มหาวิทยาลัยแม่โจ้จัดโครงการรับสมัคร “ผู้ขออนุญาตปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์” ให้ความรู้ที่ถูกต้องในการขอใบอนุญาตปลูกกัญชง พร้อมนำบริษัทใหญ่ที่ได้รับอนุญาตร่วมให้ข้อมูลที่ถูกต้อง มีผู้ให้ความสนใจล้นหลาม
วานนี้ ( 29 ม.ค. 64 ) มหาวิทยาลัยแม่โจ้ เชียงใหม่จัดโครงการรับสมัคร “ผู้ขออนุญาตปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์” โดยมี รศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ศ.ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ นางนฤมล ขันตีกุล หน.กลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ นาบพิสณฑ์ ศรีบัณฑิต เภสัชกรชำนาญการ สำนักงานสาธารณสุขเชียงใหม่ ร่วมให้ความรู้ให้กับผู้สนใจในการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) ให้ถูกต้องตามกฎหมายกำหนด
ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวว่าการจัดกิจกรรมดังกล่าวในวันนี้เนื่องมาจากว่า ทางคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. ได้ประกาศกฏกระทรวงฯ การขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.63 และมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 ม.ค.64 ดังนั้นทางศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จึงจัดโครงการนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไปได้รับรู้ข่าวสาร และความเข้าใจที่ถูกต้องในกระบวนการยื่นขอใบอนุญาตปลูกกัญชง ณ บริเวณฐานเรียนรู้แปลงปลูกกัญชาอินทรีย์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้
ทั้งนี้ภายในงานมีองค์กรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมงานเพื่อให้คำแนะนำในการยื่นเอกสารเพื่อขออนุญาตปลูกกัญชงเชิงพาณิชย์ และช่องทางการจำหน่ายผลผลิต โดยมีโรงงานผู้ยื่นขอใบอนุญาต ทั้ง 5 โรงงาน ดังนี้ บริษัท SUPREME PHARMATECH และ บริษัท HEMPLAB(THAILAND) โรงงานสกัดกากโปรตีน จากน้ำมันเมล็ดกัญชง บริษัท DOD BIOTECH โรงงานสกัดสาร CBD รับผลิตอาหารและเครื่องสำอางจากกัญชง บริษัท EA STERN SPECTRUM GROUP โรงงานสกัดสาร CBD จากกัญชง และบริษัท Global Consumer ผู้นำกัญชงไปแปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารรูปแบบต่าง ๆ โดยมีการให้ข้อมูลกับเกษตรผู้ที่สนใจ และผู้เข้าร่วมงานได้เรียนรู้และศึกษาข้อมูลในการเตรียมพร้อมเพื่อยื่นขอใบอนุญาตฯ ด้วย
หลังจากที่การบรรยายให้ความรู้เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทางตัวแทนจากทางสำนักงานสาธารณะสุขจังหวัดเชียงใหม่ก็ได้ตั้งโต๊ะให้ผู้ที่สนใจในการขออนุญาตและการอนุญาตผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๕ เฉพาะกัญชง (Hemp) ภายในงานปรากฏว่า มีผู้ที่สนใจทั้งที่เป็นเกษตรกรและผู้ที่สนใจอื่นๆเข้าร่วมยื่นใบขออนุญาตเป็นจำนวนมาก ซึ่งถือว่าเป็นการมาบริการนอกสถานที่ในการยื่นขอใบอนุญาตฯของจังหวัดเชียงใหม่ และหลังจากนี้ผู้ที่จะยื่นขอใบอนุญาตนั้นจะต้องนำหลักฐานการขอใบอนุญาตไปยื่นขอด้วยตนเองที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดได้ทุกจังหวัด
ศาสตราจารย์ ดร.อานัฐ ตันโช ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวด้วยว่ากัญชงนั้น เป็นพืชที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มากและมีราคาสูง เช่นการผลิตกัญชงเพื่อใช้ประโยชน์จากเส้นใย (Hemp Fiber) เพื่อในในอุตสาหกรรมสิ่งทอ หรือผลิตน้ำมันจากเมล็ด (Hemp Seed Oil) เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมด้านความงามหรือสุขภาพ และการผลิตสารสำคัญ CBD ซึ่งในการผลิตสารสำคัญ CBD นั้นมีมูลค่าสูงถึงลิตรละไม่ต่ำกว่า 1 แสนบาท โดยผู้ที่จะยื่นขอใบอนุญาตนั้นควรที่จะความรู้ในเรื่องของกัญชงให้มากก่อนที่จะขอใบอนุญาต ซึ่งทางศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรธรรมชาติ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ นั้นก็ได้จัดการอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับพืชกัญชง-กัญชา ให้ทราบถึงความแตกต่างและเทคนิคการปลูกการดูแลรักษาภายใต้ชื่อโครงการอบรม“กัญชงเชิงพาณิชย์(รับรองประกาศกฎกระทรวงใหม่)” ซึ่งท่าผ่านมาได้อบรมไปแล้วจำนวน 5 รุ่น และก็มีการอบรมให้ความอยู่เป็นประจำ ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรมไปแล้วจะสามารถยื่นขอใบอนุญาตได้ง่ายขึ้นเพราะมีความรู้ความเข้าใจเป็นที่เรียบร้อย
ร.ศ.ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีหมาวิทยาลัยแม่โจ้ กล่าวด้วยว่า จากการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับกัญชาและกัญชง โดยผู้เชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ในอนาคตอันใกล้นี้มหาวิทยาลัยกำลังจะมีเมล็ดพันธุ์ที่เป็นสายพันธุ์ของตัวเองที่พัฒนาขึ้นมาและเป็นสายพันธุ์ไทยด้วย ทั้งนี้นอกจากเรื่องการปลูกให้ได้ผลผลิตมีคุณภาพแล้ว ยังให้คณะและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของมหาวิทยาลัยร่วมกันค้นคว้าพัฒนาในเรื่องของการนำกัญชาและกัญชงแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ ด้วย ทั้งอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง เครื่องปรุงรส หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าด้วย ซึ่งเบื้องต้นมีการนำมาใช้เป็นวัตถุดิบปรุงอาหารได้ 2 เมนู ได้แก่ ไข่เจียว และเทปุระ ที่ได้สูตรมาจากโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กับเครื่องดื่มชา พร้อมเตรียมแผนทดลองทำจำหน่ายให้กับผู้สนใจต่อไปด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี