วันที่ 17 มีนาคม 2564 ที่ห้องประชุมกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) 5-0 1 ชั้น 5 อาคารกระทรวงยุติธรรมแห่งใหม่ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช​ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม​ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการศูนย์ปฏิบัติการป้องกัน และปราบปรามการกระทำความผิดการฉ้อโกงประชาชนในลักษณะแชร์ลูกโซ่ ครั้งที่ 2/2564 โดยมี นายสหการณ์​ เพ็ชรนรินทร์​ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายชยาวุธ จันทร รองปลัดกระทรวงมหาดไทย นายเรืองศักดิ์​ สุวารี อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ​ พ.ต.ท.สมบูรณ์​ สาระสิทธิ์​ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ​ (ดีเอสไอ) เจ้าหน้าที่กรมบังคับคดี สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงการคลัง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย และสภาทนายความเข้าร่วมประชุม 

นายสามารถ กล่าวว่า ได้ติดตามความคืบหน้าในการอำนวยความยุติธรรมให้กับผู้เสียหายคดีแชร์ "โกลด์ฟาเธอร์" โดยตัวแทนผู้เสียหายได้รวบรวมเอกสาร และหลักฐานที่เกี่ยวกับการถูกหลอกลวงจำนวน 89 คน จากจำนวนทั้งหมด 400 คน เพื่อนำส่งให้ศูนย์ยุติธรรมสร้างสุข ตามคำแนะนำของตนคิดเป็นมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 116 ล้านบาท การประชุมครั้งที่ผ่านมาตนเปิดโอกาสให้ผู้เสียหายเข้ารับฟัง และรับฟังข้อแนะนำในขั้นตอนติดตามคดีจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จนผู้เสียหายมีความเข้าใจระบบการทำงานในการแก้ไขปัญหา และตระหนักถึงความจริงใจของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาแชร์ลูกโซ่อย่างเป็นระบบ และขอบคุณ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ให้ความสำคัญกับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ถูกฉ้อโกง และได้มีคำสั่งตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมา เพื่อหาแนวทา๋่่่่่๋่่งการแก้ปัญหาที่รวดเร็วและยั่งยืน โดยมีความคาดหวังจะได้รับเงินคืนในเร็ววัน จึงขอให้ทุกองคาพยพบูรณาการการทำงานให้บรรลุเป้าหมาย 

"ปัญหาแชร์ลูกโซ่เป็นวาระแห่งชาติเป็น 1 ใน 12 นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ในการแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงประชาชน และลดความเหลื่อมล้ำ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ได้ผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมาย และขับเคลื่อนร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามแชร์ลูกโซ่ ขณะนี้ได้มีการเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว" ผช.รมว.ยธ.กล่าว 

นายสามารถ กล่าวต่อว่า นอกจาหนี้ ตนได้ขอให้ที่ประชุมร่วมตั้งข้อสังเกตกรณีผู้รับสัมปทานจาก กสทช.ในการให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือรายหนึ่ง หลังประกาศเชิญชวนให้ประชาชนมาร่วมลงทุน ในธุรกิจโทรคมนาคมตามแพ็คเกจที่บริษัทกำหนด โดยระบุว่าได้รับผลตอบแทนสูงทั้งจากการแนะนำสมาชิก ค่าคอมมิชชั่น และเงินกองทุนพิเศษ ทั้งที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในลักษณะดังกล่าว ตนจึงมอบหมายให้ดีเอสไอตั้งคณะทำงานสืบสวนกรณีดังกล่าว เพื่อเป็นการป้องกันก่อนที่จะมีความเสียหายเกิดขึ้น เป็นไปตามนโยบายยุติธรรมเชิงรุกสร้างสุขให้ประชาชนของ นายสมศักดิ์ ตนฝากเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการถูกชักชวน ร่วมลงทุนในธุรกิจตามที่อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง ให้ติดตามข่าวสาร หรือปรึกษาผู้ที่มีความรู้ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะทำการลงทุนใดๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหาย ทั้งนี้ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลเบาะแส ผ่านสายด่วนกระทรวงยุติธรรม โทร.1111 กด 77 โทร. ฟรีตลอด  24  ชั่วโมง.