‘พมจ.มหาสารคาม’ลงพื้นที่เยี่ยมผู้สูงอายุ แจ้งข่าวดีชะลอส่งเบี้ยคืนรัฐ
3 กุมภาพันธ์ 2564 จากกรณีก่อนหน้านี้มีข่าวเกี่ยวกับการเรียกเก็บเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนจากผู้สูงอายุที่รับบำนาญจากหน่วยงานของรัฐ โดย จ.มหาสารคาม มีผู้สูงอายุที่ถูกเรียกเก็บเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนทั้งสิ้นจำนวน 229 ราย เฉพาะที่ ต.หนองคู อ.นาดูน จ.มหาสารคาม มีผู้สูงอายุถูกเรียกเก็บเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืนทั้งหมด 4 ราย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 กุมภาพันธ์ 64) ที่บ้านเลขที่ 34 หมู่ 1 บ้านโพนทอง ต.หนองคู นายประนอม อุทรักษ์ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดมหาสารคาม ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ พร้อมนำข่าวดีมาบอกให้กับผู้สูงอายุ 4 ราย ได้แก่ นางสวน วังสอง อายุ 87 ปี , นายโสภี สุขวี อายุ 70 ปี , นายคำสิงห์ ทาชาด อายุ 67 ปี และนายไพรัช ประภาวิชา อายุ 62 ปี ซึ่งทั้งหมดถูกเรียกเก็บเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคืน เนื่องจากรับบำนาญจากภาครัฐ ว่า ภาครัฐให้ชะลอการส่งคืนเงิน และชะลอการดำเนินคดี เพื่อให้ผู้สูงอายุทั้ง 4 รายคลายความกังวลใจ
นายประนอม กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีข่าวในสื่อต่างๆว่ามีผู้สูงอายุถูกเรียกเก็บเงินเบี้ยยังชีพคืน เนื่องจากเป็นผู้รับบำนาญหรือบำนาญพิเศษ ขณะนี้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการหาแนวทางแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน จึงขอให้ชะลอการส่งเงินคืน และชะลอการดำเนินคดี จึงได้ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และสร้างความเข้าใจให้ผู้สูงอายุและญาติ เพื่อหาแนวทางการช่วยเหลือ จากการพูดคุยทุกคนเมื่อทราบข่าวก็รู้สึกสบายใจ เพราะลำพังมีแต่เงินเดือนผู้สูงอายุก็ไม่ได้มากมาย ซึ่งภาครัฐก็จะดำเนินการช่วยเหลืออย่างเต็มที่
นางสวน วังสอง อายุ 87 ปี กล่าวว่า เมื่อปี 2541 บุตรชาย คือ ส.ต.ต.บุญล้วน วังสอง ขณะนั้นเป็นตำรวจอยู่ สภ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ ถูกรถชนเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติหน้าที่ ตนเริ่มรับเบี้ยเงินบำเหน็จตกทอดจากบุตรชายมาตั้งแต่ปี 2543 ต่อมาเมื่อปี 2563 ทาง อบต.หนองคู แจ้งว่าถูกเรียกเก็บเงินคืนเพราะรับเงินซ้ำซ้อนเป็นเงินกว่า 120,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7 ต่อปี ด้วยความกลัวจึงได้เซ็นชื่อรับสภาพหนี้ และผ่อนให้เดือนละประมาณ 2,000 บาท พอได้ทราบข่าวว่าให้ชะลอการส่งเงินก็รู้สึกดีใจ เพราะตนไม่มีรายได้อะไร มีเพียงเงินบำเหน็จตกทอดรายเดือน และเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเท่านั้น
ด้านนายโสภี สุขวี อายุ 70 ปี กล่าวว่า ก่อนหน้านี้เป็นพนักงานขับรถรับส่งผู้ป่วยโรงพยาบาลพยัคฆภูมิพิสัย พอเกษียณทางผู้ใหญ่บ้านได้แจ้งว่าให้นำสำเนาบัตรประชาชน ทะเบียนบ้านมาลงทะเบียนขอรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ตนได้ไปยื่นเอกสารและได้รับเงินเรื่อยมา จนกระทั่งถูกเรียกเก็บเงินคืนเป็นเงินกว่า 70,000 บาท และได้เซ็นรับสภาพหนี้ไปแล้ว โดยได้ผ่อนจ่ายเป็นรายเดือนๆละ 1,200 บาท ที่ผ่านมาก็ขายของเล็กๆน้อยๆตามตลาดนัด ตอนนี้ช่วงโควิดระบาดรอบสอง ทำให้ขายของไม่ค่อยดี ไม่รู้จะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้ พอทราบข่าวว่าให้ชะลอออกไปก่อนก็ดีใจ เพราะตนมองว่าตนทำงานมา 36 ปี น่าจะได้รับเบี้ยผู้สูงอายุด้วยเช่นกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี