17 มีนาคม 2564 เมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่ง อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ นายธงชัย เจริญพานิชย์กุล รอง ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ และนายอนุสรณ์ แสงกล้า นายอำเภอวังหิน นำเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขอำเภอวังหิน ทีมแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลวังหิน และ อสม. เข้าเก็บสวอป (swab) กลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง เข้าตรวจหาเชื้อโควิด-19 ซึ่งแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ออกตรวจคัดกรองถึงพื้นที่ ไม่ต้องเคลื่อนย้ายกลุ่มเสี่ยงสูง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด ซึ่งมีผู้สัมผัส ผู้ป่วยยืนยันที่ผ่านการสอบสวนโรคแล้ว จำนวน 17 คน และกลุ่มผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยัน กลุ่มเสี่ยงต่ำอีก 6 คน เข้ารอกับการตรวจหาเชื้อ
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 18.00 น. วานนี้ (16 มี.ค.64) ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 จ.ศรีสะเกษ รายงานพบผู้ป่วยยืนยัน รายแรกสำหรับการระบาดของไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ เป็นเพศหญิง อายุ 49 ปี อาชีพค้าขาย ซึ่งขายผักอยู่ที่ตลาดบางแควันเดอร์ กทม. อาศัยอยู่กับสามี (ขายช่วงเวลา 02.00–12.00 น.) เมื่อวันที่ 8 มี.ค. 64 เวลา 09.00 น. เดินทางออกจาก กทม.พร้อมสามีกลับบ้านที่ อ.วังหิน จ.ศรีสะเกษ โดยรถยนต์ส่วนตัว เวลา 19.00 น. ถึงบ้าน พักค้างคืนกับลูกชาย 2 คน ในวันที่ 9-10 มี.ค. อาศัยอยู่บ้านและมีการไปร่วมรับประทานอาหารกับแม่และญาติๆ ที่อยู่บ้านติดกัน วันที่ 11 มี.ค. เวลา 16.00 น. ไปซื้อวัสดุก่อสร้างกับสามีที่ร้านวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งใน อ.วังหิน ผู้ป่วยสวมแมสขณะพูดคุยพนักงานขาย แต่พนักงานขายไม่ได้สวมแมส
สำหรับ ไทม์ไลน์ ผู้ป่วยยืนยันรายนี้ คือ วันที่ 13 มี.ค. 64 เวลา 13.00 น. เดินทางไปร้านวัสดุก่อสร้างร้านเดิมอีกครั้ง เพื่อเปลี่ยนสินค้าพร้อมกับสามีและบุตรชายคนเล็ก วันที่ 14 มี.ค. เวลา 10.30 – 11.30 น. เดินทางไปโรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อตรวจหาโควิด พร้อมกับสามี และบุตรชายคนเล็ก และเพื่อนบ้านผู้ป่วยมีการติดต่อกับห้องบัตรและคลินิก ARI เวลา 11.30 – 12.30 น. ไปที่ห้าง Big C สาขาศรีสะเกษ เพื่อซื้อของ โดยมีการสวมแมสตลอดเวลา วัดไข้ และล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ก่อนเข้าห้างด้วย
วันที่ 15 มี.ค. เวลา 08.30 – 09.30 น. เดินทางไปร่วมงานทำบุญร้อยวันแม่ของสามี และร่วมรับประทานอาหารกับญาติของสามี จากนั้น เดินทางไปที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งสว่าง เพื่อขอตรวจโควิด-19 พบเจ้าหน้าที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลทุ่งสว่าง 2 คน โดย 2 คนนี้ สวมแมสตลอดเวลา
เวลา 11.00 น. ทีมโรงพยาบาลวังหิน เดินทางไปเก็บตัวอย่างที่บ้านผู้ป่วย ส่งตรวจที่โรพยาบาลศรีสะเกษ
วันที่ 16 มี.ค. เวลา 18.00 น. รายงานผลการตรวจยืนยันจากโรงพยาบาลศรีสะเกษพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในหญิง อายุ 49 ปี ส่วนผลตรวจของสามีไม่พบเชื้อ จากนั้นโรงพยาบาลศรีสะเกษ ได้ไปรับตัวผู้ป่วยมาเพื่อทำการรักษา ซึ่งผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นผู้สัมผัสร่วมบ้านและบ้านใกล้เคียง จำนวน 17 คน ผู้สัมผัสผู้ป่วยยืนยันความเสี่ยงต่ำ 6 คน
ขณะเดียวกัน ที่ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สาขาศรีสะเกษ นายแพทย์เสกสรรค์ จวงจันทร์ รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ นำทีมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจ แนะนำมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยมีนางจิราวรรณ บุญศิลป์ ผู้จัดการห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี สาขาศรีสะเกษ ให้การต้อนรับแล้วพาเดินตรวจเยี่ยม โดยเบื้องต้นในการลงพื้นตรวจพื้นที่ที่ห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีในครั้งนี้ เป็นการตรวจเยี่ยมดูถึงมาตรการการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ของทางห้างและแจกเอกสาร ให้คำแนะนำกับทางห้างบิ๊กซีและกับผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆภายในห้าง หลังผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 คนแรกของจังหวัด ได้เคยมาใช้บริการที่ห้างแห่งนี้จากการตรวจเยี่ยมได้รับความร่วมมือจากทางห้างเป็นอย่างดี
นางจิราวรรณ บุญศิลป์ ผู้จัดการก้างสรรพสินค้า บิ๊กซีสาขาศรีสะเกษ เปิดเผยว่า แม้จะมีข่าวว่าผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คนแรกของจังหวัด เคยมาใช้บริการที่ห้าง แต่ทางห้างก็ยังไม่มีการประกาศปิดห้างแต่อย่างใด ซึ่งห้างได้ปฏิบัติเข้มงวดขึ้น โดยก่อนเปิดห้างได้มีการระดมกำลังพนักงานเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดทุกมุมของห้าง และประชุมหามาตรการรับมืออย่างใกล้ชิด พร้อมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ ที่มาทำงานในวันที่ผู้ติดเชื้อมาใช้บริการไปรายงานตัว เพื่อที่เจ้าหน้าที่ทางสาธารณสุขจะได้รับรู้และเฝ้าระวังได้อย่างใกล้ชิด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี