‘ผู้ประกาศข่าว’ติดโควิด!
ศบค.-NBTป่วน
‘หมอทวีศิลป์’ต้องกักตัวเอง
เสี่ยงสูง30คนเฝ้าระวัง14วัน
ตรวจพนง.นับพันทั้งสถานี
ทำเนียบฯเข้มพ่นยาฆ่าเชื้อ
ไทยป่วยเพิ่ม309/ยอด1.3หมื่น
ผู้ประกาศข่าวเอ็นบีที ติดโควิด-19 ทำทีมงาน ใน“ศบค.–เอ็นบีที–กรมประชาสัมพันธ์” รวมถึง“หมอทวีศิลป์” ต้องตรวจหาเชื้อระนาวนับพันคนโดยรถตรวจเชื้อพระราชทาน 2 คัน ทีมสอบสวนโรคพบสัมผัสใกล้ชิด เสี่ยงสูง 30 คน ต้องกักตัว 14 วันทำเนียบฯ ยกระดับมาตรการสกัดระบาดเข้มขึ้นอีกพร้อมฉีดยาฆ่าเชื้อด่วน ยันการ์ดไม่ตก ด้านผู้ประกาศฯโพสต์ขอโทษทำวุ่น แจงไทม์ไลน์ไปซื้อของซูเปอร์ฯ-กินข้าว-อ่านข่าว เผยช่างแต่งหน้าที่แต่งให้ “ดีเจมะตูม” ผลเป็นลบ
ส่วนตลาดกลางกุ้งตรวจรอบ 2 แรงงานต่างด้าว 1.2 พันคน ก่อนเปิดค้าขายปกติ ระยองเฮ ตัวเลขป่วยเป็นศูนย์วันแรกในรอบ 1 เดือน ผู้ป่วยรายใหม่วันนี้ 309 คน สธ.เดินหน้าค้นหาเชิงรุกสมุทรสาครให้จบก่อน 31 มค.เพื่อประเมินสถานการณ์ ปูพรมค้น 5 เขตกทม.ติดสมุทรสาคร หาคนติดเชื้อแยกออกมาตัดวงจรระบาด
เมื่อวันที่ 22 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 ) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมง
ผู้ประกาศNBTติดโควิด-หมอทวีศิลป์กักตัว
โดยการแถลงข่าววันนี้ นพ.ทวีศิลป์ได้ชี้แจงกรณีไม่มีพิธีกร จากสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) มาทำหน้าที่ร่วมด้วยว่า สาเหตุที่ต้องมาทำหน้าที่คนเดียว เนื่องจากมีผู้ประกาศข่าวชายช่องเอ็นบีทีตรวจพบเชื้อโควิด-19 ทำให้ผู้ประกาศข่าวที่มาช่วยตนทำงานเป็นผู้เสี่ยงสูง จึงเข้าไปตรวจสารคัดหลั่งทางโพรงจมูกเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ขณะที่ตนเป็นผู้สัมผัสของผู้สัมผัส ซึ่งเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ หลังจากแถลงข่าวเสร็จจะไปตรวจเช่นเดียวกัน และจะกักตัวไปก่อน ถ้าผลออกมาไม่ติดเชื้อ คงจะพิจารณาการดูแลตัวเอง และขณะนี้ที่ทำเนียบรัฐบาล สถานที่แถลงข่าวของศบค. ได้ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุข ถ้ามีคนเข้ามาจะดูแลในมาตรฐานที่สูง และช่วงบ่ายวันนี้ จะนำรถชีวนิรภัยพระราชทานไปที่กรมประชาสัมพันธ์ เพื่อตรวจพนักงานเอ็นบีทีทั้งหมดป้องกันและควบคุมโรค ทั้งผู้ที่เสี่ยงสูง ปานกลาง และต่ำ
ติดเชื้อใหม่309สะสมทะลุ1.3หมื่น
จากนั้นนพ.ทวีศิลป์แถลงจำนวนผู้ติดเชื้อประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 309 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 297 ราย โดยเป็นผู้ป่วยรายใหม่จากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 80 ราย ค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในชุมชน 217 ราย ในจำนวนนี้เป็นการค้นหาเชิงรุกในจ.สมุทรสาคร 212 ราย เป็นแรงงานต่างด้าว 196 ราย คนไทย 16 ราย และอยู่ในกทม. 5 ราย นอกจากนี้ มีผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและอยู่ในสถานกักตัวของรัฐ 12 ราย ทำให้มีผู้ติดเชื้อสะสม 13,104 ราย หายป่วยสะสม 10,224 ราย อยู่ระหว่างรักษาตัว 2,809 ราย โดยมีอาการหนัก 10 ราย ไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ทำให้ยอดสะสมคงที่ 71 ราย และขณะนี้มีผู้ติดเชื้อกระจายอยู่ใน 63 จังหวัด ส่วนสถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 98,086,978 ราย เสียชีวิตสะสม 2,100,341 ราย
ลุยปูพรมค้นหมื่นรง.ในสมุทรสาคร
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า วันเดียวกันนี้ ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินหรือศูนย์อีโอซี กระทรวงสาธารณสุขหารือกับศบค.ชุดเล็กถึงการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกในจ.สมุทรสาครที่มีแรงงานเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเมียนมาที่มีอยู่หลักแสน และแรงงานไทยอยู่จำนวนมากนั้น โดยวางแผนไว้ว่าสัปดาห์หน้าจะเข้าไปค้นหาเชิงรุกกันให้มาก เพราะบางโรงงานมีแรงงานอยู่เป็นหมื่น จำเป็นต้องตรวจเพิ่ม ต้องเร่งค้นหาเชิงรุกให้ทันวันที่ 31 มกราคม เพื่อนำข้อมูลมาใช้ตัดสินใจประเมินสถานการณ์ว่าจะผ่อนคลายหรือเข้มข้น โดยสัปดาห์หน้าทางปลัดกระทรวงสาธารณสุขและ ศบค.ชุดเล็กจะวางแผนและวันที่ 23 มกราคมจะประชุมเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ช่วงเช้าวันนี้มอบหมายผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร วางแผนปูพรมตรวจทั้งจังหวัด เพื่อลดการระบาดให้ได้โดยเร็ว
สุ่มตรวจ5เขตกทม.ติดสมุทรสาครด้วย
โฆษก ศบค.กล่าวอีกว่า ส่วนกทม.ขณะนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสม 648 ราย มีรายงานเพิ่มเติมว่า เขตที่เชื่อมโยงกับจ.สมุทรสาคร 5 เขต เช่น เขตบางขุนเทียนที่มีโรงงานเช่นกัน มีความเสี่ยงไม่ต่างจากจ.สมุทรสาคร กทม.วางแผนเข้าไปสุ่มตรวจตามโรงงานด้วย เป็นการทำงานเชิงรุก สัปดาห์หน้าตัวเลขทั้งสองแห่งจะออกมาพร้อมกัน สำหรับงานต่างๆ ของการขับเคลื่อนการดูแลควบคุมโรค จะเป็นไปตามสถานการณ์ ต้องปรับไปตามตัวเลขจริงที่นำเสนอ โรคนี้เป็นโรคหนึ่งที่อยู่กับเรา ทุกคนมีความเสี่ยง เราต้องป้องกันตัวเองให้ดี การพบกับคนอื่นให้บอกไว้เสมอว่าเขามีโอกาสติดเชื้อ ขณะที่ตนก็มั่นใจตัวเองระดับหนึ่ง เพราะใส่หน้ากากทุกครั้งเวลาประชุม แต่การล้างมือและมีระยะห่างก็สำคัญ แม้ติดเชื้อก็มีทางออกคือ เข้ารักษา จึงขอให้ทุกคนตระหนัก แต่ไม่ตื่นตระหนกเกินไป ที่สุดจะเหมือนวัณโรคที่แรงกว่า และมาทางอากาศ ซึ่งเราอยู่กับวัณโรคมาตั้งแต่เกิด แต่โควิด-19 เราเพิ่งรู้จัก 1 ปีนี้ เราต้องอยู่กับเขาให้ได้
NBTวุ่นสธ.ส่งรถตรวจเชื้อพนง.ทั้งสถานี
ด้านนายชัยวัฒน์ บุญชวลิต เลขานุการกรม กรมประชาสัมพันธ์ เปิดเผยถึงกรณีที่มีเจ้าหน้าที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย (เอ็นบีที) ติดเชื้อโควิด-19 ว่า เป็นเรื่องจริง โดยผู้ที่ติดเชื้อขณะนี้มี 1 คน คือ นายส.กรกช ยอดไชย ข้าราชการกรมประชาสัมพันธ์ เป็นผู้ประกาศข่าวค่ำของสถานี ซึ่งนาย ส.กรกชเพิ่งทราบผลว่าติดเชื้อโควิด-19 ช่วงเช้าวันนี้ และกรมประชาสัมพันธ์แจ้งให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขเข้ามาสอบสวนโรคแล้ว พร้อมมีรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทานเข้ามาให้บริการตรวจหาเชื้อแบบสวอปแก่ข้าราชการและพนักงานของสถานีเอ็นบีทีทั้งหมด เพื่อความสบายใจและป้องกันการระบาด รวมถึงสอบสวนโรคหาจำนวนผู้เสี่ยงสูง เสี่ยงปานกลาง เสี่ยงต่ำ
พบเสี่ยงสูง30คนกักตัว14วัน
สำหรับมาตรการหลังจากนี้จะตรวจเชิงรุก โดยมีรถเก็บตัวอย่างชีวนิรภัยพระราชทาน 2 คัน ตั้งจุดให้บริการเก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งจากกลุ่มเสี่ยงกลุ่มเป้าหมายคือ พนักงานของเอ็นบีที และกรมประชาสัมพันธ์ 1,200 คน ในจำนวนนั้นมีผู้ที่เสี่ยงสูงจากการสัมผัสใกล้ชิด 30 คนต้องกักตัว 14 วัน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนาย ส.กรกช มีผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดเสี่ยงสูงประมาณ 30 คน ขณะเดียวกันได้ส่งผลในวงกว้าง เนื่องจากก่อนทราบผลได้อ่านข่าวร่วมกับผู้ประกาศข่าวของเอ็นบีทีอีก 3 ราย ซึ่งมี 2 ที่เป็นพิธีกรของ ศบค.ที่ใกล้ชิดนพ.ทวีศิลป์ โฆษก ศบค.ด้วย นอกจากนี้ ช่วงบ่ายวันเดียวกัน ทางสถานีฯได้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อในพื้นที่ทั้งหมด
เปิดไทม์ไลน์ผู้ประกาศข่าว
ส่วนไทม์ไลน์ของนาย ส.กรกชนั้น วันที่ 8 มกราคม ทำงานที่บ้าน 9 มกราคม ออกไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ต สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา 10 มกราคม ทำงานที่เอ็นบีที 11 มกราคม ทำงานที่บ้าน ช่วงเย็นมาอ่านข่าวภาคค่ำ ที่เอ็นบีที 12 มกราคม มาอ่านข่าวภาคค่ำที่เอ็นบีที 13 มกราคม ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์สวมหน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอดเวลา 14 มกราคม ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์สวมหน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอดเวลา 15 มกราคม ทำงานที่บ้าน 16 มกราคม รับประทานอาหารเย็นกับเพื่อนที่ร้านย่านราชประสงค์ 17 มกราคม อยู่ห้องพักตลอดทั้งวัน ช่วงเย็นมาอ่านข่าวภาคค่ำที่เอ็นบีที 18 มกราคมทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ สวมหน้ากากอนามัย แต่ไม่ตลอดเวลา 19 มกราคม ทำงานที่กรมประชาสัมพันธ์ ช่วงเย็นมาอ่านข่าวภาคค่ำที่เอ็นบีที 20 มกราคม ทำงานกรมประชาสัมพันธ์ อยู่ภายในห้องเดียวกับเพื่อนร่วมงาน 5 คน และมาทำงานที่เอ็นบีที 21 มกราคม ทำงานที่บ้าน 22 มกราคม อยู่ที่พัก ไม่ได้เจอใคร ทราบผลว่าติดเชื้อโควิด เนื่องจากเพื่อนโทรมาแจ้งผล
ผู้ประกาศโพสต์ขอโทษ
ขณะที่ผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ NBT โพสต์เฟซบุ๊ก So Korakot Yotchai ขอโทษทุกคน พร้อมชี้แจงอาการว่า วันที่ 20 มกราคม รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ปวดหัวค่อนข้างแรง กินพาราแล้วก็นอนไป ตื่นเช้ารู้สึกว่ามีไข้ต่ำๆ และยังปวดหัวอยู่ จึงไปหาหมอ ซักประวัติ ซึ่งหมอคิดว่าเป็น ไข้เลือดออก ห้นอน รพ. ช่วงค่ำๆ ผลตรวจเลือดออกมาว่า ติดเชื้อไวรัส แต่ไม่รู้ว่าตัวไหน จึงขอ swab ตอน 2 ทุ่ม จากนั้นคอนเฟิร์มผลตอน ตี 5 วันนี้ (22 มกราคม) และย้ายเข้ามาพักที่ห้องความดันลบ หลังทราบผลตนแจ้งทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งสองแห่ง เพื่อน บุคคลใกล้ชิดให้ไปตรวจ ระหว่างนี้ทุกคนอาจต้องวุ่นวาย ส่วนกรณีมีข่าวช่างแต่งหน้าที่ช่องไปแต่งหน้าให้คุณมะตูม ได้รับแจ้งจากตัวช่างเองว่า ไปตรวจตั้งแต่ทราบข่าวคุณมะตูม และผลออกมาว่าไม่ติด ขอให้ทุกคนปลอดภัยและต้องขอโทษทุกคนอีกครั้ง
ทำเนียบยกระดับพ่นยาฆ่าเชื้อ
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาล สำนักโฆษกสำนักนายกรัฐมนตรี แจ้งสื่อมวลชนประจำทำเนียบฯ ขอความร่วมมือสื่อมวลชน ออกจากทำเนียบฯก่อนเวลา 16.30 น. เนื่องจากฝ่ายอาคารและสถานที่จะเข้ามาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อ เป็นการปรับความเข้มข้นมาตรการป้องกันโควิด-19 จากเดิมที่ดำเนินการอยู่แล้ว หลังผู้ประกาศสถานีโทรทัศน์ NBT ติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งแม้ว่าผู้ติดเชื้อคนดังกล่าวไม่ได้เข้ามาในทำเนียบฯ แต่ใกล้ชิดพิธีกรและผู้ประกาศคนอื่นของสถานี NBT ที่มาปฏิบัติภารกิจภายในทำเนียบฯ ทำให้นพ.ทวีศิลป์ประกาศกักตัวและเตรียมตรวจเชื้อ พร้อมยอมรับว่า แม้อยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่ำ แต่ต้องเพิ่มมาตรการป้องกัน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้วันที่ 20 มกราคม ที่ทำเนียบฯได้ตรวจหาเชื้อโควิด-19 แบบ Swab ให้ผู้สื่อข่าวและผู้ปฎิบัติงานในทำเนียบฯทั้งหมด ผลออกมาเป็นลบทั้งหมด เจ้าหน้าที่สำนักโฆษกฯแจ้งในกลุ่มสื่อมวลชนทำเนียบฯช่วงเย็นวันเดียวกันนี้ว่า ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 25 มกราคม สื่อมวลชนคนใดไม่ผ่านการตรวจโควิด และติดสติ๊กเกอร์ที่สำนักโฆษกฯออกให้ จะไม่อนุญาตให้เข้ามาปฎิบัติงานที่ทำเนียบฯ
ตรวจซ้ำแรงงาน1.2พันตลาดกลางกุ้ง
อีกด้านหนึ่งมีความเคลื่อนไหวในพื้นที่เสี่ยงสูงหรือพื้นที่สีแดง ในการป้องกันและควบคุมการระบาด โดยนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นพ.นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครและคณะตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานตรวจหาเชื้อโควิด 19 ในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ 1,200 คน ในตลาดกลางกุ้ง ซึ่งเป็นกลุ่มก้อนสีขาวที่ยังไม่เคยพบเชื้อเลย เป็นการหาผู้ติดเชื้อครั้งสุดท้าย แล้วนำออกมากักตัวในศูนย์ห่วงใยคนสาคร ส่วนผู้ไม่พบเชื้อและผู้ที่ผ่านกักตัวครบ 14 วัน ตามระบบสาธารณสุขแล้วนั้น ยังคงพักอาศัยอยู่ในตลาดกลางกุ้งต่อไป และใช้ชีวิต หรือทำงานได้ตามปกติเมื่อตลาดกลางกุ้งเปิดค้าขายได้
รอบสุดท้ายหาเชื้อ/ก่อนเปิดขาย
นายธีรพัฒน์เผยหลังตรวจพื้นที่ว่า การตรวจหาเชื้อครั้งนี้เป็นรอบสุดท้ายที่ตลาดกลางกุ้ง เพื่อหาผู้ติดเชื้อที่ยังคงหลงเหลืออยู่ คาดว่าอาจมีผู้ติดเชื้อใหม่ในจำนวนไม่มาก เมื่อคัดแยกผู้ติดเชื้อออกไปแล้ว จะพิจารณาให้ตลาดกลางกุ้งเปิดค้าขายได้ตามปกติ แต่ต้องเป็นไปภายใต้มาตรการและหลักเกณฑ์เข้มข้นที่กำหนดไว้ ไม่ให้เกิดการระบาดได้อีกครั้ง ส่วนมาตรการภายนอกยังใช้มาตรการเชิงรุกเข้าตรวจพื้นที่หรือกลุ่มเสี่ยง หากพบจะนำเข้าสถานที่กักตัวเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญตอนนี้ ไม่ใช่ตัวเลข แต่สถานประกอบการใดจะเปิดได้หรือไม่อยู่ที่การปฎิบัติตามระบบมาตรการสาธารณสุขที่วางไว้ ถ้าทำได้เคร่งครัดจะกลับมาค้าขายได้อีกครั้ง สิ่งสำคัญหลังตลาดกลางกุ้งเปิดได้แล้วคือ พ่อค้าแม่ค้า ลูกจ้าง ผู้ซื้อ ผู้ขายทุกคน ต้องค้าขายแบบใหม่ภายใต้ระบบสาธารณสุขที่กำหนดไว้
ระยองติดเชื้อเป็นศูนย์รอบ1เดือน
นายอนันต์ นาคนิยม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แถลงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19ว่า วันนี้ไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อ ซึ่งตัวเลขเป็น 0 ครั้งแรกตั้งแต่เกิดการระบาดของเชื้อระลอกใหม่ ซึ่งครบ 1 เดือนพอดีตั้งแต่มีผู้ติดเชื้อรายแรกวันที่ 22 ธันวาคม 2563 ส่วนยอดรวมผู้ป่วยทั้งหมดยังอยู่ที่ 572 คน รักษาหายแล้ว 516 ราย เสียชีวิต 1 ราย เหลือผู้ป่วยติดเชื้อที่ยังรักษาอยู่ 55 ราย ค้นหาเชิงรุกไปแล้ว 19,801 คน และยังคงตรวจหาเชื้อเชิงรุก โดยมีเจ้าหน้าที่ลงตรวจพื้นที่เสี่ยงทั่วทั้งจังหวัดต่อไป ส่วนเรื่องผ่อนคลายมาตรการต้องหารือประเมินร่วมกัน ให้เกิดความมั่นใจก่อน แต่ยังต้องมีมาตรการเข้มข้นต่อเนื่อง
ยังไม่วางใจย้ำยกการ์ดสูงต่อ
นายแพทย์สุนทร เหรียญภูมิการกิจ สาธารณสุขจังหวัดระยองกล่าวว่า นับเป็นเรื่องน่ายินดีที่วันนี้เป็นวันแรกที่ปลอดผู้ติดเชื้อแต่ยังวางใจไม่ได้ ต้องยกการ์ดสูงไว้จนกว่าจะไร้ยอดผู้ติดเชื้อติดต่อกันเกิน 14 วัน จึงจะมั่นใจได้ระดับหนึ่งว่าเชื้อจะไม่กลับมา สำหรับผู้ติดเชื้อที่รักษาตัวอยู่ 55 ราย ปอดติดเชื้อ 3 ราย ส่วนที่เหลืออาการไม่รุนแรง ที่สำคัญฝากให้ชาวระยองอย่าลืมป้องกันตัวเองให้ดี ปฏิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อด้วยตนเอง.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี