นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (รมว.ทส.) พร้อมด้วยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และผู้บริหาร ลงพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก และลำปาง ในระหว่างวันที่ 21-23 มกราคม 2564 ตรวจความพร้อมในการแก้ไขปัญหาหมอกควันไฟป่าภาคเหนือ รวมทั้งการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานภาคสนามในพื้นที่
โดยในวันที่ 21 มกราคม 2564 รมว.ทส. เดินทางไปโครงการป่าชุมชนบ้านหนองกวาง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ มอบเงินอุดหนุน (เงินกู้) โครงการสร้างเศรษฐกิจชุมชนจากป่าชุมชน จำนวน 10 โครงการ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล พร้อมทั้งมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน และร่วมเก็บใบไม้แห้งในพื้นที่ ตามนโยบาย "ชิงเก็บ ก่อนเผา" ของ รมว.ทส. เพื่อลดปริมาณเชื้อเพลิงในพื้นที่ป่า จากนั้นเดินทางไปอุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อติดตามสถานการณ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตรวจเยี่ยมและให้ขวัญกำลังใจเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติต้นสักใหญ่ อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมมอบแนวทางการดำเนินงานให้กับเจ้าหน้าที่ เพื่อนำไปปรับปรุงและพัฒนาพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่มีวินัย อดทน ซื่อสัตย์ และทำงานร่วมกันกับเครือข่ายชุมชน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการดูแลป่า สร้างความประทับใจ ความปลอดภัย ให้แก่นักท่องเที่ยวในการร่วมกันช่วยดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้คงความสมบูรณ์ ตลอดจนเยี่ยมชมการสาธิตการบริหารจัดการเชื้อเพลิงในรูปแบบการชิงเก็บ โดยการเก็บเศษใบไม้นำมาบดอัดเป็นเชื้อเพลิงอัดแท่ง เพื่อนำไปเป็นปุ๋ย และแจกจ่ายประชาชนในบริเวณพื้นที่ ได้นำไปใช้ในการบำรุงรักษาต้นไม้อีกด้วย
วันที่ 22 มกราคม 2564 ลงพื้นที่โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อเสริมความมั่นคงระดับชุมชน ตำบลบ้านด่านนาขาม อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมติดตามความก้าวหน้าโครงการดังกล่าวในการแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ให้ประชาชนมีน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งเป็นพื้นที่ 1 ใน 70 หมู่บ้านเสี่ยงภัยแล้งขาดแคลนน้ำ โดยการดำเนินโครงการดังกล่าว ทำให้ประชาชนกว่า 2,000 ราย 2 หมู่บ้าน 700 ครัวเรือน มีน้ำบาดาลสะอาดที่ต่อเข้าสู่ระบบประปาหมู่บ้าน เพื่อการอุปโภคบริโภค ช่วยให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งขาดแคลนน้ำ โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ ให้ประชาชนกินดีอยู่ดี มีความสุข ทั้งในเรื่องน้ำอุปโภคบริโภค หรือน้ำเพื่อการเกษตร
จากนั้นเดินทางไปโครงการปรับปรุงหนองปลาหมอ ตำบลย่านยาว อำเภอสวรรคโลก จังหวัดสุโขทัย ซึ่งได้ดำเนินการปรับปรุงเพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนสำหรับการอุปโภค บริโภค และการเกษตร ช่วยรักษาระบบนิเวศของแหล่งน้ำ เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาน้ำจืดและเป็นแหล่งน้ำแก้มลิงบรรเทาปัญหาอุทกภัยและน้ำแล้งในพื้นที่ รวมทั้งเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจเป็นสถานที่ออกกำลังกายของชุมชน ต่อมา รมว.ทส. เดินทางไปป่าชุมชนบ้านเด่นมะขาม ตำบลตลุกกลางทุ่ง อำเภอเมือง จังหวัดตาก เพื่อพบปะเครือข่ายป่าชุมชน และมอบเงินอุดหนุน (เงินกู้) โครงการสร้างเศรษฐกิจชุมชนจากป่าชุมชน จำนวน 10 โครงการ มอบหนังสือแสดงป่าชุมชน จำนวน 5 ป่าชุมชน พร้อมนำเครือข่ายชิงเก็บเชื้อเพลิงและร่วมทำแนวกันไฟ จากนั้นลงพื้นที่ไปอุทยานแห่งชาติดอยสอยมาลัย อำเภอบ้านตาก จังหวัดตาก เพื่อติดตามสถานการณ์และการอนุรักษ์คุ้มครองซากดึกดำบรรพ์ ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่
สำหรับวันที่ 23 มกราคม 2564 เดินทางไปโรงไฟฟ้าแม่เมาะ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เพื่อหารือแนวทางร่วมกันในการป้องกัน และแก้ไขปัญหาด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ พร้อมรับฟังปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากตัวแทนประชาชนในพื้นที่ อีกทั้ง รมว.ทส. ได้ตรวจติดตามการดำเนินงานของสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศบริเวณหน่วยบริการแม่เมาะอีกด้วย
นายวราวุธ ศิลปอาชา จัดว่าเป็นรัฐมนตรีที่ทำงานในช่วงวันหยุดมากที่สุด โดยไปมาแล้วกว่า 61 จังหวัด เดินทางเกือบ 2 แสนกิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ ทส. ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ตามนโยบาย ทส. ยกกำลัง 2+4
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี