดินทางกลับบ้านด้วยเครื่องบินเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.2563 และไปร่วมงานศพญาติที่ อ.แม่จัน จากนั้นวันที่ 26 ธ.ค.2563 นั่งรถโดยสารไปพักและท่องเที่ยวที่ จ.เชียงใหม่ หลายแห่ง รวมทั้งสถานบันเทิงร้านวอร์มอัพ และริเวอร์ไซต์ กระทั่งถึงวันที่ 5 ม.ค.2564 จึงเดินทางกลับบ้าน ที่จังหวัดเชียงรายด้วยรถยนต์ส่วนตัว
ในวันที่ 6 ม.ค.2564 ได้ไปขอรับการตรวจไวรัสโควิด-19 ที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์พบผลเป็นลบ แต่ทางบริษัทได้แจ้งให้กักตัวก่อน ชายคนดังกล่าวได้ทำการกักตัวที่บ้านพักที่ อ.แม่จันจ.เชียงราย จนถึงวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา และช่วงบ่ายได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเกษมราษฏร์ ศรีบุรินทร์ ปรากฎว่าผลออกมาเป็นบวก จึงส่งตรวจที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์อีกครั้ง พบผลยืนยันเป็นบวก ปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ โดยมีอาการไอ คัดจมูก มีน้ำมูก แต่ไม่มีไข้
โดยมีผู้สัมผัสทั้งหมด 13 ราย มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงจำนวน 7 ราย โดยแบ่งเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านจำนวน 3 รายประกอบไปด้วยพ่อ แม่ และน้าชาย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อทั้งหมด ผู้สัมผัสในชุมชน จำนวน 4 ราย ประกอบด้วยเพื่อนที่เดินทางมาส่งจากจังหวัดเชียงใหม่ (อยู่จังหวัดเชียงใหม่) จำนวน 1 รายตรวจแล้วอยู่ระหว่างรอผล ญาติ (เพื่อนบ้าน) จำนวน 1 ราย ตรวจแล้วไม่พบเชื้อ เพื่อนที่ผู้ป่วยและร่วมรับประทานอาหารเย็นอำเภอเมือง จำนวน 2 ราย นัดตรวจวันที่ 25 ม.ค.64 โดยทั้งหมดกับตัวที่บ้านเป็นเวลา 14 วัน โดยมีเจ้าที่สาธารณสุขเป็นผู้ติดตามจนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564
ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ จำนวน 6 ราย ผู้สัมผัสในสถานพยาบาล จำนวน 6 ราย เป็นเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเอกชนที่เก็บตัวอย่างวันที่ 19 มกราคม จำนวน 6 ราย ยังไม่ได้ตรวจ ทั้งหมดเฝ้าระวังอาการตนเองเป็นเวลา 14 วันจนถึงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2564
โดยนายประจญ กล่าวว่า กรณีนี้ถือว่าควบคุมได้ไม่ยาก เพราะไม่ได้เกิดจากการระบาดในพื้นที่ เพราะเชียงรายไม่พบผู้ติดเชื้อภายในเลยมานานแล้ว ส่วนตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 65 ราย ที่ผ่านมา ก็มีการพบเชื้อภายในจังหวัดเพียงแค่ 2 ราย คือ กรณีเพื่อนของหญิงสาวที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านช่วงปลายเดือน พ.ย. 2563 จำนวน 1 รายและในกรณีนี้อีก 1 ราย เท่านั้น ที่เหลือเป็นผู้ติดเชื้อที่มาจากประเทศเพื่อนบ้านและเข้าสู่สถานกักกันโรคของรัฐทั้งสิ้น
"ก็ไม่เกินความคาดหมายเพราะหลังจากเราป้องกันชายแดนเป็นอย่างดีจนไม่มีการลักลอบเข้ามาได้แล้วก็ปรากฎว่าการเดินทางภายในประเทศที่สะดวกสบายได้ทำให้ควบคุมได้ยากกว่า โดยเฉพาะช่วงเทศกาลที่คนต้องกลับบ้าน ดังนั้นมาตรการคือเมื่อพบผู้ติดเชื้อต้องเข้าไปแก้ไขให้เร็วที่สุดและกรณีนี้ถือว่าผู้ติดเชื้อทำได้ดี ที่มีการกักตัวเองที่บ้านหรือ Home Quarantine เป็นอย่างดี" นายประจญ กล่าว
ด้านนายแพทย์ทศเทพ กล่าวว่า ผู้ติดเชื้อรายนี้ไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ หลายแห่งใน จ.เชียงใหม่ โดยมีเพื่อนที่นั่งดื่มกินที่ร้านอาหารด้วยกันจำนวน 9 คน และมี 7 คนในนั้นตรวจพบว่าติดเชื้อ โดยหนึ่งในนั้นก็คือตัวของเขาเอง สำหรับกลุ่มเสี่ยงสูงจำนวน 2 รายสุดท้ายที่มีการนัดตรวจวันที่ 25 ม.ค.2564 นั้น เพราะเหตุผลเรื่องการฟักตัวของเชื้อเพื่อความแน่นอนแต่ตนไม่กังวลมากเพราะเจอกันช่วงสั้นๆ โดยบังเอิญหลังจากที่ผู้ติดเชื้อได้ไปตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลเท่านั้น แต่ทั้งกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงกรณีนี้ทั้งหมดให้กักตัว 14 วันหมดแล้วจึงไม่น่าเป็นห่วง
"กรณีที่มีโรงเรียนบางแห่งใน อ.แม่จัน ได้ทำการปิดโรงเรียนหลังทราบข่าวการพบผู้ติดเชื้อในพื้นที่นั้นถือว่าเป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติที่มีเอกสารชัดเจนระบุว่า จะปิดโรงเรียนก็ต่อเมื่อมีนักเรียนในโรงเรียนติดเชื้อไปแล้ว แม้แต่กรณีพบว่ามีนักเรียนที่เป็นกลุ่มสัมผัสเสี่ยงสูงก็ไม่ควรปิด แต่ใช้วิธีการให้เด็กคนดังกล่าวหยุดเรียนเพื่อเข้าสู่กระบวนการกักตัว และยิ่งกรณีเป็นกลุ่มผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำก็ให้ดูแลตัวเอง กรณีนี้จึงไม่จำเป็นต้องปิดโรงเรียนแต่อย่างใด ส่วนประชาชนที่มีความกังวลสามารถไปขอตรวจที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่งได้โดยไม่คิดมูลค่า แต่จะต้องผ่านการสอบสวนโรคก่อนและไม่จำเป็นต้องเสียเงินไปตรวจที่โรงพยาบาลเอกชนแต่อย่างใด" นายแพทย์ทศเทพ กล่าว
ทางด้านนายแพทย์สมศักดิ์ กล่าวว่า สำหรับอาการของผู้ติดเชื้อรายล่าสุดนี้ พบว่าแทบไม่มีอาการใดๆ จึงไม่จำเป็นต้องให้ยารักษาใดๆ แต่ให้นอนพักอยู่ ซึ่งตามกระบวนการรักษาจะใช้เวลา 10 วัน เมื่อไม่พบเชื้ออีกก็ถือว่าหายป่วยสามารถออกจากโรงพยาบาลได้ ส่วนกรณีที่ผู้ปวยรายนี้ตรวจพบเชื้อทั้งๆ ที่ได้ตรวจครั้งแรกและกักตัวเองนานถึง 14 วันนั้น ขอชี้แจงว่าตามปกติการฟักตัวของเชื้อไวรัสโควิด-19 คือ 5-7 วันแต่กรณีนี้เป็นผู้ป่วยที่เข้าข่ายการฟักตัวของเชื้อนาน 7-14 วัน ซึ่งมีรายงานในลักษณะนี้มาแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี