ตรวจตลาดคัดกรองหมื่นคน
ปทุมธานียังแรง
ติดโควิดทะลุ400เสี่ยงสูง900
ส่วนใหญ่พ่อค้าแม่ค้าคนไทย
เร่งตามผู้สัมผัสใกล้ชิดหาเชื้อ
ไทยป่วยรายวันลดเหลือ92ราย
พยาบาลบางละมุงติดจากผู้ป่วย
ไทยป่วยโควิดใหม่ 92 ราย สะสม 25,415 คน ขยับขึ้น 113 ของโลก ส่วนใหญ่อยู่ที่สมุทรสาคร-ปทุมธานี โดยที่สมุทรสาครพบผู้ป่วยใหม่ 60 คน สะสม 16,080 คน ปทุมธานียังคัดกรองต่อเนื่อง เน้นตลาดพรพัฒน์และตลาดใกล้เคียงมากกว่าหมื่นคน พบติดเชื้อ 415 ราย ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้าแม่ค้าคนไทยในตลาดและลูกจ้างแรงงานต่างด้าว พบผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 900 คน เร่งตามตัวตรวจหาเชื้อ สสจ.ชลบุรีแจงพยาบาลบางละมุงติดโควิด-19 จากผู้ป่วยที่ส่งตัวมาจากสถานกักตัวผู้เดินทางตปท.ไม่ใช่ติดจากการปฎิบัติงานในที่กักตัว
เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ เฟซบุ๊กศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานสถานการณ์ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 หรือ โควิด-19 ในประเทศไทยว่า พบผู้ป่วยใหม่ 92 ราย แบ่งเป็นผู้ป่วยจากระบบเฝ้าระวังและบริการ 48 ราย ผู้ป่วยจากการคัดกรองเชิงรุก 38 รายและผู้เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้าสถานกักกันโรค 6 ราย รวมสะสม 25,415 ราย แบ่งเป็นการติดเชื้อในประเทศ 22,719 ราย และเป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2,696 ราย รักษาหายป่วยแล้ว 24,285 ราย ยังรักษาอยู่ในโรงพยาบาล(รพ.) 1,047 ราย เสียชีวิตสะสม 83ราย ทั้งนี้ จำนวนผู้ติดเชื้อในการระบาดรอบใหม่ สะสม 21,178 ราย แบ่งเป็นการคัดกรองเชิงรุกในชุมชน 14,393 ราย ผู้ป่วยรายใหม่ 5,863 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 922 ราย และผู้เสียชีวิตสะสม 23 ราย
ติดเชื้อ92พบมากสมุทรสาคร-ปทุมฯ
ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 92 ราย จากระบบเฝ้าระวังและบริการ 48 ราย พบใน สมุทรสาคร 33 ราย กรุงเทพมหานคร(กทม.) 3 ราย ปทุมธานี 7 ราย ชลบุรี 1 ราย ขอนแก่น 1 ราย อ่างทอง 3 ราย ส่วนการคัดกรองเชิงรุก 38 ราย พบใน สมุทรสาคร 27 ราย ปทุมธานี 10 ราย อ่างทอง 1 ราย และผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 6 ราย ได้แก่ เยอรมนี สหรัฐอเมริกา บราซิล เอธิโอเปีย คูเวต และโอมาน ประเทศละ 1 ราย
สถานการณ์โควิด-19 ทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อรวม 111,648,055 ราย เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 372,396 ราย อาการรุนแรง 94,448 ราย รักษาหายแล้ว 86,814,691 ราย เสียชีวิต 2,472,298 ราย
ไทยติดอันดับ113ของโลก
สำหรับอันดับประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุด ได้แก่ 1.สหรัฐอเมริกา 28,706,473 ราย เป็นรายใหม่ 69,617 ราย 2.อินเดีย 10,991,091 ราย เป็นรายใหม่ 14,315 ราย 3.บราซิล 10,139,148 ราย เป็นรายใหม่ 57,4558 ราย 4.รัสเซีย 4,151,984 ราย เป็นรายใหม่ 12,953 ราย 5.สหราชอาณาจักร 4,105,675 ราย เป็นรายใหม่ 10,406 ราย ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 113 ของโลก
ปทุมฯคัดกรองหมื่นติดเชื้อ400คน
ความคืบหน้าสถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่จ.ปทุมธานี นพ.จักรรัฐ พิทยาวงศ์อานนท์ ผู้อำนวยการกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปทุมธานี และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 สระบุรีดำเนินการคัดกรองเชิงรุก ตั้งแต่วันที่ 9 – 19 กุมภาพันธ์ที่ตลาดพรพัฒน์และตลาดใกล้เคียง จังหวัดปทุมธานีไปแล้วกว่า 10,000 คน พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ที่ไม่แสดงอาการ 415 คน ส่วนใหญ่เป็นพ่อค้า แม่ค้าคนไทยในตลาด และลูกจ้างแรงงานต่างด้าว
เร่งตามผู้สัมผัสเสี่ยงสูง900คน
นพ.จักรรัฐกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังพบผู้สัมผัสเสี่ยงสูงกว่า 900 คน ติดตามได้แล้วประมาณ 300 คน อยู่ระหว่างติดตามอีกมากกว่า 500 คน ขอให้ผู้ที่ไปตลาดหรือผู้เกี่ยวข้องตลาดพรพัฒน์ช่วงวันที่ 9-13 กุมภาพันธ์หรือก่อนหน้านี้ 7 วัน แยกสังเกตอาการตนเอง ลดการพบปะผู้อื่น หลีกเลี่ยงเดินทางไปสถานที่มีคนจำนวนมาก สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา รักษาระยะห่าง หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน แยกสำรับอาหารและของใช้ส่วนตัว หมั่นล้างมือบ่อยๆ ถ้าไม่แน่ใจหรือมีอาการสงสัยให้แจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขหรือโทรสายด่วน 1422 หรือพบแพทย์ใกล้บ้าน ส่วน ผู้ขายทำความสะอาดแผงกั้นบ่อย ๆ ลดความเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อ
สมุทรสาครเจอป่วยใหม่60คน
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร รายงานสถานการณ์ COVID-19 จ.สมุทรสาคร รายงานสถานการณ์ติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่ จนถึงเวลา 24.00 น.วันที่ 20 กุมภาพันธ์ พบผู้ป่วยใหม่ 60 คน จากการค้นหาเชิงรุก 17 คน แบ่งเป็นคนไทย 8 คน และคนต่างชาติ 9 คน พบจากตรวจหาเชื้อในโรงพยาบาล 43 คน แบ่งเป็นคนไทย 29 คน และคนต่างชาติ 14 คน ผู้ติดเชื้อสะสม 16,080 คน แบ่งเป็นจากการค้นหาเชิงรุกทั้งคนไทยและต่างชาติ รวม 13,446 คน และจากการตรวจหาเชื้อที่โรงพยาบาลทั้งคนไทยและต่างชาติ รวม 2,634 คน ส่วนผู้ป่วยที่เข้ารักษาในโรงพยาบาล 325 คน เป็นคนไทย 215 คน ต่างชาติ 110 คน และผู้ที่อยู่ระหว่างการสังเกตอาการอีกรวม 185 คน เป็นคนต่างชาติทั้งหมด ส่วนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 7 คน มีผู้ป่วยที่รักษาหาย 67 คน สำหรับการค้นหาเชิงรุกวันที่ 20 กุมภาพันธ์ ค้นหาเชิงรุกทั้งหมด 2,645 คน ยอดสะสมจากการค้นหาเชิงรุกรวม 187,763 คน ขณะที่ยอดสะสมผู้พบเชื้อจากการค้นหาเชิงรุกรวม 13,446
พยาบาลบางสะมุงติดจากผู้ป่วย
ด้านนพ.อภิรัต กตัญญุตานนท์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชลบุรีกล่าวถึงกรณีพบพยาบาลหญิง อายุ 25 ปี ที่รพ.บางละมุงติดเชื้อโควิด-19 ว่า ขณะนี้ผู้ป่วยมีอาการไอ ตรวจเชื้อเช้าวันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นการติดเชื้อจากผู้ป่วยโควิด -19 ที่ถูกส่งตัวมาจากสถานที่กักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ไม่ใช่การติดเชื้อจากการปฏิบัติงานในสถานที่กักตัว ทั้งนี้ สอบสวนโรคมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 11 ราย ตรวจหาเชื้อแล้วไม่พบว่ติดเชื้อแต่อย่างใด ขณะนี้ส่งไปกักตัวที่ Local quarantine และสับเปลี่ยนบุคคลากรจากแผนกอื่นมาปฏิบัติหน้าที่แทน ส่วนผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำมี 5 รายตรวจไม่พบเชื้อแล้ว 2 ราย อยู่ระหว่างรอผลอีก 3 ราย พร้อมกับการสอบสวนโรคเพิ่มเติม
เป็นรายแรกของจว.ชลบุรี
นพ.อภิรัตกล่าวต่อว่า ที่ผ่านมา รพ.บางละมุง จ.ชลบุรี เป็นรพ.รับส่งต่อผู้ติดเชื้อมาจากสถานที่กักกันโรคของภาครัฐอยู่แล้ว ตั้งแต่ระบาดรอบแรกถึงรอบนี้ การทำงานกับผู้ติดเชื้อฯ จึงเสี่ยงมากที่จะเกิดการติดเชื้อได้ และรายนี้นับเป็นรายแรกของจังหวัดที่ติดเชื้อจากการดูแลผู้ป่วยโควิด อย่างไรก็ตาม ต้องไปดูว่ามีช่องโหว่ตรงไหนที่ทำให้เกิดการติดเชื้อขึ้น ดังนั้น ในส่วนนี้ต้องกำชับผู้ปฏิบัติงานของเรากรณีทีดูแลผู้ป่วยโควิดฯ นั้นขอให้เข้าไปพูด และสื่อสารกับผู้ป่วยเท่าที่จำเป็น
นพ.อภิรัตยืนยันว่า รพ.แบ่งแยกบุคลากรที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 และผู้ป่วยทั่วไปของรพ.ชัดเจน ขอประชาชนอย่ากังวล แต่เพื่อสร้างความมั่นใจ รพ.จะตรวจหาเชื้อบุคลากร และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ของทางรพ.เพิ่มเติมด้วย
เร่งสอบสวนโรคคัดกรองกลุ่มเสี่ยง
ทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่ตรวจคัดกรองกลุ่มเสี่ยง พบผู้ติดเชื้อเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในเขต อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น ขณะที่พ่อของผู้ติดเชื้อทำงานที่โรงงานแห่งหนึ่งใน อ.บ้านฝาง หลังจากกลับถึง จ.ขอนแก่น ในวันที่ 12 ก.พ. ทั้งผู้ติดเชื้อและพ่อได้ไปเรียนและทำงานตามปกติ ต่อมาได้รับแจ้งจากครอบครัวที่ จ.ปทุมธานี พบย่า และอาของผู้ติดเชื้อมีอาการป่วย ภายหลังพบติดเชื้อ COVID-19 พ่อของผู้ติดเชื้อซึ่งเดินทางไป จ.ปทุมธานี อีกครั้งในวันที่ 17 ก.พ.จึงเข้ารับการตรวจ COVID-19 ยืนยันติดเชื้อเช่นกัน
ทั้งนี้ ทีมสอบสวนโรคและทีมแพทย์ จึงลงพื้นที่ตรวจคัดกรองแยกกลุ่มเสี่ยงผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับพ่อของผู้ติดเชื้อ จำนวน 5 คน ที่ทำงานร่วมกันในโรงงานแห่งหนึ่ง พร้อมคัดกรองนักเรียนและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนผู้ติดเชื้อพบกลุ่มเสี่ยง 310 คน
ขณะที่ นพ.สมชายโชติ ปิยวัชร์เวลา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดขอนแก่น ระบุว่า ครอบครัวของผู้ป่วยมีทั้งหมด 8 คนโดย 2 คน คือ พ่อและตัวผู้ป่วยเดินทางไปที่ จ.ปทุมธานี และยืนยันพบการติดเชื้อ โดยที่พ่อเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อของ จ.ปทุมธานี ส่วนลูกชายวัย 10 ขวบเป็นผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อของ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการ
“การตรวจสอบคนในครอบครัวของผู้ป่วย 6 คนที่อยู่ที่ขอนแก่น อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการอย่างเข้มงวด รวมทั้งการตรวจสอบไทม์ไลน์ของผู้ป่วยว่าไปที่ใด หรือสัมผัสกลุ่มเสี่ยงใดบ้างเพื่อให้การตรวจคัดกรองต่างๆนั้นเป็นไปอย่างละเอียดรอบคอบ”
‘นพ.ยง’หนุนเร่งฉีดวัคซีนฟื้นเศรษฐกิจ
นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยา คลินิกภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Yong Poovorawan เรื่อง โควิด 19 วัคซีน ฉีดวัคซีนเพื่อชาติ ระบุว่า จุดมุ่งหมายการให้วัคซีน โควิด 19 ข้อมูลชัดเจนว่า โควิด 19 วัคซีน ลดการเกิดโรค และลดความรุนแรงของโรค และน่าจะป้องกันการกระจายของโรค ดังนั้นประโยชน์ที่ได้น่าจะประกอบไปด้วย1โอกาสที่เราจะป่วยเป็นโรคน้อยลง ความรุนแรงของโรคก็น้อยลง 2 การแพร่กระจายของโรคก็จะลดลง เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า คนที่มีอาการน้อยหรือไม่มีอาการ โอกาสแพร่กระจายโรคน้อยกว่า คนที่มีอาการ 3 เป็นการป้องกันเขาและป้องกันเรา ก็จะลดการระบาดของโรค 4 จำนวนผู้ป่วยก็จะลดลง ระบบสาธารณสุขจะได้ใช้ ไปดูแลโรคอื่น 5 ชีวิตความเป็นอยู่ ก็จะค่อยๆกลับคืนสู่ภาวะปกติ 6 ภาวะเศรษฐกิจต่างๆก็จะดีขึ้น 7 การเดินทางการท่องเที่ยวก็จะฟื้น แรงงานต่างๆก็จะได้มีงานทำ 8 การศึกษาของนักเรียน จะได้กลับคืนสู่ภาวะปกติ 9 ค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาการตรวจวินิจฉัยที่ใช้เงินจำนวนมาก ก็จะได้นำเงินนี้ไปใช้อย่างอื่น 10 สุขภาวะความเครียด สภาพจิตใจต่างๆก็จะดีขึ้น
“วัคซีนที่ใช้ในปัจจุบันฉีดไปแล้วกว่า200ล้านโดส จากบริษัทใหญ่ๆเช่น Pfizer, Sinopharm, Moderna, AstraZeneca, Sinovac, Sputnik V โดยที่มีอาการข้างเคียงไม่ต่างกับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ถ้าสามารถนำวัคซีนดังกล่าวเข้าสู่ประเทศไทย ได้ก็ควรรีบจะทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายโดยเร็ว เมื่อวัคซีนเข้าสู่ประเทศไทย เรามาช่วยกันรณรงค์ให้ฉีดวัคซีนให้เร็วที่สุดและให้ได้มากที่สุด เพื่อช่วยให้พ้นจากวิกฤตที่ผ่านมา”
เอกชนจี้ศบค.ปลดล็อกกิจกรรมเพิ่ม
ด้านนายภูริวัจน์ ลิ้มถาวรรัตน์ รองประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) เปิดเผยว่า ภาพรวมการท่องเที่ยวขณะนี้ เริ่มเห็นการออกเดินทางมากขึ้น หลังรัฐบาลผ่อนคลายข้อกำหนดมากกว่าเดิม แม้จะเริ่มเดินทางเพิ่มขึ้น แต่ยังอยู่ในระดับค่อนข้างน้อย เพราะหลายจังหวัดยังไม่ได้อนุญาตให้คนนอกพื้นที่เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวได้อย่างสนิทใจ ส่วนการประชุมของศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดวิด-19 (ศบค.) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ มองว่ารัฐบาลควรปลดล็อกธุรกิจหรือส่วนต่างๆ ที่ยังไม่ถูกปลดล็อก เพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลายมากขึ้น เอื้อการเดินทางเพิ่มเติมได้
เร่งช่วยเหลือท่องเที่ยวก่อนทรุด
นายภูริวัจน์ กล่าวว่า ภาคการท่องเที่ยวที่ผ่านมา ยังไม่ได้รับการช่วยเหลือมากนัก โดยเฉพาะผู้ประกอบการธุรกกิจท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่การระบาดโควิด-19 รอบแรก จนถึงการระบาดระลอกใหม่นี้ ก็ยังไม่มีมาตรการช่วยเหลือเยียวยาเป็นชิ้นเป็นอันชัดเจน จึงมองว่ารัฐบาลควรเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการได้แล้ว ก่อนที่จะล้มหายตายจากกันหมด ขณะนี้รัฐบาลควรต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นกลับมา ประชาสัมพันธ์จังหวัดที่เดินทางไปได้ เพราะมีหลายจังหวัดที่ปลอดภัย และปลอดเชื้อโควิด-19 รวมถึงเมื่อไวรัสคลายตัวลง อยากให้รัฐบาลเร่งให้เกิดการเดินทางเพิ่มผ่านการจัดประชุมสัมมนาของรัฐและรัฐวิสาหกิจ เป็นส่วนกระจายการใช้จ่ายหลัก ในภาวะที่ประชาชนส่วนใหญ่ถูกกระทบจากโควิด-19 ทำให้รายได้ลดลง และกำลังซื้อหดตัว
ขอความชัดเจนจัดงานสงกรานต์
“สิ่งที่อยากเห็นมากที่สุดขณะนี้คือ การทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้ภาคการท่องเที่ยวเดินคู่ไปกับความปลอดภัย เพราะที่ผ่านมา ยึดหลักความปลอดภัยเป็นหลัก แต่การท่องเที่ยวไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ จึงอยากให้ประสานกันระหว่างความปลอดภัย และการช่วยภาคท่องเที่ยวให้ขับเคลื่อนต่อไปได้ ยังหวังว่า ช่วงสงกรานต์ทุกอย่างจะดีขึ้น การเดินทางท่องเที่ยวจะทำได้มากขึ้น จึงอยากให้รัฐบาลกำหนดชัดเจนเลยว่า ช่วงสงกรานต์เอกชนทำกิจกรรมอะไรได้บ้าง เพื่อเตรียมพร้อมล่วงหน้าก่อน” นายภูริวัจน์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี