ราษฎรอาศัยอยู่กินกับป่า อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ ล่ารายชื่อทำหนังสือร้องนายกรัฐมนตรี ให้จัดการกับกลุ่มนายทุนบุกรุกป่าต้นน้ำ (ป่าสงวนแห่งชาติ) ทำไร่สตรอเบอรี่-กะหล่ำปลี ใช้สารเคมีกระทบต่อสิ่งมีชีวิตสัตว์-คน เคยร้องศูนย์ดำรงธรรม-เจ้าหน้าที่ป่าไม้ในพื้นที่หลายรอบ แต่ไร้ผล ขอพึ่งสื่อเพื่อให้นายกฯสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ด่วน
เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2564 ราษฎรบ้านนะโน หมู่ที่ 2 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ กว่า 50 คน ได้รวมตัวกันล่ารายชื่อ เพื่อทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สั่งการเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับกลุ่มนายทุนได้มาบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำของบ้านนะโน ซึ่งเป็นที่ป่าสงวนแห่งชาติ โดยมีการบุกรุกพื้นที่ป่า จำนวนหลายจุด ร่วมกว่า 1,000 ไร่ เพื่อทำไร่ สตรอเบอรี่ และไร่กะหล่ำปลี ได้โค่นต้นไม้ขนาดใหญ่ และใช้รถแบคโฮไถทำถนนเพื่อเข้าไปในสวนเป็นพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์มาก
นอกจากนั้นมีการใช้สารเคมียาฆ่าแมลงต่างๆ ได้ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สิ่งมีชีวิตและสัตว์และมนุษย์ เนื่องจากราษฎรมีอีกหลายหมู่บ้านต้องใช้น้ำเพื่ออุปโภคบริโภคน้ำที่ไหลจากจุดนี้ และเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าอนุรักษ์หลายชนิด แต่เดิมพื้นที่ป่ายังคงความอุดมสมบูรณ์มาก ชาวบ้านบ้านนะโนได้ช่วยกันอนุรักษ์ไว้ให้เป็นป่าต้นต้นน้ำ โดยยึดหลักคนอยู่กับป่า ป่าอยู่กับน้ำและสัตว์ เพื่อคงความอุดมสมบูรณ์ของป่าจากรุ่นสู่รุ่นหลายชั่วอายุคนมาแล้ว และบรรพบุรุษตั้งแต่ในอดีตต้องการที่จะอนุรักษ์ไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานไปสืบต่อไป
นายจะริ สภาวนากุล เปิดเผยว่า สำหรับบ้านนะโน หมู่ 2 ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา จ.เชียงใหม่ เดิมหมู่บ้านนี้อยู่ในพื้นที่เขต อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ต่อมากระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศจัดตั้ง อ.กัลยาณิวัฒนา ขึ้นเป็นอำเภอที่ 25 ของ จ.เชียงใหม่ หลังจากนั้นอีกไม่นาน ประมาณปี 2553 จ.เชียงใหม่ ให้บ้านนะโน ไปมาขึ้นอยู่ในเขตพื้นที่ของ อ.กัลยาณิวัฒนา สำหรับบ้านนะโน มีเขตติดต่อกับเขตหมู่บ้านแม่แจ๊ะ ต.แม่นาจร อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ทิตใต้มีเขตติดต่อกับ ต.บ่อแก้ว อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ เมื่อหมู่บ้านขึ้นอยู่กับ อ.กัลยาณิวัฒนา ไม่นานได้มีกลุ่มนายทุน เข้ามาการบุกรุกพื้นที่ป่าต้นน้ำของบ้านนะโน เพื่อถางพื้นที่ป่าสงวน ทำไร่สตรอเบอรี่ และ สวนกะหล่ำปลี โดยใช้สารเคมีนานาชนิด
ส่วนฤดูร้อน กลุ่มนายทุนเหล่านี้ ได้ต่อท่อประปาดูดน้ำเข้าสวนไปหมด ทำให้ประชาชนที่อยู่ปลายน้ำไม่มีน้ำกินน้ำใช้ ซึ่งได้สร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนให้แก่ชาวบ้านนะโน มานานกว่า 10 ปี รวมถึงสัตว์ป่าต่างๆ ที่อาศัยอยู่เป็นอย่างมาก นอกจากนั้น ยังส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศและการดำเนินชีวิตของชาวบ้านนะโน จากการใช้สารเคมีของกลุ่มนายทุนดังกล่าว ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สัตว์ สิ่งมีชีวิต ทั้งคนแต่อย่างใด ทำให้สารเคมีตกค้างในพื้นที่ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นน้ำ แล้วไหลลงสู่พื้นที่กลางน้ำที่ชาวบ้านบ้านนะโนได้อาศัยอยู่ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อร่างกายชีวิตและทรัพย์ของชาวบ้านเป็นอย่างมาก
นายพะยะเง สมรโสภิตวงษ์ หนึ่งในคณะกรรมการหมู่บ้าน กล่าวว่า ตนประกอบอาชีพเป็นเกษตรกร ใช้ระบบอินทรีย์มาโดยตลอด ต่อมามีได้บาดแผลที่ขารักษาอย่างไรก็ไม่หาย จึงไปหาหมอที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ หมอบอกว่า เป็นการติดเชื้อแบบรื้อรัง สาเหตุมาจากการได้รับผลจากสารเคมีไม่ทราบชนิด ทั้งที่ไม่เคยใช้สารเคมีแต่อย่างใด จึงเชื่อว่าน่าจากเกิดจากสารเคมีที่กลุ่มนายทุนใช้ในป่าต้นน้ำ และไหลลงสู่ตอนล่าง และตนได้ไปสัมผัสมาอย่างแน่นอน
ปัญหาดังกล่าวนี้ คณะกรรมการบ้านนะโน ทั้งทำหนังสือร้องเรียนไปยังหน่วยงานต่างๆ ไม่ว่า ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ศูนย์ดำรงธรรม ระดับ อ.กัลยาณิวัฒนา และ จ.เชียงใหม่ มาแล้วหลายรอบก็ไม่เป็นผล สุดท้ายเรื่องก็เงียบหายไป ขณะนี้ชาวบ้านไม่รู้จะพึ่งใคร จึงต้องอาศัยสื่อมวลชนเพื่อเสนอข่าวให้สังคมรับทราบถึงปัญหาของชาวบ้าน บ้านนะโนอย่างแท้จริง
และในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการหมู่บ้าน ได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย , นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนถึงหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อีกด้วย เพื่อให้ส่งเจ้าหน้าที่มาดำเนินการถอนกลุ่มนายทุนออกจากพื้นที่ และจัดการเขตพื้นที่แต่ละหมู่บ้านอย่างชัดเจนต่อไป
สำหรับการบริหารจัดการป่าชุมชนของราษฎรบ้านนะโน ต.แม่แดด อ.กัลยาณิวัฒนา โดยบริหารในรูปแบบคณะกรรมการหมู่บ้านจำนวน 13 คน โดยแต่ละคนมีบาทบาทหน้าที่ตามที่ตกลงกันไว้ พื้นที่ป่าชุมชนประมาณ 8,000 กว่าไร่ โดยแบ่งเป็นป่าอนุรักษ์ ทั้งป่า และพันธุ์สัตว์ป่า สำหรับป่าใช้สอย ลำห้วย แม่น้ำ ลำธาร สวน ไร่-นา ไร่หมุนเวียน ถนน และหมู่บ้าน เป็นต้นแบบที่ทำกันมากว่า 20 ปีแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี