ยังคงต้องติดตามกันต่อไปว่าสถานการณ์จะคลี่คลายเมื่อใดกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ในประเทศไทย ซึ่งครั้งนี้การติดเชื้อจำนวนมากเกี่ยวข้องกับแรงงาน
ข้ามชาติ โดยเฉพาะที่ จ.สมุทรสาคร และ
ใกล้เคียง ทั้งนี้ นอกจากการมาตรการตรวจคัดกรองและรักษาแล้วอย่าง
ต่อเนื่องแล้ว การให้ความรู้ด้านการดูแลตนเองเพื่อลดความเสี่ยงจากโรคก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน
เมื่อเร็วๆ นี้ มีการจัดกิจกรรม “อบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาพระนิสิต
จิตอาสาเพื่อสร้างเสริมฟื้นฟูสุขภาวะแก่แรงงานต่างชาติที่ได้รับผลกระทบ
จากโควิด-19 ระลอกใหม่” ให้กับ
พระนิสิตชาวเมียนมา 50 รูป ซึ่งศึกษาอยู่ที่ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ
ราชวิทยาลัย (มจร.) จ.พระนครศรีอยุธยา
โดย พระเทพวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. อธิการบดี
มจร. กล่าวว่า มจร. ตระหนักเป็นอย่างดี
ถึงปัญหาการแพร่ระบาดในกลุ่มแรงงาน
ข้ามชาติในปัจจุบันว่าเป็นเรื่องสำคัญ
โดยเมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2564 ได้หารือร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพ
แห่งชาติ (สช.) และภาคีสุขภาพพระสงฆ์
ถึงแนวทางความร่วมมือการสื่อสารและช่วยเหลือแรงงานเมียนมา และมีมติเห็นชอบการดำเนินงานใน 4 ข้อ ดังนี้ 1.สช. จะเป็นกลไกประสานหน่วยงานภาคีต่างๆ สนับสนุนให้พระนิสิตเมียนมามีบทบาทช่วยเหลือ 2.สสส.สนับสนุน
การจัดอบรมพระนิสิตเมียนมาให้มีความรู้
ความเข้าใจด้านสุขภาพโดยเฉพาะการป้องกันโควิด-19
3.สสส. ร่วมกับสถานีโทรทัศน์ ThaiPBS และองค์กรพัฒนาเอกชน ร่วมกับพระนิสิต สร้างเครือข่ายการสื่อสาร และผลิตสื่อ และ 4.ให้พระนิสิต
เมียนมาช่วยสื่อสารความรู้ความเข้าใจต่อแรงงานเมียนมาให้มีความรู้เกี่ยวกับโควิด-19 ซึ่งขณะนี้พระนิสิตเมียนมา 50 รูป พร้อมที่จะเข้ามาช่วยเหลือด้านการสื่อสารสร้างความรู้ด้านสุขภาพและให้กำลังใจแรงงานชาวเมียนมาด้วยกันเป็นอย่างมาก
ขณะที่ ทพ.ศิริเกียรติ เหลียงกอบกิจ ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า สสส. ให้ความสำคัญกับการลดการตีตราและการเลือกปฏิบัติซึ่งเกิดขึ้นมากกับชาวเมียนมาในช่วงโควิด-19 ระลอกใหม่ นอกจากนั้นประเทศไทยมีข้อจำกัดเรื่องการสื่อสารระหว่างบุคลากรชาวไทยและแรงงานชาวเมียนมา โดยเฉพาะการทำความเข้าใจในเรื่องการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้องตามมาตรการของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และการฟื้นฟูเยียวยาจิตใจ ทำให้ สสส. ร่วมกับภาคีพระสงฆ์ สนับสนุนจัดอบรมการผลิตสื่อที่จะช่วยสร้างความเข้าใจเรื่องโควิด-19
โดยเน้นผลลัพธ์ 2 ประการ คือ 1.สามารถผลิตเป็นคลิปวีดีโอสั้นเพื่อใช้สื่อสารได้ด้วยตนเอง และ 2.มีช่องทางการเผยแพร่ขั้นพื้นฐานทางสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ ยูทูบ เฟซบุ๊ค ให้พระสงฆ์สามารถเป็นที่พึ่งส่งต่อกำลังใจแก่แรงงานชาวเมียนมา ด้วยความรู้ที่ถูกต้องในการดูแลสุขภาพ มาตรการการเฝ้าระวัง ควบคุมและป้องกันโรคที่สอดคล้องกับมาตรการรัฐและนโยบายที่ประเทศไทยวางไว้ และเพื่อสนับสนุนให้พระสงฆ์เข้ามามีส่วนร่วมช่วยเหลือนโยบายภาครัฐ ทั้งเรื่องการสื่อสารและเยียวยาด้านจิตใจแก่แรงงานเมียนมาในประเทศไทย
ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ เลขาธิการคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า สช. เข้ามามีบทบาทในฐานะหน่วยงานกลางสานพลังความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงพระนิสิตชาวเมียนมา เพื่อช่วยเหลือด้านการสื่อสาร เป็นที่ปรึกษา (Counsellor) และผู้นำทางความคิด (Influencer) ให้กับแรงงานชาวเมียนมา อันจะเป็นจุดเชื่อมโยง
ที่สำคัญในการเฝ้าระวัง ช่วยเหลือ และป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่
โดยเมื่อวันที่ 1 ก.พ. 2564 ได้หารือการทำงานพระนิสิตช่วยเหลือแรงงานเมียนมา ร่วมกับกรุงเทพมหานคร (กทม.) ซึ่งมีข้อสรุปบทบาทพระนิสิตเมียนมา 3 ข้อ คือ 1.ช่วยเป็นล่าม แปลภาษาสอบสวนโรคกรณีพบผู้ติดเชื้อด้วยการคุยสามสายและการร่วมทำ Timeline 2.ช่วยสื่อสารให้ความรู้การป้องกัน ดูแลสุขภาพกับแรงงานเมียนมา
และ 3.ลงพื้นที่ให้กำลังใจ ข้อแนะนำ คำปรึกษา ช่วยเหลือด้านคุณภาพชีวิต (อาหาร) ตลอดจนกิจกรรมด้านจิตใจ
มีแนวทางการทำงาน คือ 1.พระนิสิตร่วมกันผลิตสื่อให้กับแรงงานเมียนมาเป้าหมาย โดยให้ความรู้ด้านโควิด-19 ผนวกกับความรู้ทางธรรมะ 2.ลงพื้นที่ที่มีแรงงานเมียนมาจำนวนมาก และพื้นที่วัดที่แรงงานเมียนมานิยมไปทำบุญ จำนวน 6 เขต ได้แก่ บางขุนเทียน (วัดพรหม) บางบอน ภาษีเจริญ (วัดรางบัว/วัดเมืองมะริ) บางแค (วัดสิงห์) จอมทอง (วัดสิงห์) หนองแขม (วัดหนองแขม) และ 3.เชื่อมกลไกการทำงานของเครือข่าย โดยร่วมกับมหาเถรสมาคมจัดประชุมออนไลน์กับวัดในพื้นที่
สำหรับกิจกรรมอบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนาพระนิสิตจิตอาสาเพื่อสร้างเสริมฟื้นฟูสุขภาวะแก่แรงงานต่างชาติที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ระลอกใหม่ เป็นความร่วมมือกันของ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กระทรวงสาธารณสุข สถานีโทรทัศน์ ThaiPBS กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ (MWG) และกรุงเทพมหานคร (กทม.)!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี