จากสถานการณ์แม่น้ำโขงที่เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศวิทยาอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในธรรมชาติมีปริมาณลดลง จนหลายชนิดเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์และยังกระทบต่อวิถีการประกอบอาชีพของชาวประมงริมฝั่งแม่น้ำโขงรวมถึงลำน้ำสาขาในหลายพื้นที่ที่ผ่านมากรมประมง ในฐานะหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการสร้างความมั่นคงให้ทรัพยากรประมงในแหล่งน้ำธรรมชาตินั้น ได้มีการวางแนวทางเพื่อเร่งฟื้นฟูผลผลิตสัตว์น้ำ คืนความสมบูรณ์สู่ระบบนิเวศแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชนและการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ เพื่อแก้ไขปัญหาความเสื่อมโทรมของทรัพยากร พร้อมฟื้นฟูและเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำ ซึ่งจะเป็นการช่วยลดอุปสรรคในการประกอบอาชีพให้กับชาวประมง เช่น การเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำประจำถิ่นสำหรับปล่อยคืนสู่แม่น้ำโขงและลำน้ำสาขา โดยเฉพาะ “ปลายี่สกไทย”หรือ “ปลาเอิน” ในภาษาถิ่นอีสาน
ปัจจุบันกรมประมงได้ดึงชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตั้งแคมป์ริมฝั่งแม่น้ำโขงใน 2 พื้นที่ คือ 1. บ้านน้ำไพร อ.สังคม จ.หนองคาย และ 2. บ้านสองคอน อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร เพื่อเฝ้าสังเกตการณ์และรวบรวมพ่อแม่พันธุ์ปลาเอินที่ว่ายขึ้นมาวางไข่ในพื้นที่ดังกล่าว ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563 – กุมภาพันธ์ 2564 สำหรับนำไปใช้เพาะขยายพันธุ์ด้วยการกระตุ้นฮอร์โมน แล้วพักพ่อแม่พันธุ์ปลาไว้ในถังไฟเบอร์บริเวณริมแม่น้ำโขงเพื่อรอรีดไข่ผสมน้ำเชื้อและลำเลียงไข่ที่ได้รับการผสมแล้วไปเพาะฟัก ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดจังหวัดหนองคาย ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดจังหวัดมุกดาหาร จนอนุบาลลูกปลาให้ได้ขนาด 5-7 เซนติเมตร จึงปล่อยลงสู่ลำน้ำโขงและลำน้ำสาขาที่ใกล้เคียง นอกจากนี้ กรมประมง โดยศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดเลย ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงน้ำจืดมุกดาหาร ยังมีการดำเนินกิจกรรมเพิ่มผลผลิตปลาเอินในเเหล่งน้ำธรรมชาติ โดยการเพาะเเละปล่อยลงในเเหล่งน้ำธรรมชาติอีกด้วย
ซึ่งนายมีศักดิ์ ภักดีคง อธิบดีกรมประมง บอกว่า ในปี 2564 กรมประมงวางเป้าหมายที่จะปล่อยปลายี่สกไทยคืนสู่ลำน้ำโขง
และลำน้ำสาขาที่ใกล้เคียง จำนวน 5 แสนตัว โดยในช่วงปลายเดือนมีนาคม 2564 จะทำการปล่อยลูกปลาลอตแรกที่มีขนาด 5-7 เซนติเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่มีอัตรารอดตายสูง จำนวน 1 แสนตัว ที่บ้านสองคอน อำเภอห้วยใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร โดยเชื่อมั่นว่าจะทำให้พี่น้องชาวประมง ตลอดจนประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่บริเวณลุ่มน้ำโขงได้รับประโยชน์จากทรัพยากรสัตว์น้ำเริ่มฟื้นตัวในไม่ช้านี้ ซึ่งจะเป็นการสร้างอาชีพและรายได้จากการทำประมงให้แก่ชุมชนได้จำนวนมาก
แต่อย่างไรก็ตาม แม้ภาครัฐจะร่วมมือกันฟื้นฟูเพื่อคืนความสมบูรณ์ให้กับทรัพยากรสัตว์น้ำ แต่สิ่งสำคัญที่จะทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำในลุ่มน้ำโขงกลับมาคงความอุดมสมบูรณ์อีกครั้งได้ก็คือความร่วมมือ ร่วมใจจากผู้ใช้ทรัพยากรทุกภาคส่วนที่จะต้องมีสำนึกรับผิดชอบในการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรโดยยึดหลักความยั่งยืนนั่นเอง
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี