จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายคนต้องเผชิญกับผลกระทบที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ จนต้องผันตัวเองจากที่เคยทำงานในระบบกลับไปตั้งต้นชีวิตใหม่ในการประกอบอาชีพอิสระยังภูมิลำเนา ซึ่งรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กระทรวงแรงงานภายใต้การกำกับดูแลของ พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีมีนโยบายสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ สตรี ผู้สูงอายุผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงแรงงาน ภายใต้การนำของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ที่ต้องการให้แรงงานนอกระบบ สตรี ผู้สูงอายุผู้พิการ และกลุ่มเปราะบางมีงานทำมีอาชีพ มีรายได้ ได้รับการพัฒนาทักษะฝีมือ ได้รับสวัสดิการและการคุ้มครองทางสังคมตามกฎหมาย มีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต และมีความปลอดภัยในการทำงาน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
โดยได้มอบหมายให้ นางธิวัลรัตน์อังกินันทน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน พร้อมด้วย นางเธียรรัตน์นะวะมะวัฒน์ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่เพื่อสอบถามความต้องการด้านอาชีพเพื่อบูรณาการสนับสนุนความช่วยเหลือตามภารกิจของกระทรวงแรงงาน พร้อมมอบวัสดุปกรณ์และเครื่องมือพื้นฐานในการทำมาหากินภายหลังการฝึกอบรมโครงการแก่กลุ่มอาชีพ “จักสานผักตบชวา” โครงการเตรียมความพร้อมแก่กำลังแรงงาน กิจกรรมเพิ่มอาชีพเพิ่มรายได้ แก่สมาชิกกลุ่มอาชีพ “จักสานผักตบชวา” จำนวน 20 คน เพื่อให้ชาวบ้านกลุ่มเปราะบางได้นำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพต่อไปได้
สำหรับกลุ่มอาชีพแห่งนี้มี ธนณัฎฐ์ รุ่งแจ้ง กำนันตำบลพยอม อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นผู้บุกเบิก เล่าถึงที่มาที่ไปว่า ด้วยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ผักตบชวาที่มีอยู่ในท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นวัชพืชที่ในแต่ละปีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องสูญเสียงบประมาณจำนวนมากในการกำจัด จึงมีแนวคิดว่า ทำอย่างไรจึงนำผักตบชวาเหล่านี้มาดัดแปลงให้เกิดมูลค่า และสามารถสร้างงาน สร้างอาชีพ ให้ชาวบ้านมีรายได้เลี้ยงตนเองและจุนเจือครอบครัว จึงได้รวมกลุ่มของสมาชิกราว 20 คน ขึ้นมาเป็นกลุ่มอาชีพ “จักสานผักตบชวา” ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ที่เกษียณจากการทำงาน ผู้พิการ และกลุ่มเปราะบาง ช่วงแรกได้นำวิทยากรจากจังหวัดอ่างทองมาสอนชาวบ้านเพื่อให้เกิดประโยชน์และเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจ ทำให้กลุ่มอาชีพมีความเข้มแข็ง จนในทุกวันนี้กำนันตำบลพยอมได้มีการนำองค์ความรู้ไปถ่ายทอดให้กับลูกบ้าน
โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่เกษียณอายุจากงานประจำแล้วกลับมาอยู่บ้าน รวมถึงกลุ่มเปราะบาง มีอาชีพเสริม มีงานทำ มีรายได้ เลี้ยงดูตนเองและจุนเจือครอบครัวได้ หลายหน่วยงานเข้ามาสนับสนุนทั้งในเรื่องวิทยากร วัสดุอุปกรณ์เครื่องมือ ตลอดจนช่องการจัดจำหน่ายผ่านตลาดออนไลน์ ให้ความรู้ด้านการบริหารจัดการกลุ่ม การกู้ยืมเงินกองทุนฯ การจัดตั้งกลุ่มเพื่อผู้รับงานไปทำที่บ้าน การตลาด การทำบัญชีเบื้องต้นและค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) อำเภอวังน้อย สนับสนุนวิทยากร กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน สนับสนุนและมอบเครื่องมือทำกินให้กับผู้เข้ารับการฝึก มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา สนับสนุนด้านช่องทางการจำหน่าย การออกแบบผลิตภัณฑ์ผ่านตลาดออนไลน์
ทองอ่อน รุ่งเรือง วัย 75 ปี เล่าว่าเมื่อก่อนตนอยู่บ้านเลี้ยงหลาน กำนันตำบลพยอม ได้ชวนมาฝึกอบรมกับวิทยากรที่มาสอนฝึกอาชีพจักสานผักตบชวา จนเริ่มทำเองได้ จักสานเป็นตะกร้า กระเป๋า ทั้งใบเล็ก ใบใหญ่ ถ้าใบเล็กต้องใช้เวลาในการทำได้วันละ 1-2 ใบ แล้วแต่ความยากง่าย เนื่องจากเป็นงานละเอียด มีการบุผ้า ลงน้ำมันเคลือบเงา เพ้นท์ลายต่างๆ ตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ ส่วนกระเป๋าใบใหญ่จะใช้เวลาทำนาน 3-5 วันต่อใบ ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นใบละ 350 บาท สามารถให้มีรายได้คนละ 1,500 -3,000 บาทต่อเดือน ซึ่งการจักสานต้องมีความประณีต มีใจรัก เนื่องจากเป็นงานฝีมือ ที่ต้องใช้ความละเอียด
ถือเป็นความโชคดีของชาวบ้าน โดยเฉพาะแรงงานนอกระบบ และกลุ่มเปราะบาง ที่ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ ท่ามกลางวิกฤตการณ์จากผลกระทบโควิด-19
ที่ต้องใช้เวลาในการเร่งฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรัฐบาล กระทรวงแรงงานและหลายหน่วยงานได้บูรณาการทำงานเพื่อช่วยเหลือตามภารกิจให้มีประชาชน มีอาชีพ มีรายได้ มีความเข้มแข็งลดความเหลื่อมล้ำในสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี