ที่บริเวณท่าเทียบเรือประมงบ้านคลองทราย ดินแดงน้อย ม.6 ต.หนอง ทะเล อ.เมือง จ.กระบี่ ได้มีเรือประมง ในพื้นที่ ต.หนองทะเล เขาทอง คลองประสงค์ อ.เมืองกระบี่ และอำเภอใกล้เคียงกว่า 300 ลำนำแมงกะพรุนลอดช่องที่ตักได้ไนทะเลมาขายบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่มาตั้งเต็นท์รับซื้อแมงกะพรุนตลอดแนวชายฝั่งบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักโดยในปีนี้ พบว่าแมงกะพุรนมาเร็วกว่าทุกปีขณะเดียวกัน ชาวประมงที่หันมาตักแมงกะพรุนก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นกว่าเท่าตัวเช่นกัน เนื่องจากช่วงการระบาดของโควิด-19 เรือหางยาวนำเที่ยวขาดรายได้ จึงดัดแปลงเรือมาออกจับแมงกะพรุนแทน เป็นรายได้ทดแทนจากการท่องเที่ยวที่หายไปได้ในระดับหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ราคาแมงกะพรุนก็ยังสูงอยู่ พ่อค้าแม่ค้าจะรับซื้อในราคาตัวละ 5 บาท เนื่องจากมีเต็นท์รับซื้อหลายราย ซึ่งเรือ 1 ลำสามารถจับแมงกะพรุนได้ 300-600 ตัวคิดเป็นเงิน 1,500-3,000 บาท ซึ่งแบ่งรายได้กันแล้วเฉลี่ย คนละ 500-1,000 บาท
นายสายัณห์ หมาดชาย อายุ 45 ปี ชาวประมงใน ต.คลองประสงค์กล่าวว่า ตนเริ่มจับแมงกะพรุนมาตั้งแต่ปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา เนื่องจากปีนี้แมงกะพรุนมาเร็ว เดิมทีตนก็ออกเรือประมงวงอวนเล็กๆ น้อยๆรายได้ก็ไม่แน่นอน บางวันก็ไม่ได้เลยแต่พอมีแมงกะพรุนโผล่ขึ้นมาในทะเลพื้นที่บริเวณหมู่เกาะห้อง ในพื้นที่ ต.เขาทอง และบริเวณใกล้เคียง จึงได้ดัดแปลงเรือหาปลามาเป็นเรือตักแมงกะพรุนแทน ทำให้มีรายได้ดีขึ้นและค่อนข้างแน่นอน ซึ่งในปีนี้แมงกะพรุนมาเร็วกว่าปกติ และตัวขนาดใหญ่ ทำให้มีเรือประมง รวมทั้งเรือหางยาวท่องเที่ยวก็หันมาจับแมงกะพรุนขายกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากเดิมมีเรือจับแมงกะพรุน 100-200 ลำ ปีนี้มีเกือบ 1,000 ลำ อาจจะส่งผลให้แมงกะพรุนลดลงเร็วกว่าเดิม เพราะคนออกล่าแมงกะพรุนมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ปีนี้พ่อค้าให้ราคาดีตัวละ 5 บาท ซึ่งเรือแต่ละลำจะจับแมงกะพรุนได้ไม่ต่ำกว่า 200-300 ตัวต่อวัน ซึ่ง 1 ลำ จะใช้กำลังคน 2-3 คนคือ นายท้ายเรือ และคนทำหน้าที่ตักแมงกะพรุนที่หัวเรือ 1-2 คน เมื่อแบ่งรายได้กันแล้วตกคนละ 500-300 บาท แต่จะจับแมงกะพรุนได้ประมาณ 3 เดือนเท่านั้น หลังจากนี้มันย้ายไปที่อื่น ส่วนคนที่จับกะรพรุนเป็นอาชีพหลักก็จะมีรายได้หลักแสนบาทต่อปี เพราะจะตระเวนไปทุกจังหวัดในฝั่งอันดามัน ตั้งแต่ จ.ระนอง พังงา กระบี่ ตรัง ไปจนถึง จ.สตูล
ด้านนัฐวุฒิ สันติธราภรณ์ ผู้จัดการแพรับซื้อแมงกะพรุน กล่าวว่าปีนี้แมงกะพรุนจะมาเร็วกว่าทุกปีซึ่งทุกปีที่ผ่านมาจะมีมากในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย. คาดว่าเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่ถือว่าเป็นโชคดีของชาวประมงที่จะมีรายได้เร็วขึ้น ขณะที่ทางผู้ประกอบการก็มาตั้งเต็นท์รับซื้อเพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกัน โดยในปีนี้เฉพาะที่หาดคลองทราย มีอยู่เกือบ 20 เต็นท์ โดยจะว่าจ้างชาวบ้านในพื้นที่ให้ช่วยล้างคัดแยกแมงกะพรุน ซึ่งชาวบ้านจะมีรายได้อีกวันละ 400-500 บาท รวมแล้วเงินสะพัดไม่ต่ำว่า 500,000 บาทต่อวัน
สำหรับแมงกะพรุนที่รับซื้อจากชาวประมงจะเป็นแมงกะพรุนลอดช่อง นำมาหมักเกลือ พอแห้งแล้วก็ส่งต่อไปบริษัท ที่ จ.ชลบุรี จากนั้นจะทำการแปรรูปอีกครั้ง บรรจุใส่ลังไม้ส่งขายในประเทศและต่างประเทศ เช่น เกาหลี จีน เป็นต้น ซึ่งนิยมรับประทานกัน เพราะเชื่อว่ามีส่วนช่วยบำรุงร่างกาย บำรุงกำลังวังชา ส่วนในประเทศไทยก็จะนิยมทานเป็นอาหาร กับข้าว เช่น ยำแมงกะพรุนเป็นต้น
ณัฏฐพงษ์ ศรีปล้อง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี