“บิ๊กอู๊ด” นำแถลง “ตม.ฉะเชิงเทรา-ชลบุรี” บูรณาการกำลังจับ 2 คนไทย ร่วมกันช่วยเหลือขนย้ายแรงงานต่างด้าว ฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อ แฉฟันค่าหัวอื้อ
25 กุมภาพันธ์ 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3. , พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด รอง ผบก.ตม.3. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1 , พ.ต.อ.ประวิทย์ ศิริธร ผกก.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา. , พ.ต.อ.นเรนทร์ เครื่องสนุก ผกก.ตม.จว.ชลบุรี. , พ.ต.ท.นที ทองสุกแก้ว รอง ผกก.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา. , พ.ต.ท.สวัสดิ์ ม่วงไหมทอง รอง ผกก.ตม.จว.ชลบุรี. , พ.ต.ต.สุธีรฐ์ ธีระสวัสดิ์ สว.ตม.จว.ชลบุรี. , พ.ต.ต.นเรศร์ ธนสัตย์สถิตย์ สว.ตม.จว.ชลบุรี. , พ.ต.ต.วีรภัทร ภู่สุภานุสรณ์ สว.ตม.จว.ชลบุรี. , ว่าที่ พ.ต.ต.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ สว.ตม.จว.ฉะเชิงเทรา แถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาคดีสำคัญ
สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ ตม.จว.ฉะเชิงเทรา , ตม.จว.ชลบุรี , ชุดปฏิบัติการที่ 2 ชุดปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรภาค 2 (ศอ.ปส.ภ.2) , ชุดปฏิบัติการที่ 1 ชุดปราบปรามคนร้ายข้ามชาติและเข้าเมืองผิดกฎหมาย ตำรวจภูธรภาค 2 (ศปชก.ภ.2) , สภ.เมืองฉะเชิงเทรา , กก.สืบสวน 3 บก.สส.ภ.2 ร่วมกันทำการจับกุมผู้ต้องหา 1.นายธรรมรัตน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี สัญชาติไทย 2.นายสุบรรณ (สงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี สัญชาติไทย ในความผิดฐาน “ร่วมกันหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่บุคคลต่างด้าวเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 40/2563 ข้อที่ 1 ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก จังหวัดฉะเชิงเทรา”
ก่อนจับกุมเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีข้อมูลเครือข่ายลักลอบนำแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก ราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย โดยวิธีการจะมีผู้ประสานงานฝ่ายกัมพูชาทำหน้าที่เป็นคนกลางในการจัดหายานพาหนะสำหรับขนลำเลียง เคลื่อนย้ายแรงงานบุคคลต่างด้าว สัญชาติกัมพูชา โดยคิดค่าตอบแทนจากบุคคลต่างด้าวในราคาหัวคนละประมาณ 5,500 บาท จะมีการลักลอบช่วยเหลือขนย้ายต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา มาถึงบริเวณ ด้านหน้ารีสอร์ทแห่งหนึ่งใน ต.บางไผ่ อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา โดยใช้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลทะเบียนกรุงเทพฯ เป็นรถนำทาง และขนสัมภาระ และมีรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคลทะเบียนอ่างทอง สีบรอนซ์เทา เป็นยานพาหนะในการขนแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จึงได้รายงานผู้บังคับบัญชาและบูรณาการหน่วยงานต่างๆ ได้มีการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้ในเส้นทางหมายเลข 304 บางส่วน และกำลังอีกส่วนหนึ่งซุ่มดูอยู่บริเวณด้านหน้ารีสอร์ท
ต่อมา เจ้าหน้าที่ได้พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลคันดังกล่าว มีนายสุบรรณ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับขี่ และพบรถยนต์กระบะบรรทุกส่วนบุคคลคันดังกล่าว มีนายธรรมรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) เป็นผู้ขับขี่ จึงเข้าไปตรวจค้นซึ่งจากการตรวจสอบพบบุคคลต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา รวม 10 คน นั่งอยู่บนรถยนต์กระบะคันดังกล่าว จากการซักถามแรงงานต่างด้าวเบื้องต้นยอมรับว่าจะเดินทางออกจากราชอาณาจักร โดยเดินทางมาจากกรุงเทพฯ มุ่งหน้า จ.สระแก้ว เพื่อกลับประเทศกัมพูชา ซึ่งทุกคนมีเอกสารหนังสือเดินทาง
ส่วนนายสุบรรณ และนายธรรมรัตน์ รับว่ารับงานมาจากนายหนุ่ม ไม่ทราบชื่อและนามสกุลจริง ซึ่งปกติจะมีผู้ประสานงานฝ่ายกัมพูชา เกี่ยวข้องในการดำเนินการขนย้าย ลำเลียง แรงงานคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาทั้งสิ้น นอกจากนั้นจากการซักถามเบื้องต้นก็ยังไม่ได้มีการขออนุญาตต่อคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา ในการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว เข้า-ออก จังหวัดฉะเชิงเทราแต่อย่างใด การกระทำของ นายสุบรรณฯ และนายธรรมรัตน์ฯ จึงเป็นความผิดฐาน “ร่วมกันหรือกระทำด้วยประการใด ๆ อันเป็นการอุปการะช่วยเหลือ หรือให้ความสะดวกแก่บุคคลต่างด้าวเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดฉะเชิงเทรา ที่ 40/2563 ข้อที่ 1 ห้ามเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวเข้า-ออก จังหวัดฉะเชิงเทรา” จึงได้จับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คนและตรวจยึดของกลาง เป็นรถยนต์ที่ใช้ จำนวน 2 คัน และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 5 เครื่อง ส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองฉะเชิงเทรา ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ในฐานะโฆษก สตม. เปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี , พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. ที่มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ฯ และการกระทำความผิดในกฎหมายอื่น การประสานความร่วมมือกับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง และประเทศเพื่อนบ้าน ให้บริการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง หากพบการกระทำผิดกฎหมาย การก่อเหตุอันตรายใด ๆ อันกระทบต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันอาจทำให้เกิดความเสียหาย ต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ กรุณาแจ้งเบาะแสการกระทำความผิดมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพ ฯ 10120 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่
ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่
รวบหนุ่มไทยแฝงตัวในแอพพลิเคชั่นหาคู่ชายรักชาย ตุ๋นชาวต่างชาติหลายราย ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จั
“ตม.สุราษฎร์ธานี” สนองนโยบาย “ผบช.สตม.-ผบก.ตม.6” บูรณาการ “ตม.สมุทรสาคร-สืบ ตม.6-สืบภาค 8” ขยายผลรวบหัวหน้าแก๊งลอบขนคนเข้าเมืองคาห้องนอน สารภาพรับขนเมียนมาจาก “หาดใหญ่” ส่งสมุทรสาคร แลกค่าหัว
‘ผบช.สตม.’ลงพื้นที่‘รพ.สนามชั่วคราว สตม.’ ให้กำลังใจจนท.-สอบถามอาการผู้ต้องกัก
“ผบช.สตม.” นำแถลง “ตม.จว.หนองคาย” ใช้รถยนต์ตรวจการณ์อัจฉริยะ BMW สกัดจับแก๊งขนเวียดนามหนีเข้าเมือง ดัดหลังต่อรวบหัวโจกขบวนการคาขนส่ง
“ผบช.สตม.” นำแถลง “ตม.มุกดาหาร” ตะครุบคนขับรถตู้ ลอบขนแรงงานเถื่อนชาวลาวกว่า 16 คน มุ่งหน้าเข้ากรุง
“พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.” แถลง “ตม.ราชบุรี” จับพม่าปลอมรอยตราประทับ เตรียมขยายผลล่าถึงนายหน้า
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี