22 กุมภาพันธ์ 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่หน้าศาลากลางจังหวัดราชบุรี ผู้นำหมู่บ้าน พร้อมตัวแทนชาวบ้าน 5 หมู่บ้านในหมู่ 1 หมู่ 2 หมู่ 3 หมู่ 5 และหมู่ 15 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี กว่า 50 คน ได้รวมตัวกันถือป้ายประท้วงคัดค้านไม่เอาฟาร์มไก่ โดยระบุข้อความบนป้ายว่า “ชาวนาสมอ เอาไม่เอาฟาร์มไก่” , “ขอความเห็นใจจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี พิจารณาถึงผลกระทบต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของชาวบ้าน”
หลังจากทราบข่าวจากทางหน่วยงานราชการในพื้นที่ว่ามีการพิจารณา เตรียมอนุญาตให้ทางผู้ประกอบการก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ขนาดใหญ่ เนื้อที่กว่า 60 ไร่ ที่เดิมนั้นเป็นไร่อ้อยแต่ขณะนี้ได้มีการตัดอ้อยออกไปแล้ว และอยู่ในขั้นตอนของการเตรียมพื้นที่ ซึ่งอยู่ติดกับใกล้วัดนาสมอ ม.3 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง ซึ่งนอกจากฟาร์มไก่ที่กำลังจะสร้างดังกล่าว ใกล้กับวัดแล้ว ยังอยู่ใกล้กับโรงเรียน และชุมชน ชาวบ้านจึงเกรงว่าหากปล่อยให้ดำเนินการก่อสร้าง จะก่อให้เกิดมลพิษทั้งกลิ่นเหม็น น้ำเน่าเสีย ทั้งยังจะมีแมลงวันรบกวนและเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของชาวบ้าน พระสงฆ์ และเด็กนักเรียน ที่สำคัญยังจะส่งผลให้เกิดอาการเจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจด้วย
นายศักดา หมื่นศรี รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลปากช่อง พร้อมด้วยนายทองสุข อุ่นเรือง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.ปากช่อง และ นายณรงค์ พวงสุวรรณ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้เป็นเหตุการณ์ที่ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างฟาร์มไก่ ได้ออกมารวมตัวกันที่หน้าศาลากลางจังหวัดราชบุรี เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี นายรณภพ เหลืองไพรโรจน์ ขอให้ทบทวนคำวินิจฉัยอุธรณ์คำสั่งในการก่อสร้างฟาร์มไก่ ที่จะสร้างในพื้นที่ประกอบกิจการหมู่ที่ 1 ต.ปากช่อง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี และขอให้ตรวจสอบเหตุผลที่องค์การบริหารส่วนตำบลปากซ่อง ไม่นำความคิดเห็นของประชาชนมาเป็นสาระสำคัญในการไม่ออกใบอนุญาตให้ก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่
นายศักดา กล่าวว่า ตามที่ตัวแทนชาวบ้านได้รับหนังสือจากองค์การบริหารส่วนตำบลปากช่อง ที่ รบ 72101/ว 149 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2564 เรื่องขอวินิจฉัยอุทธรณ์ กรณี การสร้างและประกอบกิจการฟาร์มเลี้ยงไก่ของผู้ประกอบการ ทำให้ทราบว่า คณะกรรมการอุทธรณ์ ได้มีคำวินิจฉัย ให้องค์การบริหารส่วนตำบลปากซ่อง “เพิกถอนคำสั่งไม่สามารถออกใบอนุญาตก่อสร้างฟาร์มไก่” เนื่องจาก เป็นการออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ในเรื่องนี้ประชาชนขอร้องเรียนเรียกร้องดังนี้
โดยชาวบ้านขอร้องเรียนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี วินิจฉัยอุทธรณ์ใหม่ โดยเพิกถอนคำอุทธรณ์ที่ 2564 ขอวินิจฉัยอุทธรณ์ กรณี การสร้างและประกอบกิการฟาร์มเลี้ยงไก่ของผู้ประกอบการ และมีการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยฟาร์มไก่เนื่องจากการสร้างฟาร์มไก่เป็นกิจการที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพประชาชน ได้การก่อสร้างต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ด้วย และมีเอกสารทางวิชาการยืนยันให้ประชาชนชาวบ้านเข้าใจเชื่อได้ว่าไม่มีผลกระทบจริง และขอให้ดำเนินการตรวจสอบการขอก่อสร้างฟาร์มเลี้ยงไก่ ขั้นตอนการดำเนินงานต่างๆ ที่ผ่านมาของผู้ประกอบการ หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง การให้ข้อมูลการทำประชาคมกับประชาชน การทำปะชาคมถึง 2 ครั้งแต่ไม่ได้นำมาเป็นสาระสำคัญในการพิจารณา ประชาชนเกิดความสงสัยเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
นอกจากนี้ในคำวินิจฉัยอุทธรณ์ที่ 1/2564 องค์กรบริหารส่วนตำบลปากช่องมิได้นำความคิดเห็นของประชาชนมาเป็นสาระสำคัญ ประชาชนขอคัดค้นโต้แย้งในประเด็นนี้ ที่องค์การบริหารส่วนตำบลปากช่องมิได้นำความคิดเห็นของประชาชนมาเป็นสาระสำคัญในการพิจารณาออกใบอนุญาตการสร้างฟาร์มไก่จากกลุ่มประชาชนหมู่ที่ 3 บ้านนาสมอ ที่เกรงว่าจะได้รับผลกระทบ ซึ่งองค์การบริหารส่วนตำบลปากช่อง ให้เหตุผลว่าเป็นนามธรรมในการแสดความคิดเห็นหรือการคาดการณ์ล่วงหนจากความกังวลใจของประชาชนเท่านั้น คงใช้เป็นเพียงข้อมูลบางส่วนในการประกอบเท่านั้น ในประเด็นนี้ประชาชนขอคัดคำนความคิดเห็นขององค์การบริหารส่วนตำบลปากช่อง และขอเรียนให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีทราบดังนี้ ประชาชนที่ดัดค้นมีใช่มีเพียงหมู่ 3 เท่านั้น แต่มีทั้งหมู่ที่ 1, 13, 3 และหมู่ 5 ลงลายมือซื่อไว้
นายณรงค์ พวงสุวรรณ ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า ปัจจุบันชาวบ้านนาสมอและหมู่บ้านใกล้เคียงมีดวามวิตกกังวลกันมากเกี่ยวกับปัญหาเรื่องการสร้างฟาร์มเลี้ยงสัตว์เพราะปัจจุบันก็ต้องทนได้รับผลกระทบจากฟาร์มที่มีอยู่แล้ว ประชาชนเชื่อว่าหากมีข้อบัญญัติท้องถิ่นมาควบคุม ปัญหาเรื่องฟาร์มเลี้ยงไก่ในตำบลปากซ่องคงมีไม่มากถึงเพียงนี้ ซึ่งกรณีของผู้ประกอบกรรายนี้ สถานที่ตั้งห่างจกวัดชุมชน 3 ชุมชน ในระยะไม่ถึง 1,000 เมตร และมีอีกถึง 4 ชุมชน ที่มีระยะห่างไม่ถึง 1,500 เมตร ในกรณีนี้หากองค์กรบริหารส่วนตำบลมีข้อบัญญัติท้องถิ่น ประชาชนเชื่อว่าปัญหาข้อขัดแย้จะไม่เกิดขึ้น และขอให้มีการชี้แจงแก่ประชาชนเป็นระยะ
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้างฟาร์มไก่ดังกล่าว พร้อมกับผู้นำชุมชนและชาวบ้าน โดยพาทีมข่าวไปสำรวจพื้นที่จริงที่จะมีการก่อสร้างฟาร์มไก่ดังกล่าว โดยที่ผู้นำชุมชนกล่าวว่า ถ้ามีการปล่อยให้สร้างฟาร์มไก่ในทุกคนก็จะเดือดร้อนกันหมด ซึ่งผู้ประกอบการนั้นมีการขอทำประชาคมในพื้นที่ถึงสองครั้ง แต่ก็ไม่ผ่านทั้งสองครั้ง จนมาทราบว่าทางผู้ประกอบการนั้นได้มีการขออนุญาตสร้างโรงเรือน ซึ่งชาวบ้านต่างกังวลใจว่าถ้าไม่ออกมาคัดค้านก็อาจจะมีการสร้างฟาร์มไก่ขึ้นได้
ทางชาวบ้านจึงอยากจะฝากไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี ขอให้ช่วยพิจารณาในเรื่องนี้ถ้าปล่อยให้มีการก่อสร้าง ก็จะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นรวมทั้งน้ำเสียที่ออกมาด้วย ซึ่งชาวบ้านทั้ง 5 หมู่บ้าน มีกันหลายร้อยครัวเรือน ไม่ต้องการให้มีฟาร์มไก่เกิดขึ้นในพื้นที่ ทุกครั้งที่ทำประชาคมชาวบ้านต่างชูป้ายคัดค้าน นั่นหมายถึงชาวบ้านไม่ต้องการ แต่จะมีหน่วยงานบางหน่วยกลับที่จะผลักดันให้สามารถสร้างได้ ซึ่งชาวบ้านได้ออกประกาศ หากให้มีการก่อสร้างโดยไม่นึกถึงประชาชนที่อยู่อาศัยในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนโดยตรง ชาวบ้านก็จะไม่หยุดแน่ถ้าทางผู้ประกอบการจะเดินหน้าสร้างฟาร์มต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี