มอบตัวยกครัว
คดีโกง‘เราเที่ยวด้วยกัน’
ททท.จ่อแจ้งเอาผิดเพิ่ม
ตำรวจกองปราบฯ เดินหน้าขยายผลเชือดขบวนการทุจริตโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ล่าสุด มอบตัวยกครัวอีก 3 ราย หลังทนแรงกดดันไม่ไหว ขณะที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เตรียมเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่มเติม
เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2564 มีความคืบหน้ากรณีตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ได้บูรณาการร่วมกับเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ สืบสวนสอบสวน เพื่อติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาในขบวนการทุจริตโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ซึ่งเป็นโครงการของทางรัฐบาล โดยทางกองบังคับการปราบปรามได้ร่วมปฏิบัติการตรวจค้นจับกุมจำนวน 55 เป้าหมาย ในพื้นที่หลายจังหวัด สามารถติดตามจับกุมแก๊งทุจริตโครงการดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้แล้ว
ทาง กก.3 บก.ป.รับผิดชอบปฏิบัติการในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับจำนวน 41 หมายจับ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 38 ราย และยังคงมีผู้ต้องหาที่ไหวตัวทัน หลบหนีการจับกุมอีกจำนวน 3 ราย คือ น.ส.มลทิชา (สงวนนามสกุล) ผู้สวมสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน,นายโยธิน (สงวนนามสกุล) ผู้ดูแลแอปพลิเคชั่นถุงเงินของร้านค้าที่ร่วมมือกับขบวนการดังกล่าว และนางกมลวรรณ (สงวนนามสกุล) ผู้รวบรวมสิทธิโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และรับจ้างเปิดบัญชีธนาคาร โดยผู้ต้องทั้ง 3 ราย เป็นครอบครัวเดียวกัน ศาลอาญาได้ออกหมายจับไว้แล้วตามหมายจับที่ 134,139,142/2564 ลง 25 มกราคม 2564
ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสตงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น หรือประชาชน เพื่อประโยชน์ในการชำระค่าสินค้า ค่าบริการหรือหนี้อื่นแทนการชำระด้วยเงินสด หรือเบิกถอนเงินสด และร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ”
ต่อมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ป. จึงยังคงนำกำลังเร่งติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ที่ยังคงหลบหนีอยู่ มาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว กระทั่งวันที่ 28 มกราคม 2564 หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้วางกำลังกดดันเร่งติดตามตัวกลุ่มผู้ต้องหาอย่างหนัก ด้วยความเกรงกลัวต่อกฎหมาย ผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จึงได้ประสานมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม เพื่อขอมอบตัวดำเนินคดีตามกฎหมาย
มีรายงานข่าวเปิดเผย ถึงปฏิบัติการกวาดล้างจับกุมผู้ต้องหาขบวนการทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ใน จ.ชัยภูมิ และ จ.ภูเก็ต ที่ใช้กลโกงสารพัดรูปแบบว่า ในวันที่ 2 กุมภาพันธ์นี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) จะเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม(บก.ป.) เพิ่มเติม ก่อนที่จะสอบปากคำและนำสำนวนคดีส่งให้กับโรงพักท้องที่ต่างๆ ที่มีการทุจริตเกิดขึ้น โดยในช่วงวันที่ 4-5 กุมภาพันธ์นี้ จะมีการเรียกประชุมพนักงานสอบสวนตั้งแต่ระดับรองผู้บังคับการไล่ลงมากว่า 100 นาย จากทั่วประเทศ เพื่อรับทราบถึงแนวทางการทำคดีจาก บก.ป.
ทั้งนี้ จากแนวทางการสืบสวนยังเชื่อว่า นอกจากกลุ่มผู้ประกอบการกิจการห้างร้านโรงแรมต่างๆ ที่ทุจริตเงินโครงการแล้ว อาจมีบริษัทเอกชนซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการรับจองห้องพักและจ่ายเงินโครงการจากรัฐให้กับโรงแรม ประมาณ 5 แห่ง เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดด้วยหรือไม่ เนื่องจากคดีการจับกุมใน จ.ภูเก็ต พบว่าผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิ์จองห้องพักโรงแรม ไม่ได้ชำระเงินให้กับโรงแรม แต่ธนาคารกลับจ่ายเงินให้กับโรงแรมเพราะมีข้อมูลการจองจากกลุ่มบริษัทตัวกลางยืนยัน ซึ่งหากเจ้าหน้าที่พบหลักฐานการกระทำความผิด ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี