nn การอภิปรายไม่ไว้วางใจทุกครั้งตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาถือว่ามีประโยชน์กับประชาชนอย่างมาก ยิ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจในสถานการณ์ยุคโลกโลกาภิวัตน์มันทำให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ ที่เป็น
ข้อเท็จจริงซุกซ่อนอยู่ใต้พรม สามารถหามาได้ในลักษณะทันใจรวดเร็วดุจปลุกเสก ประเภท “ใครทำอะไร ที่ไหน เมื่อไหร่” ได้อย่างไร้ข้อจำกัด ซึ่งผิดกับยุคเมื่อ 20-30 ปีที่แล้ว บางครั้งบางช่วง
อนิจจาเล่นกันแค่กระดาษแผ่นเดียว ก็ทำให้ผู้นำรัฐบาลเวลานั้นน้ำตาตกลาออก เพราะทนต่อแรงกดดันไม่ได้ (คนเชื่อ) ทั้งๆ กระดาษแผ่นนั้นมีราคาแค่การเติมแต่งสีสันเข้าไปเพื่อลวงโลกให้เกิดความเชื่อถือหวังผลแห่งชัยชนะทางการเมืองเท่านั้น ช่วงนั้นใครเป็นนายกรัฐมนตรีและใครยืนถือกระดาษแผ่นนั้นอวดอ้างกลางสภาฯหากย้อนไปดูก็ย่อมรู้
nn แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลยุคหลังๆกระดาษแผ่นเดียวหมดอายุขัยทำไม่ได้ ต้องมีการค้นหาข้อมูลออกมาประกอบอ้างอิงบอกเล่าสังคมรัดกุมละเอียดขึ้นมากชนิด “หน้ามือเป็นหลังมือ” แถมนักการเมืองที่นำเสนอข้อมูลก็มีองค์ความรู้มากขึ้นด้วย ไม่ดิบๆ สุกๆ (มีก็ไม่มากไม่ทุรยศเกินไป) แม้ว่าอีกฝากหนึ่งคือรัฐบาลจะมีข้อมูลหักล้างได้ แต่ข้อมูลเท็จกับข้อมูลจริง หรือเอกสารปลอมกับเอกสารจริงนั้น คุณภาพจะต่างกัน ประชาชนเองแยกได้ว่า “ทองคำแท้กับทองคำเปลว หรือผ้าขี้ริ้วธรรมดากับผ้าขี้ริ้วห่อทอง” มันเปรียบเทียบกันไม่ได้
nn คงต้องยอมรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2564 นั้น เป็นการถามตอบกลางสภาที่ทำให้แลเห็นคุณภาพนักการเมืองได้ดีเหลือหลายว่า “นกกระยางสีขาวที่พยายามเอาสีขาวมาป้ายทาตัวเองให้ขาวนวล เพื่อหวังหลอกลวงชาวโลกว่าตัวเองเป็นผู้ทรงศีล แต่ปักษาหารการกินแท้จริงแล้วมันคือเลือดสดๆ ในหนองน้ำ” ได้แสดงอาการกิริยาออกมาเป็นอย่างไร ที่สำคัญข้อมูลทั้งหมดที่มีการโยนส่งและรับกันนั้น ประชาชนคนติดตามข่าวสารบ้านเมือง ต่างรู้เช่นเห็นชาติว่านักการเมืองจำนวนไม่น้อยมีค่าแค่ “ทายาทอสูรวงจรอุบาทว์” ที่รอให้ผู้คนสาปแช่งว่าข้าคือ สิ่ง “ทุเรศอัปมงคล”ที่ยังเหลืออยู่
nn การนำเสนอตั้งคำถามหลายเรื่องถือว่าดีเพราะมีความสอดคล้องต้องกันกับหลักฐานทางเทคโนโลยีที่ไม่อาจเปลี่ยนรูปลักษณ์เป็นอื่นได้ การคัดค้านท้วงติง แบบไร้สาระที่มีความชิงชังกันเป็นส่วนตัว มันเป็นมลพิษทางสายตาและอารมณ์ของชาวบ้าน การอภิปรายไม่ไว้วางใจ คือ การกล่าวหารัฐบาลที่ทำงานผิดพลาดและไม่ไว้วางใจให้ทำงานอีกต่อไปโดยมุ่งหวังให้ประชาชนตัดสินชี้ขาด ส่วนคำกล่าวหาพวกมากลากไปเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้
nnการอภิปรายไม่ไว้วางใจไม่ได้แปลว่าการออกมาโค่นด่ารัฐบาลแบบบ้าเลือด แต่การจิกด่าเพราะดื้อรั้นหรือลุ่มหลงใช้อำนาจที่มีอยู่ก็ถือว่าพูดกันได้ในสภา รูปภาพ ข้อมูลทั้งหมดที่ได้รับการอนุญาตแล้วย่อมนำเสนอบอกเล่าประชาชนได้ ไม่ควรใช้หลักปฏิเสธซ้อนปฏิเสธเพราะคนตัดสินคือประชาชน การประท้วงลักษณะสิ้นคิดไม่ควรแสดงออกมาประจานตัวเองให้สังคมเอือมระอามากเกินไป คำถามไม่ไว้วางใจทุกประเด็นใครที่ถูกกล่าวหาคนนั้นต้องตอบบอกประชาชนโดยผ่านทางประธานสภาฯ และการอภิปรายที่เกิดขึ้นครั้งล่าสุดนี้ประชาชนผู้ติดตามการบ้านการเมืองทุบโต๊ะว่า “เข้าใจประเด็นปัญหา” อย่างดียิ่งพร้อมทั้งรู้ว่าชั่วดีอยู่ตรงไหน นักการเมืองคนไหนกลุ่มใด “เชลียร์” nn
ไผ่ฎำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี