"ส.ส.ชายแดนใต้"ลงพื้นที่รับฟังปัญหาอ่าวปัตตานี จากตัวแทนประมงพื้นบ้าน ปมใช้ลอบพับไอโง่-ดอนสันทรายกลางอ่าวจากโครงการขุดลอก
เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการใช้เครื่องมือลอบพับได้ หรือลอบไอโง่ และดอนสันทราย กลางอ่าวปัตตานี จากโครงการขุดลอกอ่าวฯ เมื่อปี 61 - 62 ที่ผ่านมา สร้างผลกระทบต่อการทำประมงพื้นบ้านของชาวประมง ในรอบอ่าวปัตตานี ทั้ง 7 ตำบล เนื่องจากเครื่องมือลอบพับไอโง่เป็นเครื่องมือที่สามารถจับสัตว์น้ำทุกขนาดทั้งเล็ก ใหญ่ ตลอดจนสัตว์น้ำวัยอ่อนที่รอการเจริญเติบโต แต่กลับถูกจับก่อนวัยขึงสร้างอัตราเจริญเติบโตของสัตว์น้ำในอ่าวฯ ทำให้จำนวนสัตว์ในอ่าวฯ ลดจำนวนหนึ่งอย่างทันตาเห็น ส่งผลกระทบให้ชาวประมงอวนลอยกุ้ง ลอยปู อวนล้อมปลา ไม่มีสัตว์น้ำให้จับ ขนาดต้องออกทำประมง 3 วัน หยุด 4 วัน ทำให้ชาวประมงต้องขาดรายได้เลี้ยงชีพ กลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว
เครื่องมือลอบพับได้ หรือลอบไอโง่ เริ่มเข้ามาในพื้นที่ตั้งแต่ปี 2555 หลังพายุดีปรีชั่นถล่มอ่าวปัตตานี ถึงแม้มีการพยายามออกตรากฎหมายห้ามตาม พ.ร.บ.กรมประมง ระบุเป็นเครื่องมือทำลายล้างสัตว์น้ำสูง มีการขาดโทษปรับสูงเป็นหลักแสน จำคุกไม่ต่ำกว่า 5 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนั้น ได้มีคำสั่งประกาศของ คสช.ให้มีการกวาดล้างอย่างจริงจัง แต่กลับไม่ค่อยมีผลต่อการบังคับใช้กฎหมายและคำสั่งของ คสช.อย่างจริงจังของหน่วงยงานรัฐในพื้นที่จนถึงทุกวันนี้
ไม่เพียงแค่ลำพังเครื่องมือลอบพับได้ หรือลอบไอโง่ เข้ามาสร้างผลกระทบต่อวิถีประมงพื้นบ้านในอ่าวฯ แต่กลับมีการดำเนินโครงการขุดลอกอ่าวฯ เข้ามาสร้างพลกระทบซ้ำเติมให้กับชาวประมงพื้นบ้านอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หลังจากมีการนำดินที่ขุดลอกมากองรวมกลางอ่าวฯ จนกลายเป็นดอนสันทรายขนาดใหญ่ พอที่จะสามารถเปลี่ยนติดทางไหลของทิศทางน้ำของอ่าวฯ ที่ชาวประมงต้องอาศัยทิศทางไหลของน้ำเป็นหลักในการทำประมง และบริเวณดอนสันทรายที่กองมานั้นเคยเป็นที่ทำประมงแหล่งดีที่สุดของพื้นที่ทำประมง มีแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ นอกจากปลาแล้วยังเป็นที่งมหอยหลักหลายชนิดอีกด้วย นับว่าเป็นการทำลายซ้ำเติมวิถีทำประมงของประมงพื้นบ้านในอ่าวปัตตานีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จนกลายเป็นที่มาของการเคลื่อนไหวออกมาเรียกร้องหาความผิดชอบจากเจ้าของโครงการควรรับผิดชอบอย่างไร และมีแนวทางแก้ไขปัญหาดอนสันทรายที่เกิดจากโครงการขุดลอกดังกล่าวไว้อย่างไร
ล่าสุด วานนี้ (24 มค.64) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในฐานะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่ร่วมรับฟังเวทีสาธารณะ ณ ลานเอนกประสงค์ ม.1 บ้านบูดี ต.แหลมโพธิ์ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เพื่อนำปัญหาเข้าสู่คณะกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาต่อไปอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วย 1.นายซูการ์โน มะทา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 2 พรรคประชาชาติ 2.นายอดิลัน อาลีอิสเฮาะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 1 พรรคประชารัฐ 3.นายอับดุลอายี สาแม็ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดยะลา เขต 3 พรรคประชาชาติ 4.นายอันวาร์ สาและ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดปัตตานี เขต 1 นายบัณฑิต อับดุลบุตร อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรคภูทิใจไทย เขต 1 ปัตตานี และนายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี ในฐานะเป็นฝ่ายประสานกับคณะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชายแดนใต้ และจัดตั้งเวทีสาธารณะร่วมรับฟังการสะท้อนปัญหาประมงพื้นบ้านในครั้งนี้
นอกจากนั้น คณะฯ ยังได้ร่วมกันนั่งเรือลงพื้นที่ไปดูสภาพดอนสันทรายที่ก่อเกิดปัญหา ตามที่ชาวประมงได้หยิบยกอภิปราย สะท้อนถึงในเวทีรับฟังสะท้อนปัญหาของประมงพื้นบ้านในรอบอ่าวปัตตานีจากตัวแทนประมง
จากการลงพื้นที่ในครั้งนี้ทำให้คณะฯ ต้องถึงกับตกใจกับสิ่งที่เห็นผ่านสายตา ว่าได้มีการดำเนินงานในลักษณะนี้ได้อย่างไร คงต้องหยิบยกเรื่องนี้เข้าสูกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาถามเพื่อหาข้อเท็จจริง และหาทางออกของการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพราะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและกระทบต่อระบบนิเวศน์อย่างรุนแรง โดยเฉพาะผลกระทบต่อชาวประมงพื้นบ้านที่ไม่สามารถใช้พื้นที่เพื่อการทำประมงได้ตามปกติ
นอกนั้นบนดอนสันทรายดังกล่าวได้มีการนำพันธุ์ไม้ต้นกล้าของไม้กงกางเอามาปลูกเป็นแนวยาวตลอดสันทราย เหมือนกับกำลังจะนำยึดพื้นที่ดังกล่าวเป็นที่ปลูกไม้กงกาง สร้างความกังวนของชาวประมงว่าจะกลายเป็นดอนสันทรายถาวรหรือไม่อย่างไร ซึ่งจากการเปิดเผยของชาวบ้านที่คณะฯ เข้ามาดูสภาพดอนสันทรายว่าเป็นของงานป่าไม้อะไรสักอย่าง จึงอยากให้มีการตรวจสอบ เพราะเป็นการเพิ่มปัญหากับชาวประมงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในอนาคต
นายอดิลัน อาลีอิสเฮาะ ส.ส.เขต 1 ยะลา และกรรมาธิการกฎหมายและการสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า หลังจากนี้ต้องเรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมาธิการฯ เพื่อเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับโครงการขุดลอกอ่าวฯ ที่มีงบประมาณสูงถึง 700 ล้านบาท เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาด่วน
ด้าน นายเศรษฐ์ อัลยุฟรี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปัตตานี กล่าวถึงมาตรการแก้ไขปัญหาลอบพับได้ หรือลอบไอโง่ ได้ข้อสรุปเบื้องต้นคือ เราเห็นควรดำเนินมาตรการจากเบาไปหาหนัก หมายถึงเราจะต้องเข้าทำความเข้าใจกับชาวประมงที่ยังใช้เครื่องมือนี้หยุดเสียก่อน โดยอาจให้ทางจังหวัดออกคำสั่งห้ามใช้เครื่องมือลักษณะนี้ กำหนดเวลาให้ชัดเจน จากนั้นค่อยใช้มาตรการทางกฎหมายบังคับใช้ต่อไป เพราะลดผลกระทบเนื่องจากมีการกำหนดโทษสูงมาก
ขณะที่ นานอันวาร์ สาและ ส.ส.เขต 1 ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า โครงการขุดลอกนี้ไม่ได้เกี่ยวกับยุค ส.ส.ปัจจุบัน เป็นยุคที่ยังไม่มีการเลือกตั้ง ส.ส.หลังจากนี้เราจะมีสภาชายแดนใต้ เพื่อเป็นสภารับเรื่องร้องเรียนของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ปัญหาแรกที่เรารับการร้องเรียนคือเรื่องการลอบใช้เครื่องลอบไอโง่ และเรื่องปัญหาดอนสันทราย ที่เกิดจากโครงการขุดลอกอ่าวปัตตานี จึงได้ร่วมกันลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหาในวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี