ที่โรงหล่อปฏิมากรรม พุทธปฏิมาพรเลิศ ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ได้มีพิธีการเทนำฤกษ์หล่อวัตถุมงคล“พ่อท่านคง โกกนุตฺโต” หรือ พระครูธรรมโฆษิต วัดธรรมโฆษณ์ โดยมี พระมหาบุญทิพย์ กิตกิตโสภโณ เจ้าคณะอำเภอสิงหนคร และเจ้าอาวาสวัดธรรมโฆษณ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และนายเฉลิมชัย ครุอำโพธิ์คหบดี เจ้าของโรงโม่หินบริษัทเขาบันไดนางศิลา จำกัด อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เป็นประธานฝ่ายฆราวาส เพื่อเป็นการเททองนำฤกษ์ตามพิธีการสร้างวัตถุมงคล หลังจากนั้นทางโรงหล่อจะเป็นผู้ดำเนินการสร้างวัตถุมงคลรูปเหมือนแต่ละรุ่นตามที่ได้มีการกำหนดไว้ เพื่อนำมาเข้าพิธีพุทธาภิเษก ณ วัดธรรมโฆษณ์ ต.สทิงหม้อ อ.สิงหนคร จ.สงขลา ในวันที่ 20 เมษายน ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 6 พ.ศ.2564 โดยมี พระเถราจารย์และพระเกจิดังนั่งปรกอธิษฐานจิต จำนวน 26 รูป อาทิ พระครูสุเทพธรรมโชติ วัดนิคมเทพา พระครูสังวรธรรมจารี วัดทุ่งนารี และพระครูสุวัฒนาภรณ์ วัดนาทวี เป็นต้น
สำหรับการจัดสร้างวัตถุมงคล รูปเหมือน“พ่อท่านคง” ในครั้งนี้ นับเป็นพิธีที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้ และมีการจัดสร้างเป็นจำนวนพอสมควร รวมทั้งได้นิมนต์ พระเถราจารย์ ที่เป็นพระเกจิชื่อดังมาทำพิธีพุทธาภิเษกเป็นจำนวนมากที่สุดถึง 26 รูปเพื่อต้องการให้การจัดสร้างวัตถุมงคล “พ่อท่านคง”ครั้งนี้ มีทั้งพุทธคุณ บารมี เข้มขลัง หลังจากการเปิดให้เช่า เพื่อนำเงินมาสมทบทุนสร้างอาคารทันตกรรม โรงพยาบาลสิงหนครส่วนหน้าแล้ว ยังทำให้ผู้เช่าได้รับบุญครั้งใหญ่ ที่ได้เช่าวัตถุมงคล พ่อท่านคงโดยการนำรายได้มาจัดสร้างโรงพยาบาล
ประวัติของ “พ่อท่านคง” หรือ พระครูธรรมโฆษิต (คง) โกกนุตตเถระ ท่านเกิดเมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 13 ค่ำ เดือนยี่ ปีระกา พ.ศ.2414 เป็นบุตรคนโตของนายซัง นางม่า บิดา มารดา มีนามสกุลเดิม “โกกะพงศ์” มีน้องอีกสองคน คือ ยัง และ ตั้ง ท่านเกิดที่บ้านหนองปาป ตำบลจะทิ้งหม้ออำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา มารดาของท่านถึงแก่กรรมเมื่อท่านยังเยาว์วัย พอท่านอายุได้ 13 ปี บิดาที่รักก็มาทิ้งท่านไปอีกคน แต่ได้ความเมตตาของนางมุ้ย นางเสนผู้เป็นน้า นำไปฝากเป็นศิษย์ท่านทองขวัญเจ้าอาวาสวัดบ่อปาป จึงได้ดำรงเป็นศิษย์วัด รับการศึกษาทางธรรมของสมัยนั้น พออายุได้ 15 ปี ก็ได้บรรพชาเป็นสามเณรในสำนักของท่านทองขวัญและเป็นสามเณรมาจนอายุได้ครบ 21 ปีบริบูรณ์ จึงทำการอุปสมบทเป็นภิกษุในพัทธสีมาวัดบ่อปาป โดยท่านทองขวัญเป็นพระอุปัชฌาย์ พระนวล วัดบ่อปาป เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระหนูแก้ว วัดมะม่วงหมู่เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่ามกลางสงฆ์ 22 รูป ในปี พ.ศ. 2436
หลวงพ่อคง ท่านได้สนใจในการศึกษาธรรมวินัย โดยวิธีการของสมัยนั้น คือเรียนสวดมนต์จบ เรียนปาฏิโมกข์แปลจบ และได้ปฏิบัติอุปัชฌาย์ตามหน้าที่ของศิษย์ที่ดีทุกประการ จนท่านอาจารย์เห็นความสามารถในการปฏิบัติสำหรับตนและหมู่คณะเป็นอย่างดีประกอบกับมีอายุพรรษาพอบริหารงานได้แล้วในปี พ.ศ.2443 ท่านจึงถูกอาจารย์สั่งย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดธรรมโฆษณ์และรับสมัญญาจากประชาชนว่า พ่อท่านธรรมโฆษณ์ ตั้งแต่นั้นมา แม้จะได้รับสมณศักดิ์แล้วก็ไม่มีใครเรียกแต่เรียกว่าพ่อท่านธรรมโฆษณ์ อย่างเดิม
วัดธรรมโฆษณ์ปัจจุบันทั้งหมดเป็นผลงานของพ่อท่าน ท่านได้เสียสละกำลัง พัฒนาทุกทางสร้างวัดอันเป็นที่ลุ่มให้เป็นที่ดอน และมีเสนาสนะพอสำหรับภิกษุสามเณรได้อยู่จำพรรษา นอกจากการสร้างทางด้านวัตถุแล้วท่านได้สร้างจิตใจของภิกษุตลอดถึงชาวบ้านโดยการเปิดสำนักศึกษานักธรรมตามแผนใหม่ สร้างโรงเรียนประชาบาลเพื่อประโยชน์แก่เด็กๆ ของชาติ
พ่อท่านคง ท่านได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส เจ้าคณะตำบล เป็นพระอุปัชฌาย์บวชกุลบุตรมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2453 ถึง พ.ศ.2502 เป็นเวลาถึง 49 ปี มีสัทธิวิหาริก
หลายพันคน พ่อท่านได้รับสมณศักดิ์เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม พ.ศ.2492 ตามปกติ พ่อท่านเป็นผู้มีสุขภาพดี ไม่เคยเจ็บป่วยออดแอด ไปไหนมาไหนได้ตามปกติเสมอมา แต่สังขารนั้นเป็นสิ่งที่เที่ยงแท้ ร่างกายที่เคยทนต่อโรคหมดความต้านทาน จึงมีโรคปรากฏ พ่อท่านต้องอยู่กับที่ไปไหนมาไหนไม่ได้ ต่อมาก็พูดไม่ได้คณะศิษย์ได้เอาใจใส่ทำการรักษาเป็นอย่างดีจนมาถึง วันที่ 5 พฤษภาคม 2503เวลา 10.10 น. พ่อท่านก็ละสังขารด้วยอาการอันสงบ ท่านกลางความพรั่งพร้อมของศิษย์ทั้งหลาย ทิ้งไว้แต่ความดีงามคณะศิษย์และผู้คุ้นเคย ท่านมรณภาพไปอย่างไม่มีวันลืม สิริรวมอายุของพ่อท่านคงได้ 89 ปี พรรษา 67
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี