รับซื้อ‘ช่อดอกกัญชา’

พุ่งกิโลละ4.5หมื่นบ.

อภ.ร่วมมือวิสาหกิจฯ

สกัดใช้ทางการแพทย์

องค์การเภสัชกรรม ลงนามร่วมมือ วิสาหกิจชุมชน ปลูกกัญชา หวังได้ “ช่อดอกกัญชา”มาสกัดสารสำคัญCBDใช้ประโยชน์การแพทย์ แก้ปวด ใช้รักษามะเร็งระยะสุดท้าย-โรคลมชักในเด็ก โดยมีสารสำคัญตามเกณฑ์กำหนดสูง 12% ซื้อขายสูงถึงกิโลละ 45,000 บาท

เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 นพ.โสภณ เมฆธน ผู้ช่วย รมว.สาธารณสุข ลงนามความร่วมมือระหว่างองค์การเภสัชกรรม กับวิสาหกิจชุมชนผู้ปลูกกัญชา สร้างต้นแบบหลักเกณฑ์ความร่วมมือและจัดซื้อช่อดอกกัญชาทางการแพทย์ กับ นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผอ.องค์การเภสัชกรรม (อภ.) และนางศศิการ ล้อจิโรภาส ประธานวิสาหกิจชุมชนศูนย์กลางการพัฒนาสมุนไพรเพลาเพลินเพื่อชุมชน จ.บุรีรัมย์

นพ.โสภณ กล่าวว่า หลังจาก อภ.มีการขับเคลื่อนนำสารสำคัญในกัญชามาใช้ทางการแพทย์ เพื่อใช้ในสถานพยาบาล ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยพบว่าความต้องการสารสำคัญของกัญชา มีมากในกลุ่มCBD ซึ่งจะมีประโยชน์ในการรักษา โรคลมชักในเด็ก บรรเทาอาการปวด ใช้ในกลุ่มคนไข้รักษามะเร็งระยะสุดท้าย

“โดยความต้องการ CBD แบบ1:1จึงมีแนวคิดร่วมกับวิสาหกิจชุมชนที่ผ่านเกณฑ์การคัดเลือกของ อภ.มาปลูก และทำสัญญาซื้อขาย ช่อดอกกัญชา เพื่อให้ได้สารสำคัญของกัญชาที่มีคุณภาพ สามารถนำมาทำได้ทั้งยาและเวชสำอาง และไม่ใช่แค่กัญชา ยังรวมไปถึงกัญชงด้วย ทำให้เรื่องของเส้นใย และการมองเรื่องนี้ไม่จำกัดแต่มิติสุขภาพ แต่ยังรวมไปถึงการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและประชาชนด้วย”

นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ปัจจุบัน อภ.ได้มีการประเมินวิสาหกิจชุมชน 3 แห่ง ที่พบว่า ผลการตรวจวิเคราะห์ช่อดอกแห้งของกัญชา มีปริมาณสาร CBD โดดเด่นสูงตั้งแต่ 8.0 เปอร์เซ็นต์ และอยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียด เพื่อการทำสัญญาซื้อขายช่อดอกกัญชาแห้ง ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกษตรอินทรีย์เพชรลานนา จ.ลำปาง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มรักจังฟาร์มวังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และวิสาหกิจชุมชนกลุ่มปลูกและแปรรูปบุก, เกษตรอินทรีย์บ้านทุ่งแพม จ.แม่ฮ่องสอน

ทั้งนี้ ราคาการรับซื้อช่อดอกแห้ง เกรด A ที่มีปริมาณสารสำคัญ CBDมากกว่า 12 เปอร์เซ็นต์ ราคากิโลกรัมละ45,000 บาท และเกรด B ปริมาณสารสำคัญ CBD 10-11.9 เปอร์เซ็นต์ ราคากิโลกรัมละ37,500-43,125 บาท ปริมาณสารสำคัญ 8-9.9 เปอร์เซ็นต์ กิโลกรัมละ 30,000-35,625 บาท