เมื่อวันที่ 22 มกราคม พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.พีระ อัศวพิบูลย์ผล ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ท.นิยม สุ่ยวงษ์ รอง ผกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี พ.ต.ต.สนิทพงษ์ อินทรกำแหงสว.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี นำกำลังเข้าจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ก่อนขยายผลไปยังเครือข่ายที่มีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติด โดยส่งสายลับเข้าติดต่อล่อซื้อ และนัดหมายส่งมอบยาบ้า กันที่หน้าบ้านพักหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 6 ต.ทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เมื่อถึงเวลานัดหมาย ได้มีผู้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ยาริส เอทีป สีน้ำเงิน ทะเบียน งษ 1036 เชียงใหม่ เข้ามาจอด เจ้าหน้าที่ซึ่งซุ่มรออยู่แล้ว จึงแสดงตัวเข้าปิดล้อมรถคันดังกล่าว และเรียกให้คนขับลงจากรถ โดยทราบชื่อต่อมาคือ นายณัฐศาสตร์ ศรีนาอายุ 26 ปี ชาว จ.ลำปาง ตรวจค้นในรถ พบยาบ้า 30,000 เม็ด ไอซ์ 209.49 กรัม โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องถูกซุกซ่อนไว้ที่บริเวณที่พักเท้าข้างคนขับ และใต้เบาะนั่งด้านข้างคนขับ จึงยึดทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวนเบื้องต้นนายณัฐศาสตร์ ให้การว่า เคยเรียนจนสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคเหนือและได้เกียรตินิยมอันดับ 1 จากนั้นก็สมัครเข้าทำงานในตำแหน่งรองผู้จัดการของบริษัทเดินรถแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ แต่ทำงานได้ 2 ปี เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้กระทบต่องาน ไม่ได้รับเงินโบนัส และถูกลดเงินเดือนลง จึงหันมาค้ายาเสพติด ทั้งยาบ้าและไอซ์ โดยไปรับตามจังหวัดต่างๆ ทำมาแล้วหลายครั้ง กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า,ไอซ์) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย ก่อนจะคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งคอก รับไว้ดำเนินคดีและขยายผลการจับกุมต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี