ยึดรถเก๋ง-ล็อคตัวผู้ต้องสงสัย ส่อฆ่าชิงทรัพย์ฆาตกรรมอำพราง “น้องนิหน่า” เด็กสาวอายุ 15 ปี “ผบช.ภ.9” แถลงวันพรุ่งนี้ พ่อแม่สุดเศร้า เผยลางบอกเหตุก่อนเสียชีวิต
28 กุมภาพันธ์ 2564 ความคืบหน้าคดีพบศพ “น้องนิหน่า” อายุ 15 ปี นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เสียชีวิตอยู่ในร่องกลางถนนสายเอเชีย เส้นทางหาดใหญ่-บางกล่ำ พื้นที่หมู่ 5 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา โดยถูกรถจักรยานยนต์ (จยย.) ที่ขับมาล้มทับร่างอยู่ เหตุเกิดเมื่อวานนี้ (27 กุมภาพันธ์ 2564) หลังจากที่ขับรถจักรยานยนต์กลับจากบ้านแฟนหนุ่มในตอนดึกเพื่อกลับบ้านพักที่บ้านป่ายาง หมู่ 9 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 7กิโลเมตร โดยคดีนี้ตำรวจให้น้ำหนักไปที่การชิงทรัพย์มากกว่าอุบัติเหตุธรรมดาเพราะพบพิรุธและหลักฐานสำคัญหลายอย่าง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เร่งคลี่คลาย! คดีเด็กหญิงม.3'น้องนิหน่า' น่าสงสัยชิงทรัพย์ฆาตกรรมแฝง)
ล่าสุดผู้สื่อข่าวยังคงเกาะติดความคืบหน้าคดีนี้และได้ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะที่น้องนิหน่า เดินออกมาจากบ้านแฟนหนุ่มในพื้นที่บ้านโคกเมา ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ ในเวลา 00.11 น.วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2564 โดยเดินออกมาคนเดียวสวมเสื้อฮู๊ดสีน้ำตาลคลุมศีรษะ และยังสะพายกระเป๋าอยู่ในเสื้อ ขับรถจักรยานยนต์ออกไปคนเดียว นอกจากนี้ยังมีคลิปตอนที่น้องนิหน่า ได้ถ่ายคลิปขณะขับรถจักรยานยนต์คล้ายกับตัดพ้อแฟนหนุ่มที่ไม่ออกมาส่ง ซึ่งเป็นภาพสุดท้ายของน้องนิหน่า ส่งไลน์ไปให้เพื่อนสนิทคนหนึ่งก่อนที่จะมาเสียชีวิต
ในทางการสืบสวนเจ้าหน้าที่จึงมั่นใจว่าไม่ใช่เป็นอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ล้มธรรมดา แต่น่าจะถูกคนร้ายชิงทรัพย์เพราะทั้งกระเป๋าสะพายที่มีเงินสดอยู่ 12,000 บาทและเสื้อฮู๊ดหายไปด้วย โดยการสืบสวนล่าสุดในวันนี้คดีมีความคืบหน้าไปมาก
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวสั้นๆว่า ในวันพรุ่งนี้ (1 มีนาคม 2564) จะมีการแถลงรายละเอียดทั้งหมดของคดีนี้ ซึ่งขณะนี้ทางตำรวจกำลังทำงานเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด และเมื่อช่วงเที่ยงของวันนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้ลงพื้นที่ตรวจที่เกิดเหตุและหาหลักฐานเพิ่มเติมอย่างละเอียดอีกครั้งบริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อนำไปประกอบและเชื่อมโยงกับคดีนี้
ส่วนความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนมีล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ยึดรถเก๋ง หมายเลขทะเบียนประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยมาตรวจสอบ โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 ได้เก็บลายนิ้วมือแฝงและหลักฐานต่างๆภายในรถ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ได้ล็อคผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งคันนี้มาสอบสวนแล้วเช่นกัน
สำหรับรถเก๋งคันนี้เป็นรถต้องสงสัยที่ตำรวจตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ขับตาม “น้องนิหน่า” ออกจากปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งริมถนนสายเอเชีย ห่างจากจุดที่พบศพประมาณ 3 กิโลเมตร และตอนที่น้องนิหน่าขับรถออกจากปั้มน้ำมันก็ยังอยู่ในชุดเดิมและสะพายเป๋าเหมือนกับที่ภาพตอนที่ออกจากบ้านแฟนหนุ่ม ซึ่งเป็นเบาะแสสำคัญที่ทำให้ตำรวจมั่นใจว่าเป็นการชิงทรัพย์และอาจถูกฆาตกรรมอำพราง
ส่วนบรรยากาศที่บ้านของน้องนิหน่า ในพื้นที่หมู่ 9 ต.ท่าช้าง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา พ่อแม่และญาติพี่น้องต่างอยู่ในความโศกเศร้าโดยเฉพาะแม่ยังทำใจไม่ได้และไม่อยากเชื่อว่าลูกสาวเสียชีวิต โดยมีญาติพี่น้องมาคอยให้กำลังใจ
นางไหมเหนาะ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี แม่ของน้องนิหน่า กล่าวว่า น้องนิหน่าได้ขออนุญาตออกจากบ้านไปกินชาบูกับแฟนหนุ่มเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 มาทราบข่าวอีกทีตอนตำรวจเอาภาพมาให้ดู โดยก่อนหน้านี้ 2 วันก่อนที่ลูกจะจากไป มีลางบอกเหตุเพราะลูกสาวบอกให้แม่ช่วยกอดบ้าง และเข้าไปนอนในห้องด้วยกัน ตอนนี้อยากให้ลูกสาวกลับมาหา และไม่เชื่อว่าการตายของลูกจะเป็นอุบัติเหตุ
ด้านนายอนันต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี พ่อของน้องนิหน่า ก็บอกตรงกันว่าลูกสาวออกจากบ้านไปหาแฟนตอน 11.00 น. ซึ่งคบหากันมา 3 ปี ครั้งสุดท้ายได้โทร.หาลูกสาวตอนตี 3 เพราะจะเอาจักรยานยนต์ไปกรีดยาง แต่ไม่สามารถติดต่อได้ มารู้ว่าลูกสาวเสียชีวิตตอน 09.00 น. ตอนตำรวจมาบอกและไม่เชื่อว่าจะเป็นอุบัติเหตุ ต้องการให้ตำรวจจับตัวคนร้ายให้ได้ โดยพ่อน้องนิหน่า บอกว่าหากวิญญาณมีจริงก็ขอให้ลูกสาวกลับมาให้เห็นสักครั้ง และก่อนหน้านี้ 2 วัน ก็ขอให้แม่กอดบ้างและเข้าไปนอนในห้องด้วยกัน ซึ่งปกติไม่ได้นอนด้วยกันกับแม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี