กทม.เข้าแจ้งความ สน.สำราญราษฎร์ เอาผิดม็อบรื้อต้นไม้อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เสียหาย 5 ล้านบาท พบผู้กระทำความผิดแล้ว 9 คน อีก 21 คน รอผลตรวจพิสูจน์ด้าน“รอง ผบช.น.”เผย กระสุนยาง-ปืนตาข่าย จะ ใช้เมื่อจำเป็นเท่านั้น เตือนหลีกเลี่ยงพื้นที่ม็อบชุมนุม หวั่นโดนลูกหลง
เมื่อเวลา 14.30น.วันที่ 21กุมภาพันธ์ ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.เปิดเผยถึงผลสรุปการปฎิบัติงานช่วงการชุมนุมเมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ว่า พบกระทำความผิดหลายข้อหาฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน , พรบ.ควบคุมโรคติดต่อ,พรบ.จราจรทางบก ที่มีการปิดถนนและ พรบ.ความสะอาด ที่มีการรื้อต้นไม้ในสวนหย่อมได้รับความเสียหาย ติดป้ายและพ่นสีในที่สาธารณะ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิด
ส่วนความคืบหน้าคดีการชุมนุม เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครได้ไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สำราญราษฎร์ เนื่องจากพบความเสียหายจากการรื้อสวนหย่อมประมาณ 5 ล้านบาท ตรวจสอบพบผู้กระทำความผิดแล้ว 9 คน อยู่ระหว่างพิสูจน์ทราบอีก 12 คน
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวอีกว่า ส่วนการชุมนุมวันที่ 21กุมภาพันธ์ ประเมินไว้ว่า ผู้ชุมนุมจะจำนวนไม่มาก อย่างไรก็ตามอยากฝากเตือนประชาชนในระแวกใกล้เคียง ควรระมัดระวัง หลีกเลี่ยงพื้นที่การชุมนุมในวันนี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพราะอาจเกิดเหตุกระทบกระทั่งของกลุ่มการ์ดอาชีวะที่มีความขัดแย้งกันมาก่อนหน้านี้ เหมือนกับเช่นเหตุการณ์ที่สามย่านมิตรทาวน์และหน้าสถานฑูตเมียนมา พร้อมกำชับ พล.ต.ต.ปราศรัย จิตตสนธิ ผบก.น.1และพล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 ดูแลความสงบเรียบร้อยโดยรอบอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย คงมีการตั้งจุดตรวจค้นยานพาหนะ และบุคคลต้องสงสัย ทั้งนี้ บช.น. ยืนยันว่า มาตรการใช้กระสุนยาง ปืนตาข่าย เชือกรัด จะใช้ต่อเมื่อมีความจำเป็นจริงๆ เท่านั้น
ด้านเฟซบุ๊กเยาวชนปลดแอก-Free YOUTH ได้โพสต์ข้อความ ว่า เร็วๆ นี้เตรียมพบกับ การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่คนเท่ากัน การต่อสู้ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่ทุกคนเป็นเจ้าของ “ร่วมกัน” โดยระบุว่า เรายืนอยู่ข้างๆ มวลชน เป็นส่วนหนึ่งเท่าๆ กันกับทุกคน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การต่อสู้กับฝ่ายเผด็จการที่มีองคาพยพอยู่เพรียบพร้อมนั้น อาจทำให้ความท้อแท้ สิ้นหวังกัดกินหัวใจของใครหลายๆ คน แต่ขอทุกคนจงตระหนักไว้ว่า เราต้องการเพียงแค่ความสำเร็จ “1 ครั้ง”จากความล้มเหลว 100ครั้ง แต่หากจะเรียกว่าล้มเหลวก็อาจไม่ใช่เสมอไป เพราะนี่คือการชักเย่อระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยและฝ่ายเผด็จการ ที่เราได้ดึงจุดศูนย์กลางของเชือกให้เข้าใกล้ฝั่งได้มากขึ้น แต่เพื่อให้แรงของการชักเย่อนั้นมากพอที่จะนำมาสู่ชัยชนะ เราจำเป็นต้องคิดหาวิธีใหม่ๆ ในการต่อสู้
การจับมือกันของประชาชนยังคงต้องเกิดขึ้น เพราะการต่อสู้ในตอนนี้ไม่ใช่การสู้เพียงเพื่อวันนี้ แต่เป็นการสู้เพื่ออนาคตที่ดีกว่าของลูกหลานของเรา อนาคตที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและอำนาจลดลง การมีขนส่งสาธารณะที่มีคุณภาพ การที่ทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่เพียงพอไม่มีใครต้องนอนข้างถนน แต่การจะนำไปสู่จุดนั้นได้ อาจต้องไม่ใช่แค่การลุกขึ้นของคนใดคนหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง แต่ต้องเป็นการลุกขึ้นหยัดยืนด้วยตัวของ“มวลมหาประชาชน” เร็วๆนี้เตรียมพบกับ! การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยที่คนเท่ากัน การต่อสู้ที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แต่ทุกคนเป็นเจ้าของ“ร่วมกัน”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากลุ่มราษฎร พร้อมด้วยแนวร่วมกลุ่มพีเพิ่ลโก (PEOPLE GO) รวมกลุ่มภายใต้ชื่อกิจกรรม“เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน”เดินเท้าจากลานอนุสรณ์วีรชนคนโคราช ข้างอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 16กุมภาพันธ์ 2564 ไปที่ทำเนียบรัฐบาล กรุงเทพมหานคร เพื่อขับไล่รัฐบาลและเรียกร้องให้ปล่อยตัวแกนนำคณะราษฎร 4 คน ที่ถูกเจ้าหน้าที่จับตัวไปกักขัง และเรียกร้อง 3 ข้อคือ ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวก ต้องลาออกจากรัฐบาล, ให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญและแก้รัฐธรรมนูญตามข้อเสนอจากประชาชน และให้ปฏิรูปสถาบันโดยมีกำหนดจะเดินทางเป็นระยะทางกว่า 247กิโลเมตรนั้น
ล่าสุด วันที่ 21กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นการเดินวันที่ 6 ติดต่อกัน ขบวน “เดินทะลุฟ้า คืนอำนาจประชาชน” ได้เริ่มต้นเดินเท้าจากหน้าศูนย์การสุนัขทหาร ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง ออกเดินตามเส้นทางถนนมิตรภาพ ทางหลวงหมายเลข 2 ผ่านใต้สะพานมอเตอร์เวย์ ก่อนจะนำขบวนตัดขึ้นสะพานต่างระดับไปใช้เส้นทางหมายเลข 2422 ถนนมิตรภาพสายเก่า ผ่านบ้านโนนป่าติ้ว ตำบลหนองสาหร่าย เพื่อมุ่งหน้าเข้าสู่ตัวอำเภอปากช่อง โดยมีประชาชนที่ได้โอกาสช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ เข้ามาร่วมเดินสมทบเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งเป้าหมายเดินทะลุฟ้าในวันนี้ เป็นระยะทาง 15.3 กิโลเมตร โดยออกเดินที่กิโลเมตรที่ 80 เดินเท้า 4.5 กิโลเมตร ก่อนจะแวะพักจุดที่ 1 ที่บริเวณศาลารอรถหน้าวิทยาลัยการอาชีพปากช่อง ก่อนที่ทางกลุ่มจะเดินเท้าต่อไปยังจุดพักที่ 2 ตามถนนมิตรภาพสายเก่า เป็นระยะทาง 3.6 กิโลเมตร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี