หวิดวุ่น! จนท.บิน‘ฮ.’บุกนำ‘ลูกปู่คออี้-ชาติพันธุ์’ 60 คน ลงจาก‘ใจแผ่นดิน’ (คลิป)
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เพชรบุรี ว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ (5 มีนาคม 2564) เวลาประมาณ 09.00 น. เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทหาร นำกำลังขึ้นเฮลิคอปเตอร์ 3 ลำ บินเข้าไปยังป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ช่วงรอยต่อกับประเทศเมียนมา บ้านบางกลอยบน อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี บริเวณที่เรียกว่า “ใจแผ่นดิน”
หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายพนัชพร โพธิบัณฑิต หัวหน้าหน่วยพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และ น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ไปแจ้งความที่ สภ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ว่ามีกลุ่มบุคคลบุกรุกเข้าไปในพื้นที่ป่าสงวน อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2564 ศาลจังหวัดเพชรบุรี ได้อนุมัติหมายจับเพื่อให้เจ้าหน้าที่ไปจับกุมกลุ่มผู้บุกรุกในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯได้บินขึ้นไปที่ใจแผ่นดินมาแล้ว 3 ครั้ง ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อเจรจาขอให้กลุ่มผู้บุกรุกลงมา โดยนำเฮลิคอปเตอร์ไปรับ หลังจากที่กลุ่มบุคคลเหล่านี้ ซึ่งเป็นชาติพันธุ์ชาวกะเหรี่ยง(กะหร่าง) หลายครอบครัวพากันอพยพจากบ้านบางกลอยล่างขึ้นไปที่บริเวณ “ใจแผ่นดิน” เมื่อประมาณกว่า 2 เดือนที่ผ่านมา มีส่วนหนึ่งยอมกลับลงมา แต่อีกประมาณกว่า 50 คนที่มีนายนอแอ๊ะ มีมิ บุตรชายของนายคออี้ มีมิ รวมอยู่ด้วยไม่ยอมกลับลงมา
ขณะเดียวกันเมื่อเจ้าหน้าที่นำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปสำรวจ พบว่า ป่าบริเวณใจแผ่นดินซึ่งเป็นป่าต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรีถูกบุกรุกแผ้วถางขยายวงเพิ่มขึ้น เมื่อเจรจาไม่เป็นผล จึงจำเป็นต้องแจ้งความดำเนินคดีและขออำนาจศาลออกหมายจับ ซึ่งการขึ้นไปจับกุมครั้งนี้ไม่มีการใช้กำลังต่อผู้ถูกจับกุมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม นายเกรียงไกร ชีช่วง ผู้ประสานงานเครือข่ายกะเหรี่ยงเพื่อวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม เขตงานตะนาวศรี นำกลุ่มชาติพันธุ์จาก อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี กว่า 50 คน มาที่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน รวมตัวกันที่ร้านอาหารสวัสดิการของอุทยานฯ อ้างว่ามาเพื่อต้องการพบกลุ่มชาวกะเหรี่ยงที่ถูกควบคุมตัว อ้างว่าการที่กลุ่มกะเหรี่ยงกลับขึ้นไปที่ใจแผ่นดินเป็นสิทธิมนุษยชนที่สามารถทำได้
ขณะเดียวกันก็มีนายบุญชู วงศ์น้อย ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 12 ต.แก่งกระจาน อ.แก่งกระจาน กับชาวบ้านประมาณกว่า 20 คน ถือป้าย “SAVE แก่งกระจาน” บอกว่าขอสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ และว่าที่ดินที่รัฐจัดให้มาแต่เดิมคนละ 7 ไร่ น่าจะเพียงพอแล้ว ไม่อยากให้คนกลุ่มนี้กลับไปบางกลอยบนอีกเพราะเป็นห่วงป่าไม้จะถูกทำลายขยายวงมากขึ้น และเป็นภัยต่อความมั่นคง เนื่องจากมีชาวเมียนมาลักลอบเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าวด้วย ส่วนบริเวณพื้นที่รัฐจัดให้คนละ 7 ไร่ที่บางกลอยล่างบางแห่งเพียงพอต่อการทำมาหากิน บางแห่งก็ถูกปล่อยทิ้งร้าง ไม่มีการทำประโยชน์แต่อย่างใด
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ได้คุมตัวชาติพันธุ์ ประมาณ 80 คน ประกอบด้วย นายนอแอ๊ะ มิมิ ลูกนายคออี้ และผู้ต้องหาตามหมายจับรวม 20 คน และกลุ่มชาติพันธุ์ ที่อยู่รวมกันทั้งเด็กและผู้หญิง ทยอยเดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์รวมประมาณ 35 เที่ยวบิน ลงมาควบคุมตัวอยู่ที่อาคารหอประชุมอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
กระทั่งเวลา 15.30 น. นายเกรียงไกร ขอให้ตนเองและทนายความสิทธิมนุษยชน พร้อมตัวแทนชาติพันธุ์เป็นตัวแทนเข้าไปพบผู้ถูกจับกุม เพื่อต้องการเห็นสภาพเป็นอยู่ในที่ควบคุม แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยินยอม โดยอนุญาตให้ทนายความเพียงคนเดียวเข้าไป เมื่อทนายความออกมาก็แจ้งต่อนายเกรียงไกรว่าพบผู้ถูกควบคุมตัวเพียง 15 คน เป็นเหตุให้กลุ่มชาติพันธุ์ของนายเกรียงไกรลุกฮือ เพื่อที่จะพยายามเข้าไปในห้องให้ได้
เจ้าหน้าที่ก็อธิบายว่าทุกคนอยู่ครบ แต่ถูกแยกไปสอบสวน แต่นายเกรียงไกรไม่ยอมฟังพยายามพาพวกจะบุกเข้าไปให้ได้ กำลังเจ้าหน้าที่อุทยาน, ตำรวจ และทหารจำนวนมากจึงผลักดันไม่ให้เข้า และในช่วงหนึ่งกลุ่มชาติพันธุ์ได้พร้อมกันก้มลงกราบเพื่อต้องการผู้สื่อข่าวบันทึกภาพ ซึ่งการกราบไม่มีใครบังคับให้กราบแต่อย่างใด
จากนั้นกลุ่มชาติพันธุ์นำโดย กลุ่มผู้หญิงและเด็กได้พยายามเดินฝ่าวงล้อมของเจ้าหน้าที่อุทยานซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานได้ก่อประสานมือเป็นกำแพงกั้นและใช้เจ้าหน้าที่กองร้อยน้ำหวานซึ่งเป็น ผู้พิทักษ์ป่าผู้หญิง เป็นแนวปะทะด้านหน้า มีการดึงดันกันนานกว่า 10 นาทีจากนั้นกลุ่มชาติพันธุ์จึงยินยอมนั่งลงและร้องขอให้นายนิรันดร์ พงษ์เทพ หรือดีป่ะก้อ ผญบ.หมู่ 1 บ้านบางกลอย ซึ่งเป็นพยานในการปฏิบัติการครั้งนี้และร่วมเป็นพยานในการสอบสวนเบื้องต้น ออกมาชี้แจงสถานการณ์การควบคุมตัวดังกล่าว
เบื้องต้นนายนิรันดร์ได้ออกมาชี้แจงว่าชาติพันธุ์ที่ถูกควบคุมตัวมาทั้งหมดได้รับการดูแลอย่างดี มีการกระจายกันอยู่ตามห้องต่างๆในพื้นที่อาคารควบคุมตัว โดยทั้งหมดได้รับประทานอาหารและน้ำดื่มตลอดจนได้รับความอำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี
นายเกรียงไกร จึงได้ยื่นข้อเสนอขอให้นายนิรันดร์สอบถามเจ้าหน้าที่ ผู้มีอำนาจในการควบคุมตัวจำนวน 3 ข้อ 1.ขอให้ตนและตัวแทนญาติเข้าพบกับผู้ที่ถูกจับกุม 2. ต้องการทราบว่าผู้ที่ถูกจับกุม นอกเหนือจากผู้ที่ถูกออกหมายจับ เป็นใครบ้าง 3.ต้องการขอทราบจำนวน เงินและวิธีการประกันตัวผู้ถูกจับกุม ตามหมายจับทั้ง 20 ราย โดยเบื้องต้นกลุ่มชาติพันธุ์ได้ประสานทนายความของกลุ่มให้เดินทางมายังที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี