31 ม.ค.64 นายจรัส คำแพง หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ต.ทุ่งนางาม อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี สืบเนื่องด้วยกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าปัจจุบันปริมาณมูลค้างคาวในถ้ำเขาฆ้องชัย ซึ่งได้อยู่ภายในวัดเขาฆ้องชัย และโรงเรียนลานสักวิทยาคม หมู่ที่ 1 ต.ป่าอ้อ อ .ลานสัก จ.อุทัยธานี โดยเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุนเป็นผู้ดูแล มีการสะสมและเกิดการทับถมเป็นจำนวนมากมาหลายสิบปี ทำให้พื้นที่ว่างภายในถ้ำลดน้อยลง ส่งผลต่อจำนวนประชากรค้างคาวที่อาศัยอยู่ภายในถ้ำ ซึ่งมีจำนวนลดลงจากอดีตมาก และมูลค้างคาวที่สะสมมากขึ้นจะมีความเสี่ยงที่อาจเกิดแก๊สไฟไหม้ภายในถ้ำรวมถึงอาจส่งกลิ่นเหม็นรบกวนแก่ชุมชนโดยรอบๆ
ดังนั้น การนำมูลค้างคาวออกจากถ้ำจึงเป็นการบริหารจัดการมูลค้างคาวภายในถ้ำที่มีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยจะเป็นประโยชน์ในการคุ้มครอง อนุรักษ์พันธุ์ค้างคาว เป็นการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและระบบนิเวศภายในถ้ำ อีกทั้งมูลค้างคาวที่นำออกมาจะนำไปแจกจ่ายให้กับหน่วยงานในสังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 12 (นครสวรรค์) และหน่วยงานต่างๆ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการฟื้นฟูพื้นที่ป่าอนุรักษ์ ซึ่งสอดคล้องตามเจตนารมณ์ของพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 ในการอำนวยต่อการสงวน อนุรักษ์ คุ้มครอง ดูแลรักษา ฟื้นฟูสัตว์ป่าและแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่า รวมทั้งทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 67 วรรคสาม ประกอบมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.2562 และข้อ 4 ของระเบียบกรมป่าไม้ว่าด้วยการปฏิบัติการของพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานอื่นใดในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ.ศ.2538 จึงอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าถ้ำประทุน ดำเนินการโครงการบริหารจัดการมูลค้างคาวถ้ำเขาฆ้องชัย ในปีงบประมาณ พ.ศ.2564 โดยมีกิจกรรมนำมูลค้างคาวออกจากถ้ำเขาฆ้องชัยจำนวน 100 ตัน ในระยะเวลา 6 เดือน แบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงที่ 1 ระหว่างเดือนมกราคม - กุมภาพันธ์ 2564 และช่วงที่ 2 ระหว่างเดือนมิถุนายน - กันยายน 2564 (เวลา 20.00 - 24.00 น.) ให้เป็นไปตามหลักวิชาการและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศภายในถ้ำเขาฆ้องชัย และชุมชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงดังกล่าว
ด้านนายอิทธิพล บางหลวง ซึ่งเป็นอาจารย์สอนอยู่ในโรงเรียนลานสักวิทยาคม กล่าวว่า ตนเองมาเป็นครูสอน เมื่อปี 37 ก็มีขี่ค้างคาวสะสมอยู่แล้ว ซึ่งเยี่ยมเข้าในถ้ำก็เลยหัวเข่าผมแล้ว ตาตอนนี้ไม่สามารถเข้าไปได้ ซึ่งมันมีผลต่อพวกค้างคาว ที่อยู่ในถ้ำ ถ้ามันมีแก๊สมาก ๆ จะทำให้ค้างคาวหายหนีไป ทำให้ค้างคาวน้อยลงทำให้แหล่งท่องเที่ยวหายไปในช่วงเย็นนั่งมองดูค้างคาวนับแสนตัวบินออกจากถ้ำไปหาอาหารดังกล่าว
ด้านพระครูอุทัยธรรมโอภาส เจ้าอาวาสวัดเขาฆ้องชัย กล่าวว่า ซึ่งการนำขี้ค้างคาวออกจากถ้ำนั้นเป็นการที่ลดมลภาวะ ที่อดทนมานานกว่า 19 ปีแล้ว ซึ่งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ทีนำออกไปให้หน่วยงาน ประชาชน ได้ประโยชน์จากมูลค้างคาว ในวัดถ้ำเขาฆ้องชัย ซึ่งอาตมารู้สึกยินดี ที่ได้มามีส่วนร่วมทีการนำมูลค้างคาวออกจากถ้ำแห่งนี้ และช่วงหน้าหนาว และหน้าฝน กลิ่นขี้ค้างคาวจะส่งกลิ่นเหม็นไปยังวัด โรงเรียนลานสักวิทยาคม และโรงเรียนวัดเขาฆ้องชัย และประชาชนที่สัญจรผ่านไปมาบนถนน โดยกลิ่นจะแรงมากดังกล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี