ซีลชายแดนใต้! ปิดทุกช่องทางสกัดต่างด้าวหนีเข้าเมือง จับแล้วรวม 600 ราย
22 มกราคม 2564 ที่ห้องประชุมยะลารวมใจ ศูนย์ปฏิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า อ.เมือง จ.ยะลา พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการ ตำรวจภูธรภาค 9 และนายชัยสิทธิ์ พาณิชย์พงษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ร่วมแถลงมาตรการควบคุมและสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง และกวดขันจับกุมขบวนการนำพาแรงงานต่างด้าว หลังจับกุมแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าทางช่องทางธรรมชาติได้แล้วกว่า 600 คน
พล.ท.เกรียงไกร กล่าวว่า การควบคุมสกัดกั้น บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองนั้น ได้มีการกวดขันจับกุมขบวนการนำพาบุคคลต่างด้าว ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดและควบคุมการปฏิบัติตามแนวชายแดน รวมทั้งเพิ่มมาตรการสกัดกั้นให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้จัดตั้งกองบังคับการทางยุทธวิธี ดูแลพื้นที่ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และพื้นที่อำเภอตากใบ อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอแว้ง เพิ่มเติมด้วยการลาดตระเวนอย่างเข้มข้นทุกตารางนิ้ว เสริมด้วยการสกัดกั้นทางน้ำ และเฝ้าตรวจแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง โดยได้บูรณาการกำลังและเครื่องมือกับทุกภาคส่วนในการบังคับใช้กฎหมายตามแนวชายแดนอย่างเคร่งครัด
นอกจากนี้เสริมกำลังตามแนวชายแดน เฝ้าระวังป้องกันจุดล่อแหลมที่เป็นช่องทางข้ามแดนตามธรรมชาติทั้งทางบกและทางน้ำ โดยเขตแดนแนวลำน้ำ ใช้กำลังชุดปฏิบัติการทางน้ำ ประสานงานร่วมกับทหารเรือ และตำรวจน้ำในการลาดตระเวนทางเรือ สำหรับในพื้นที่ป่าเขาจัดกำลังกองร้อยเฉพาะกิจ เสริมการปฏิบัติงานของกำลังป้องกันชายแดน เพิ่มเติมด้วยชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่พบการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง รวมถึงเสริมระบบไฟส่องสว่าง และเครื่องกีดขวาง ปิดช่องทางธรรมชาติที่ผิดกฎหมาย ตลอดจนซ่อมแซมรั้วชายแดนที่ถูกทำลาย
ขณะที่ในช่องทางที่มีชุมชนหรือหมู่บ้านอาศัยอยู่ใกล้แนวชายแดน ได้จัดตั้ง จุดตรวจ จุดสกัด รวมทั้งจัดตั้งแหล่งข่าว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ส่วนการดูแลพื้นที่ตอนใน ใช้การบูรณาการกำลังร่วมกันกับภาคส่วนต่างๆ ทั้ง ทหาร ตำรวจ ปกครอง และ อสม. ค้นหาเชิงรุกในชุมชนและหมู่บ้าน ตลอดจนสร้างความร่วมมือกับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และจัดตั้งเครือข่ายภาคประชาชน เฝ้าระวัง เป็นหูเป็นตา ช่วยกันสกัดกั้นป้องกันตามแนวชายแดนเสริมอีกทางหนึ่ง พร้อมชี้แจงสร้างความเข้าใจให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญในเรื่องการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 เพื่อ “ตัดต้นตอของขบวนการนำพา” และเพิ่มประสิทธิภาพในการสกัดกั้นการลักลอบการหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า ที่ผ่านมาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการกวดขันจับกุมอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในห้วงตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2563 จนถึงปัจจุบัน มีสถิติการจับกุมจำนวน 86 ครั้ง จับกุมบุคคลต่างด้าวได้ 624 คน แยกเป็นสัญชาติเมียนมา 408 คน กัมพูชา 64 คน ลาว 76 คน มาเลเซีย 21 คน เวียดนาม 45 คน บังคลาเทศ 1 คน สัญชาติจีน 2 คน และอื่นๆ 26 คน ซึ่งสามารถจับกุมได้ในพื้นที่ชายแดนระหว่างการข้ามแดน บริเวณด่านตรวจจุดสกัดในระหว่างการเคลื่อนย้าย และจากการพิสูจน์ทราบพื้นที่หลบซ่อนพักพิง ทั้งบริเวณแนวชายแดนและจุดพักคอยในพื้นที่ตอนใน พร้อมทั้งได้จับกุมผู้นำพาทั้งในระหว่างการเคลื่อนย้าย และระหว่างให้ที่พักพิงรวมทั้งสิ้นจำนวน 15 คน นำไปสู่การพิสูจน์ทราบขยายผลบุคคลที่เกี่ยวข้องกับขบวนการนำพาบุคคลต่างด้าว จำนวน 13 ครั้ง ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จังหวัดปัตตานี จังหวัดสงขลา และจังหวัดนครศรีธรรมราช
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี