"นายกฯ"ขอบคุณรัฐบาลจีนส่งมอบวัคซีนซิโนแวค 2 แสนโดส ถึงมือไทยเรียบร้อย เตรียมบริหารฉีดตามแผน วอนสังคมเป็นหนึ่งเดียว รวมไทยสร้างชาติ อย่าดึงวัคซีนสร้างความขัดแย้ง ด้าน"จีน"พร้อมจับมือไทยสู้โควิด-19 คืนรอยยิ้มคนไทย
เมื่อเวลา 10.05 น.วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานรับวัคซีนป้องกันโควิด-19 จากสาธารณรัฐประชาชนจีน "วัคซีนโควิด-19 คืนรอยยิ้ม ประเทศไทย" ขนส่งโดยเที่ยวบินขนส่งสินค้า TG 675 เส้นทางปักกิ่ง - กรุงเทพมหานคร โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข , นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข , นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานกรรมการองค์การเภสัชกรรม และอุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย พร้อมคณะผู้บริหารทุกหน่วยงาน เข้าร่วมพิธี โดยมีสื่อมวลชนทั้งไทยและต่างประเทศจำนวนมากให้ความสนใจเผยแพร่พิธีการรับวัคซีนอย่างคึกคัก
โดยวัคซีนดังกล่าวเดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ในเวลา 10.05 น.เป็นวัคซีนล็อตแรก จำนวน 200,000 โดส น้ำหนัก 2.6 ตัน ซึ่งเป็นวัคซีนจากบริษัท ซิโนแวค ไบโอเทค จำกัด โดยเมื่อวัคซีนเดินทางถึงเจ้าหน้าที่ลำเลียงตู้ควบคุมอุณหภูมิบรรจุวัคซีนออกจากเครื่อง และลำเลียงตู้ควบคุมอุณหภูมิดังกล่าวขึ้นรถขนส่งไปจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 องค์การเภสัชกรรม (คลังศรีเพชร DKSH) บริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด ขณะเดียวกันวัคซีนจากแอสต้าเซเนก้า จำนวน 117,000 โดส จะส่งมาถึงไทยเช่นกัน
นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นอีกวันหนึ่งที่เป็นวันประวัติศาสตร์ของพวกเราร่วมกันรับวัคซีนล็อตแรก ซึ่งทางรัฐบาลได้มีการบริหารจัดการเรื่องวัคซีนมาอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีปัญหาผลกระทบอะไรอยู่บ้าง แต่รัฐบาลก็พยายามอย่างยิ่งยวด ในการที่จะให้ได้วัคซีนมาตามกำหนด ข้อสำคัญคือวันนี้วัคซีนเป็นความต้องการของคนทั้งโลก ของหลายประเทศด้วยกัน ฉะนั้นแน่นอนหลายๆอย่างย่อมมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ถือเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย และวันนี้เป็นโอกาสดีที่วัคซีนเข้ามาล็อตแรก และล็อตต่อๆไปได้รับคำยืนยันว่าถ้าไม่มีปัญหาอะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ ก็ต้องเข้ามาตามระยะเวลาที่ได้แจ้งไปแล้ว ตนได้รับคำยืนยันทางอุปทูตจีนและกระทรวงสาธารณสุขแล้ว
"ผมกราบเรียนว่าไม่ว่าจะวัคซีนล็อตไหนก็ตาม เป็นวัคซีนของคนไทยทั้งประเทศ เป็นสิ่งที่เราต้องภาคภูมิใจว่า ต่อไปในระยะที่ 2 ที่เราจะจัดหาในล็อตต่อไป เราก็ต้องจัดหาเพิ่มเติม ในขณะที่เราผลิตวัคซีนซึ่งขีดความสามารถจำกัดอยู่ก็ต้องจัดหาเพิ่มเติมให้เพียงพอ เพื่อจะสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับคนในประเทศของเราได้ อันนี้ทางการแพทย์จะพิจารณาอีกครั้ง และวัคซีนที่เข้ามานี้ต้องใช้ระยะเวลาการเตรียมการสักระยะเช่นกัน เพื่อที่จะเข้าสู่การฉีด ส่วนใครจะฉีดหรือฉีดก่อนฉีดหลังเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ทางกรรมการจะพิจารณา และศบค.จะให้ความเห็นชอบไปด้วยกัน เราทำงานเป็นระบบ" นายกฯ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า โอกาสมีขอขอบคุณคนไทยทุกคน กระทรวงสาธารณสุข รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ช่วยกันแก้ ปัญหาของเราให้เป็นไปตามขั้นตอนที่ระวังไว้ อย่างที่ไม่มีอะไรแก้ไขไม่ได้ แน่นอนการทำงานเพื่อคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศหลายล้านคน ต้องมีปัญหาในขั้นต้น เราก็ต้องช่วยกันแก้ไขปัญหาด้วยความเข้าใจ และต้องขอบคุณสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ได้พิจารณาในการส่งวัคซีนให้เราในเดือนนี้ และในงวดต่อๆ ไปตามแผนงานที่กำหนดไว้แล้วเดิม ตรงนี้นายกฯ คงหมดหน้าที่เพียงเท่านี้ก่อน จากนั้นเป็นเรื่องของหน่วยงานที่จะพิจารณาเรื่องการฉีด จะฉีดเมื่อไหร่กับใครมีข้อกำหนดอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เราต้องให้ความสำคัญ พื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูงในขณะนี้ และกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงสูงในการแพร่ระยะที่ 2 ด้วย ทุกอย่างดำเนินการไปตามสถานการณ์ ขอเรียนว่าวัคซีนได้มีการทดสอบคุณภาพมาแล้ว เพียงแต่อาจต้องมีการเตรียมดูในเรื่องการขนย้ายจะมีปัญหาอะไรบ้างหรือไม่
"และวันนี้ก็เป็นที่น่ายินดีเราได้วัคซีนมาอีกยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งก็ทราบกันอยู่แล้ว อันนั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งมีแผนในการเตรียมการ ผมไม่อยากให้สังคมมีความขัดแย้งกันอีกในเรื่องวัคซีน เราต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวในการที่จะแก้ปัญหาประเทศของเรา ต้องขอบคุณไปยัง ประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีจีน ที่ให้ความสำคัญเอาใจใส่ในสิ่งที่รัฐบาลได้ประสานไป เรื่องพาณิชย์เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศถือเป็นสิ่งสำคัญ ที่ทำทุกอย่างมาถึงวันนี้ได้" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นายกฯ กล่าวว่า เราจะต้องช่วยกันสร้างรอยยิ้มให้กับประเทศไทย รวมไทยสร้างชาติ และเราก็มีเพื่อนของเราช่วยกันดูแลสนับสนุนกันมา ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในอาเซียน จำเป็นต้องดูแลประเทศอื่นด้วยในด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เราต้องการให้ประเทศเราปลอดภัย อาเซียนปลอดภัย ภูมิภาคทุกแห่งในโลกปลอดภัย สิ่งสำคัญที่สุดแม้วัคซีนจะเข้ามาแล้ว อย่าลืมหน้ากาก อย่าถอดบ่อยในระยะที่อยู่ใกล้กับคน พอติดขึ้นมาก็ว่าเป็นเพราะสาเหตุอื่น สาเหตุสำคัญคือการไม่ใส่หน้ากาก ไม่เว้นระยะห่าง ไม่กลัวก็แล้วแต่ท่าน ตนก็ได้แต่เตือน ทำไมจะต้องบังคับกันไม่เข้าใจ แม้จะมีวัคซีนมาแล้วก็ตาม มันก็ต้องใส่หน้ากากเหมือนเดิม จนกว่าโรคโควิด-19 จะหายไปจากโลกใบนี้หรือควบคุมได้ ตนไม่อยากตำหนิท่านเพราะท่านคือประชาชนที่รักยิ่งของตน
ด้าน นายหยาง ซิน อุปทูตรักษาการ สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยกล่าวว่า วันนี้ตนรู้สึกภูมิใจและปลาบปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสมาร่วมในพิธีต้อนรับวัคซีนจากจีนมาถึงประเทศไทย โดยวัคซีนจำนวน 2 แสนโดสที่มาถึงประเทศไทยในวันนี้ ถือเป็นวัคซีนล็อตแรกที่ประเทศจีนส่งมายังประเทศไทย และล็อตที่ 2 และ 3 ก็จะทยอยตามมา และเป็นวัคซีนชนิดแรกที่ประเทศไทยได้นำเข้า ทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน ที่นำเข้าวัคซีนจากประเทศจีนโดยช่องทางพาณิชย์ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าฝ่ายจีนได้ปฏิบัติอย่างจริงจังต่อคำมั่นสัญญา ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ที่ระบุว่าวัคซีนจีนจะต้องเป็นสินค้าสาธารณะทั่วโลก และยังสะท้อนถึงที่รัฐบาลจีนเร่งสร้างอนาคตร่วมกันของมนุษยชาติ รวมถึงมิตรภาพอันแนบแน่นระหว่างไทยและจีนที่มีมาช้านาน ขอขอบคุณหน่วยงานภาครัฐและเอกชนและบุคลากรบุคลากรทั้งสองประเทศที่ทำให้วัคซีนผลิตได้ทันและส่งมาทัน และส่งมายังประเทศไทยได้ตามเวลา ในปัจจุบันนี้ โควิด-19ยังคงแพร่ระบาดอยู่ทั่วโลก จึงทำให้ทุกประเทศมีภาระในการรับมือและฟื้นฟูเศรษฐกิจ
ทั้งนี้ ตนเชื่อมั่นว่าวัคซีนจากประเทศจีน จะมีส่วนช่วยทำให้ประชาชนคนไทยรับมือกับโควิด-19 แล้วฝ่ายจริงก็ยินดีที่จะร่วมมือกับฝ่ายไทยต่อไป เพื่อเอาชนะโควิด-19 และทำให้รอยยิ้มคืนสู่ประเทศไทยโดยเร็ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี