รพ.บำราศฯซ้อมแผนฉีดวัคซีน
37นาทีต่อคน
8ขั้นตอน/ต้นแบบทั่วประเทศ
ตั้งแต่ลงทะเบียน-ติดตามอาการ
ใช้ไลน์‘หมอพร้อม’ประเมินผล
ศบค.เร่งหาที่พักกักตัวกลุ่มเสี่ยง
ไทยเจอป่วยโควิดเพิ่ม586ราย
ห่วงปาร์ตี้กลางกรุงทำติดเชื้ออื้อ
ไทยพบติดเชื้อเพิ่ม 586 ราย สะสม 2.2 หมื่นราย มี 2 จังหวัด พบผู้ป่วยเพิ่มคือ เพชรบุรี 3 รายโยงตลาดรถไฟมหาชัย –สระแก้ว 1 ผู้ต้องขังแรกรับชาวกัมพูชา ตรวจ 3 ครั้งถึงเจอผลเป็นบวก “สมุทรสาคร” จ่อถกทุกฝ่ายหามาตรการเปิดเมือง ศบค.ยก 4 เคส งานเลี้ยงกลางกรุง ทำติดโควิดอื้อ เพราะมีการดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้การ์ดตก จี้ออฟฟิศยกการ์ดสูงเป็นพิเศษ เพราะถือเป็นจุดเสี่ยงแพร่เชื้อ ศบค.เตรียมถกหาสถานที่กักตัวให้คนเสี่ยงสูง-กลาง-ต่ำ ที่ไม่สะดวกกัก ในบ้านสัปดาห์หน้า อาจต้องบังคับให้กักตัวใน SQโดยเฉพาะผู้เสี่ยงสูง บำราศนราดูรซ้อมแผนฉีดวัคซีน 8 ขั้นตอน ใช้เวลา 37 นาที หลังฉีดแล้วรอดูอาการ 30 นาที พร้อมบังคับโหลดแอพฯหมอพร้อม เพื่อติดตามอาการ เล็งให้รพ.ทั่วประเทศนำเป็นใช้เป็นต้นแบบ
เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือศบค.แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวัน รวมถึงมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสที่จะออกมาเพิ่มเติม
ติดอีก586รายโผล่เพชรบุรี-สระแก้ว
พญ.อภิสมัยกล่าวว่า วันนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 586 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 573 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 47 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 526 ราย ในจำนวนนี้ เป็นการค้นหาเชิงรุกที่ จ.สมุทรสาคร 522 ราย เพชรบุรี 3 ราย เชื่อมโยงตลาดรถไฟมหาชัย และสระแก้ว 1 ราย เป็นชายสัญชาติกัมพูชา เป็นผู้ต้องขังแรกรับ ตรวจโควิดสองครั้งแรกไม่พบเชื้อ มาพบเชื้อครั้งที่สาม จึงแยกกักกัน นอกจากนี้ เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ 13 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 22,644 ราย หายป่วยสะสม 15,331 ราย อยู่ระหว่างรักษา 7,234 ราย ไม่มีรายงานเสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดสะสมคงที่ 79 ราย
ยอดติดเชื้อปท.ที่ฉีดวัคซีนเริ่มลด
ขณะที่สถานการณ์โลก ผู้มีติดเชื้อสะสม 105,401,203 ราย เสียชีวิตสะสม 2,292,730 ราย ส่วนสถานการณ์ที่สหรัฐอเมริกา วันนี้พบผู้ติดเชื้อ 109,780 ราย แม้พบติดเชื้อเป็นแสน แต่ถือว่าตัวเลขลดลงมาก เช่นเดียวกับอีกหลายประเทศ อาจเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนหรือไม่ มีรายงานว่า ล่าสุดมีการฉีดวัคซีนทั่วโลกไปแล้วเกิน 90 ล้านโดส หรือประมาณ 45 ล้านคน คาดว่า การฉีดวัคซีนทั่วโลกจะช่วยลดติดเชื้อ ลดความรุนแรงของโรค แต่เราต้องติดตามประสิทธิภาพ ความปลอดภัยของวัคซีน แต่ตัวเลขที่ลดลงถือว่าสำคัญยิ่ง
สมุทรสาครเข้มบับเบิ้ลแอนด์ซีลรง.
พญ.อภิสมัยกล่าวต่อว่า สำหรับการตรวจคัดกรองเชิงรุกในจ.สมุทรสาคร เรากระชับพื้นที่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงพื้นที่ไข่แดง โดยศบค.ชุดเล็ก ประชุมกับทีมในพื้นที่ หารือมาตรการดูแล บับเบิ้ลแอนด์ซีล พบว่ามี 1 โรงงานที่มีศักยภาพซีลคนงานทำงานและพักอยู่ที่นั่น ไม่ต้องออกนอกพื้นที่ ส่วนมาตรการบับเบิ้ล หรือการจำกัดการเดินทางระหว่างที่ทำงานกับที่พัก ซึ่งเป็นเขตเฝ้าระวังเป็นพิเศษมี 7 โรงงาน ที่ต.ท่าทราย และต.นาดี และขอร้องอย่ารังเกียจหรือกล่าวโทษเวลาเห็นรถสองแถวที่รับ-ส่งคนงาน หรือคนงานเดินเรียงแถวตามมาตรการบับเบิ้ล แต่ต้องให้กำลังใจ เพราะทุกคนกำลังลดการแพร่เชื้อ ความร่วมมือเป็นหัวใจสำคัญเพื่อให้จังหวัดประสบความสำเร็จ โดยผ่านหนึ่งสัปดาห์แล้ว แม้ตัวเลขวันนี้จะเหลือ 500 กว่าราย แต่อย่าวางใจ ยังต้องคัดกรองกันต่อเนื่อง ยังไม่สามารถคาดหวังว่าตัวเลขจะเป็นศูนย์ แต่ต้องการเห็นมาตรการที่เข้มข้น อย่างไรก็ตาม เร็วๆนี้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสมุทรสาครจะหารือกับผู้ประกอบการ และทุกภาคส่วน หามาตรการเปิดเมือง ชุมชนและตลาดกุ้งต่อไป
ยกเคส4งานปาร์ตี้ทำติดเชื้ออื้อ
ส่วนสถานการณ์ที่กทม.สัปดาห์ที่ผ่านมา พญ.อภิสมัยเปิดเผยว่า มีการวิเคราะห์การติดเชื้อในชุมชนเมือง โดยเฉพาะการจัดเลี้ยงส่วนตัว โดยมีตัวอย่าง 4 งาน งานแรกมีผู้ร่วมงานเลี้ยง 30 ราย พบติดเชื้อ 9 ราย สาเหตุที่มีผู้สัมผัสแล้วไม่ติดเชื้อในงานดังกล่าว เนื่องจากร่วมกิจกรรมระยะเวลาสั้น นำของขวัญมาให้แล้วกลับ ขณะที่ผู้ติดเชื้อมีประวัติดื่มแอลกอฮอล์แก้วเดียวกัน และอยู่ร่วมงานนาน งานที่สอง มีผู้ร่วมงานเลี้ยง 13 ราย ติดเชื้อ 10 ราย ทั้ง 10 ราย มีประวัติดื่มแก้วเดียวกัน งานที่สาม มีผู้ร่วมงาน 7 ราย ติดเชื้อ 7 ราย เนื่องจากอยู่ในสถานที่แออัด ไม่มีระบบระบายอากาศ เต้นรำไม่ใส่หน้ากากตลอดงาน และงานที่สี่ มีผู้ร่วมงาน 16 ราย ติดเชื้อ 16 ราย เนื่องจากดื่มเครื่องดื่มจากแก้วเดียวกันในลักษณะเล่นเกม อยู่ร่วมกันเป็นเวลานาน ใช้มือหยิบน้ำแข็ง อยู่สถานที่แออัดเกิน 15 นาที สัมผัสใกล้ชิด
เหล้าทำการ์ดตก-จี้ออฟฟิศยกการ์ดสูง
สิ่งที่เราเน้นย้ำมาตลอดคือ แม้จะจัดงานเลี้ยงรัดกุม แต่เมื่อดื่มแอลกอฮอล์ไป แม้เพียงไม่มาก จะทำให้เกิดความผ่อนคลาย เฉื่อยชา ตอบสนองน้อยลง ขาดความยับยั้ง เสียการควบคุมตัวเอง ไม่ระมัดระวังตัวเอง ดังนั้น สถานบันเทิงต้องเสนอมาตรการว่าจะดูแลเรื่องเหล่านี้อย่างไร
ผู้ช่วยโฆษก ศบค.กล่าวว่า นอกจากนี้ ในสถานที่ทำงานยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหนึ่ง มีตัวอย่างจากการสอบสวนโรคในกทม.ที่พบติดเชื้อในสำนักงานแห่งแรก เป็นคลินิกเสริมความงาม มีพนักงาน 7 ราย ปรากฏว่าติดเชื้อ 5 ราย ปัจจัยเสี่ยงเกิดจากการรับประทานอาหารร่วมกันทุกวัน พูดคุยระหว่างรับประทานอาหาร ไม่ได้ใช้ช้อนกลาง แห่งที่สอง เป็นแผนกหนึ่งในบริษัทแห่งหนึ่งที่ กทม. มีพนักงาน 10 ราย ติดเชื้อ 9 ราย เนื่องจากผู้ติดเชื้อทุกคนไม่สวมหน้ากากตลอดเวลาขณะปฏิบัติงาน พูดคุยใกล้ชิดเป็นเวลานาน ดังนั้น จากนี้ไปสถานประกอบการต้องยกการ์ดสูงเป็นพิเศษ แม้อยู่ห้องเดียวกันแต่อย่าวางใจ ให้สวมหน้ากากตลอดเวลา
ห่วงปชช.การ์ดตกหลังคลายมาตรการ
พญ.อภิสมัยยังเปิดเผยผลสำรวจพฤติกรรมประชาชนในการป้องกันตนเอง ที่กระทรวงสาธารณสุขทำร่วมกับองค์การอนามัยโลก สำนักงานภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออก คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานสถิติแห่งชาติ สำรวจระหว่างวันที่ 15 พฤษภาคม 2563 – 1 มกราคม จากตัวอย่างประชากร 63,444 ราย จะเห็นว่าเดือนพฤษภาคม ที่เราเริ่มคุ้นกับการระบาด ประชาชนป้องกันตัวเองดี แต่การ์ดต่ำสุดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2563 แต่เมื่อเกิดการระบาดที่จ.สมุทรสาครตั้งแต่วันที่ 15-21 ธันวาคม 2563 การป้องกันตัวเองกลับมาเริ่มสูง กระทั่งถึงวันที่ 4 มกราคม ที่เริ่มผ่อนคลายมาตรการ การ์ดเริ่มตกอีกครั้ง
“จากรายงานวันเดียวกันนี้ เห็นแล้วว่าเรายังการ์ดตก ดังนั้น เราต้องเรียนรู้ป้องกันตัวเอง ป้องกันชุมชน การ์ดตกไม่ได้ ขอความร่วมมือเป็นพิเศษกรณีของมาตรการองค์กรถือเป็นหัวใจหลัก เพราะการที่เข้าไปทำงานในสำนักงานหรือออฟฟิศเดียวกัน เป็นความรับผิดชอบที่ต้องดูแลกันและกัน ขอให้ทำให้ได้เหมือน จ.สมุทรสาคร ที่ทั้งภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการในจังหวัดร่วมแรงร่วมใจหามาตรการลดจำนวนคนติดเชื้อ” พญ.อภิสมัยกล่าว
ศบค.ถกจัดSQกักกลุ่มเสี่ยงทุกระดับ
พญ.อภิสมัยยังกล่าวถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อหรือผู้ที่เสี่ยงสูง เดินทางไปสถานที่ต่างๆ และโพสต์ลงในโซเชียล ทำให้มีคำถามทำไมไม่กักตัวว่า บางกรณีกรมควบคุมโรคได้คำตอบว่ากักตัวลำบาก เพราะหลายคนอยู่บ้านที่มีสมาชิกครอบครัวในบ้านหลายคน ใช้ห้องน้ำร่วมกัน รับประทานอาหารที่เดียวกัน ไม่สามารถแยกห้องนอนได้ ดังนั้น ศบค. จึงทบทวนมาตรการให้มีแนวทางศึกษาการบริหารจัดการการกักตัว สำหรับคนที่พิจารณาแล้วว่าเป็นผู้เสี่ยงสูงสัมผัสเชื้อโควิด-19 หากกรมควบคุมโรคสอบสวนพบต้องขอร้องให้บุคคลดังกล่าวต้องถูกกักตัว ถือว่าไม่มีทางเลือก
เช่นเดียวกับ บุคคลเสี่ยงกลางและเสี่ยงต่ำ จะขอความร่วมมือให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ชุมชน บุคคลเหล่านี้อาจสมัครใจว่าต้องไปกักตัวในสถานที่กักตัวรัฐหรือเอกชน ที่มีอยู่หลายแห่งขณะนี้ เพราะบางคนให้เหตุผลว่ากักตัวเองลำบากที่พักไม่อำนวย เนื่องจากมีผู้สูงอายุ เด็กอ่อน ใช้ห้องน้ำร่วมกัน ศบค.รับฟังและนำมาหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกให้หาช่องทางกักตัวได้ นอกเหนือจากกักตัวอยู่บ้าน โดยภาพรวมแล้วการกักตัวโดยความสมัครใจ หรือถูกบังคับให้กักกันตัวรายละเอียดจะเป็นอย่างไร ศบค.จะพูดคุยกันสัปดาห์หน้า
บำราศฯซ้อมแผนฉีดวัคซีนใน37นาที
วันเดียวกัน นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2016 เปิดเผยหลังตรวจเยี่ยมการเตรียมระบบให้บริการวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในโรงพยาบาล ของสถาบันบำราศนราดูรว่า จากการติดตามการซักซ้อมแผนฉีดวัคซีนโควิดพบว่า ระบบที่จัดไว้มี 8 ขั้นตอนตามลำดับ ใช้เวลารวม 37 นาที ซึ่งสามารถเป็นต้นแบบให้โรงพยาบาลอื่นนำไปปรับใช้ได้ โดยก่อนเข้ารับบริการจัดจุดบริการตามขั้นตอนดังนี้
จุดที่ 1 คือ ลงทะเบียน โดยใช้เครื่อง KIOSK ลดสัมผัส จุดที่ 2 ชั่งน้ำหนัก วัดความดันโลหิต จุดที่ 3 คัดกรอง ซักประวัติ จุดที่ 4 รอฉีดวัคซีน จุดที่ 5 รับการฉีดวัคซีน ใช้เวลาเพียง 5-7 นาที จากนั้นจุดที่ 6 ให้นั่งพักรอสังเกตอาการจนครบ 30 นาที จัดห้องปฐมพยาบาล แพทย์/ วิสัญญีพยาบาล และอุปกรณ์ช่วยชีวิตพร้อมดูแล และทุกรายต้องสแกน Line official account “หมอพร้อม” เพื่อใช้ติดตามอาการหลังฉีดวัคซีน 1 วัน 7 วัน และ 30 วัน จากนั้นจะแจ้งเตือนรับวัคซีนเข็มที่ 2
ใช้แอพฯหมอพร้อมติดตามผลหลังฉีด
นพ.โสภณกล่าวต่อว่า ในจุดที่ 7 ก่อนกลับบ้าน พยาบาลจะตรวจสอบเวลาว่าครบ 30 นาที สอบถามอาการ และให้คำแนะนำ พร้อมแจกเอกสารให้ความรู้ และ จุดที่ 8 มี Dash Board จาก Line OA “หมอพร้อม” แสดงการประเมินผลความครอบคลุมการฉีดวัคซีน และอาการไม่พึงประสงค์ของวัคซีนแต่ละชนิด ทั้งนี้ เมื่อได้รับการฉีดวัคซีนครบ 2 เข็ม จะได้รับใบยืนยันการฉีดวัคซีนโควิด 19 ทาง Line OA “หมอพร้อม”
เล็งใช้เป็นโมเดลให้รพ.ทั่วปท.
นพ.ธงชัย เลิศวิไลรัตนพงศ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกระทรวง ในฐานะประธานคณะทำงานด้านการให้บริการวัคซีน ฝึกอบรมและกำกับติดตามผลกล่าวเพิ่มเติมว่า ระบบบริการฉีดวัคซีนของสถาบันบำราศนราดูร มีขั้นตอนครบถ้วน จะนำไปเป็นต้นแบบให้โรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ซึ่งที่ผ่านมา โรงพยาบาลต่างๆฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ให้ประชาชนทุกปีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม วัคซีนโควิด 19 ที่จะฉีดในครั้งนี้ ถือเป็นการให้บริการวัคซีนในกลุ่มเป้าหมายที่มีจำนวนมากที่สุด จึงต้องจัดขั้นตอนที่มากกว่าการฉีดวัคซีนอื่น เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจและปลอดภัยมากที่สุด โดยโรงพยาบาลสามารถปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานที่แต่ละแห่ง ตามบริบทของพื้นที่
หมอยงแนะเจรจาจีน-รัสเซียซื้อวัคซีน
ด้านศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก Yong Poovorawan ว่า โควิด-19 วัคซีนกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ผลกระทบการฉีดวัคซีนวงกว้าง ในหลายประเทศที่ฉีดวัคซีนจำนวนมากให้ประชาชนเห็นผลวงกว้างบ้างแล้ว เช่นการระบาดในอังกฤษและอเมริกา ที่ฉีดวัคซีนในประชากรจำนวนมาก จำนวนผู้ป่วยต่อวันของทั้งสองประเทศลดลงอย่างเห็นได้ชัดเจน จากที่มียอดสูงสุดในช่วงปีใหม่ ในอิสราเอลเองผู้ที่ฉีดวัคซีน กับผู้ที่ไม่ได้ฉีด มีอัตราการเป็นโรคต่างกัน แสดงให้เห็นว่าวัคซีนไม่ใช่แต่ลดความรุนแรงของโรค หรือลดการตาย แต่ยังลดการระบาดของโรค หรือลดการติดต่อของโรคได้ แสดงว่าวัคซีนเป็นอาวุธสำคัญต่อสู้กับโควิด ตลาดวัคซีนจึงแย่งกันมาก สำหรับไทย ไม่ควรรอวัคซีนทางตะวันตก เพียงอย่างเดียว ควรใช้ระดับประเทศ เชิงนโยบาย หรือระดับรัฐบาล ที่สนิทสนม เจรจา ไม่ว่าจะเป็นวัคซีนของจีน รัสเซีย ได้ผ่านการศึกษาระยะที่ 3 มาแล้วทั้งนั้น ใช้เป็นล้านโดส และขึ้นทะเบียนแบบฉุกเฉินแล้ว ในหลาย ประเทศแล้วถ้าได้มาเร็วเท่าไหร่ เป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้เร็วเท่านั้น การเดินทาง ท่องเที่ยวจะฟื้นฟู เพื่อเศรษฐกิจของประเทศ
กทม.จับตาเข้ม6เขตติดสมุทรสาคร
ที่กระทรวงสาธารณสุข นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผอ.กองโรคระบาด กรมควบคุมโรคแถลงสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19ในพื้นที่กทม.ว่า ขณะนี้มีผู้ป่วยใน 10 เขต จำแนกตามรพ.ซึ่งมีผู้ป่วยอยู่เท่านั้น อาจไม่ได้เป็นแหล่งพบโรคจริง ดังนั้น จึงมีอยู่ 6 เขตที่ต้องจับตาเข้มข้นคือ บางแค ภาษีเจริญ จอมทอง หนองแขม บางบอน และบางขุนเทียน
สอบต้นตอหญิง95ติดเชื้อ
อย่างไรก็ตาม วันเดียวกันนี้ ได้รับรายงานมีผู้ป่วยติดเตียง เพศหญิงอายุ 95 ปี พักย่านคลองเตย เกิดติดเชื้อ ทั้งที่ไม่ได้ออกไปไหน สอบสวนโรคเบื้องต้นพบผู้ป่วยรายนี้เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัวคือ โรคไต โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน อยู่กับลูกสาว 1 คน และหลานอีก 1 คน จ้างแรงงานเมียนมามาดูแล 4 คน ผู้ป่วยมีไข้วันที่ 2 กุมภาพันธ์ จึงพาไปโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และตรวจหาเชื้อโควิดพบผลบวก ล่าสุดผลตรวจในแรงงานเมียนมาทั้ง 4 คน ก็พบว่าเป็นบวก ส่วนลูกสาว และหลาน อยู่ระหว่างรอผลตรวจ ทั้งนี้ ยังไม่ชัดเจนว่าแรงงานเมียนมาที่จ้างมาดูแลนั้นพักอาศัยอย่างไร แต่ให้ข้อมูลว่าไม่ได้ไปไหน ไปบ้านนายจ้าง และตลาด ซึ่งมี 2 ใน 4 คนที่ไปตลาดคลองเตยที่เคยมีรายางาน 2 สัปดาห์ก่อนว่ามีสุ่มตรวจเจอผู้ติดเชื้อ 1-2 ราย คาดว่าตลาดคลองเตยคือจุดทำให้เกิดติดเชื้อในกลุ่มนี้ ปัจจุบันกทม.คัดกรองเชิงรุก และทราบจุดเสี่ยงแล้วว่ามีที่ใดบ้าง
“สิ่งที่อยากเตือนคือ การอยู่เป็นครอบครัว โดยเฉพาะที่มีผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว ต้องระมัดระวัง เว้นระยะห่าง การดูแลผู้ป่วยต้องสวมหน้ากากตลอดเวลา ล้างมือบ่อยๆ สำหรับครอบครัวที่จ้างแรงงานเมียนมามาดูแล แนะนำให้พาไปตรวจหาเชื้อ และคอยแนะนำเรื่องปรับพฤติกรรม เพราะจากข้อมูลพบแรงงานเมียนมาจะมีพฤติกรรมเสี่ยงคือ เดินทางไป-มา ระหว่างที่พัก ที่ทำงาน รวมกลุ่มกินข้าว และไปวัด ไปตลาด รวมถึงกินหมาก อาจต้องแนะนำให้แรงงานเหล่านี้ระวังตัว งดไปมาหาสู่กันระยะนี้”นพ.จักรรัฐกล่าว
ผู้ว่าฯสมุทรสาครอาการดีขึ้นต่อเนื่อง
ด้านนพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยความคืบหน้าอาการป่วยของนายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครว่า สภาพอาการของผู้ว่าฯเชิงบวก ล่าสุดได้หยุดยาปฏิชีวนะ ยาลดอักเสบ ส่วนยาตัวอื่นที่เคยให้แบบฉีดก็เปลี่ยนเป็นยากิน ที่ให้เข้าทางระบบเดินทางอาหาร โดยให้ยาทางสายยาง เช่นเดียวกับการให้อาหาร ก็เปลี่ยนมาให้แบบเติมเข้าทางสายยาง จากการเอ็กซเรย์ปอดพบปอดดีขึ้นมาก ถึงร้อยละ 80-90 จากเดิมที่เข้ามา ปอดเดิมของผู้ว่าฯ เป็นสีขาว มีน้ำ แต่ตอนนี้กลับมาใกล้เคียงปกติ โดยปอดคนปกติต้องมีสีดำ เมื่อเอ็กซเรย์ปอด อย่างไรก็ตาม จะรู้ว่าปอดกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่หรือไม่ ต้องทำเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์และดูระดับออกซิเจน ในกระแสเลือด ซึ่งระดับออกซิเจนในกระแสเลือดอยู่ในเกณฑ์ดี นอกจากนี้ ยังเตรียมถอยยานอนหลับ เพื่อให้ผู้ว่าฯตื่นเพื่อฝึกหายใจด้วยตัวเองมากขึ้น เช่นเดียวกัน เมื่อตื่นนักกายภาพ บำบัด จะเข้าไปฟื้นฟูกล้ามเนื้อ ส่วนเรื่องเจาะคอนั้น ยังต้องคงเครื่องดูดเสมหะค้างไว้ก่อน หากอาการดีขึ้น หายใจได้เองสามารถไอเอาเสมหะออกได้เองจะนำเครื่องดูดเสมหะออก แผลตรงเจาะคอนี้ไม่นานเกิน 2 สัปดาห์ปิดได้เอง และกล่องเสียงก็สามารถกลับมาทำงานได้ตามปกติ ถึงจะพูดคุยได้ การเจาะคอเพื่อดูดเสมหะช่วยลดติดเชื้อ ตอนนี้ภาพรวมน่าจะดีขึ้น
รัสเซีย-อังกฤษจับมือทดสอบวัคซีน
สำหรับสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศนั้น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติรัสเซีย (อาร์ดีไอเอฟ) ซึ่งรับผิดชอบทำสัญญาซื้อขายวัคซีนสปุตนิก วี ที่ผลิตโดยสถาบันกามาเลยา ลดความเสี่ยงติดเชื้อโควิด-19 ออกแถลงการณ์ เมื่อวันพฤหัสบดี เรื่องการเตรียมทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิดของวัคซีน 2 แบบร่วมกันคือ วัคซีนสปุตนิก วี และวัคซีนของแอสตราเซเนกา - ออกซฟอร์ด จากสหราชอาณาจักร บนสมมุติฐานที่ว่า การใช้วัคซีนร่วมกัน 2 แบบ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้การป้องกันโรคหรือไม่ ส่วนการทดสอบจะเริ่มขึ้นตั้งแต่สัปดาห์หน้าเป็นต้นไป โดยอาเซอร์ไบจานจะเป็นประเทศแรก ตามด้วยอีกหลายประเทศในตะวันออกกลาง เบื้องต้นตั้งเป้าเริ่มเผยแพร่ผลทดสอบระยะแรกเดือนมีนาคมนี้ ขณะเดียวกัน อาร์ดีไอเอฟยังเผยถึงการเตรียมทดสอบประสิทธิภาพวัคซีนร่วมกันระหว่างสปุตนิก วี กับวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทของจีน นอกจากนี้ แอสตราเซนกา/ออกซฟอร์ด ยังเตรียมวิจัยแนวทางเดียวกันนี้ ร่วมกับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทคด้วย
เอแอนด์เจยื่นขออนุมัติวัคซีนในสหรัฐ
ขณะที่ จอห์นสันแอนด์จอหน์สัน บริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของสหรัฐยื่นขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 เป็นกรณีฉุกเฉินต่อหน่วยงานกำกับดูแลยาของสหรัฐแล้ว หากผ่านการอนุมัติ จะกลายเป็นวัคซีนขนานที่ 3 ที่ใช้ได้ในสหรัฐ โดยคณะกรรมการที่ปรึกษาขององค์การอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเอจะประชุมพิจารณาคำขออนุมัติวันที่ 26 กุมภาพันธ์ และจะส่งมอบวัคซีน 100 ล้านโดสให้สหรัฐภายในสิ้นเดือนมิถุนายน และจะกลายเป็นผู้จัดหาวัคซีนรายใหญ่ในสหรัฐที่มีประชากรประมาณ 320 ล้านคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี