21 กุมภาพันธ์ 2564 จากกรณีจังหวัดสงขลาถูกคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำกัดเซาะชายฝั่งอยู่ตลอดเวลา สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่บริเวณชายหาดของ จ.สงขลา โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งปลายกำแพงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านทุ่งใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.เขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา ที่ไม่มีการก่อสร้าง คลื่นได้กัดเซาะชายฝั่งเข้ามาจนถึงแนวสนริมหาด ทำให้ต้นสนทั้งขนาดใหญ่และเล็กล้มระเนระนาดไปแล้ว 7 ต้นภายในเวลา 2 วัน
จังหวัดสงขลาถูกคลื่นลมแรงพัดกระหน่ำกัดเซาะชายฝั่งอยู่ตลอดเวลา สร้างความเสียหายให้กับพื้นที่บริเวณชายหาดของ จ.สงขลา โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งปลายกำแพงป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บ้านทุ่งใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.เขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา ที่ไม่มีการก่อสร้าง คลื่นได้กัดเซาะชายฝั่งเข้ามาจนถึงแนวสนริมหาด ทำให้ต้นสนทั้งขนาดใหญ่และเล็กล้มระเนระนาดไปแล้ว 7 ต้นเมื่อวานนี้ และพร้อมจะล้มเพิ่มอีกในอีก 1 – 2 วันนี้ หากสภาพคลื่นลมในทะเลยังมีกำลังแรง
เมื่อเวลา 11.30 น. นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่เพื่อสำรวจบริเวณชายหาดที่ถูกคลื่นกัดเซาะ จนทำให้ต้นสนขนาดใหญ่ริมทะเลโค่นล้มได้รับความเสียหาย บริเวณบ้านทุ่งใหญ่ หมู่ที่ 3 ต.เขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลา โดยมีนายไชยพร นิยมแก้ว นายอำเภอเมืองสงขลา พร้อมด้วย นายเอกชัย ศิริพันธ์ รองประธานสภา อบจ.สงขลา ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบในวันนี้
นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า "วันนี้ได้ลงมาในพื้นที่ ที่ถูกคลื่นกัดเซาะชายฝั่งในบริเวณตำบลเขารูปช้าง อำเภอเมืองสงขลาพร้อมด้วยนายอำเภอ และสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ซึ่งได้นำมาดูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเนื่องจากมรสุมคลื่นลมแรง โดยบริเวณนี้จะเจอกับสถานการณ์อย่างนี้ทุกปี มีการกัดเซาะชายฝั่ง เป็นเหตุให้ต้นสนซึ่งมีอายุกว่า 50 ถึง 70 ปีได้รับผลกระทบ ล้มเป็นแนวอย่างนี้ ดังนั้นในระยะอันใกล้นี้ ก็จะเชิญหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง จะเรียนกับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา จะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอาทิ กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย รวมถึง ปภ. มาพูดคุยหามาตรการในการ แก้ไขปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งว่าจะมีการแก้ไขอย่างถาวรอย่างไร
ไม่อย่างนั้นต้นสนที่เป็นธรรมชาติที่สวยงามของที่นี่ ก็จะถูกกัดเซาะตลอดไป และจะหามาตรการทำความเข้าใจกับชุมชนอย่างไร ในการที่จะช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติสิ่งเหล่านี้ไว้ และของใหม่ที่ทำก็ต้องไม่ให้มีผลกระทบกับธรรมชาติมากนัก อันนี้ก็จะดำเนินการต่อไป โดยจะขับเคลื่อนโครงการนี้ผ่านทางโครงการ "ขับเคลื่อนไทยไปด้วยกัน" ซึ่งจะเป็นกลไกหนึ่งในการแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างยั่งยืน ซึ่งในระยะสั้นเท่าที่ดูต้องให้หน่วยงานเดิม ซึ่งทราบว่ามีงบประมาณอยู่แล้ว แต่ทำความเข้าใจกับชุมชนยังไม่เรียบร้อย ซึ่งกรมเจ้าท่าก็มีงบประมาณอยู่ก้อนหนึ่ง แต่เกิดอะไรขึ้นยังไม่ทราบ ก็จะดูว่าจะมาแก้ไขอย่างไรไม่ให้ชายหาดแถวนี้ได้รับผลกระทบ ก็จะเร่งนัดทุกฝ่ายมาร่วมปรึกษากันอีกครั้งโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี