กัดฟันถอย!‘กองทัพพม่า’ยอมไม่รับ‘ข้าวสาร’ ขนกลับแล้ว
เมื่อเวลา 04.00 น.วันที่ 24 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ได้มีรถบรรทุกสิบล้อ เดินทางเข้าไปที่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยได้มีการลำเลียงข้าวสารที่กองอยู่ริมฝั่งสาละวิน โดยใช้รถปิคอัพขนลำเลียงไปขึ้นรถสิบล้อ มีปลายทางที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ซึ่งในตอนแรก พ.ท.เอ เมี้ยน ส่าน ผบ.พัน.คร.341 ของเมียนมา ยอมรับว่า ข้าวสารดังกล่าว เป็นของทหารเมียนมา ที่ถูกส่งมาเพื่อเป็นเสบียงอาหารให้กับหน่วยทหารในพื้นที่ ซึ่งตั้งฐานที่มั่นเรียงรายไปตามริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน กว่า 10 กองพัน ก่อนจะมีการขนกลับดังกล่าว (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'เคเอ็นยู'เคลื่อนกำลังขู่ถล่มฐานทหารพม่าทันที หากไทยส่งข้าวสารให้พม่า)
สำหรับปัญหาเรื่องข้าวสารดังกล่าว กลายเป็นประเด็นทางการเมืองระดับชาติ เมื่อมีการนำเสนอข่าวส่งข้าวสารไปให้ และทำให้คนไทยเกิดความสับสน เมื่อนายทหารระดับสูง รวมถึงนายกรัฐมนตรี ต่างออกมาพูดเรื่องข้าวสารดังกล่าวไปคนละทิศละทาง หลังจากนั้นกลับมีเสียงปืนในฐานทหารเมียนมา ตรงข้ามกองข้าวสารในฝั่งไทย ห่างกันไม่เกิน 200 เมตร ซึ่งถือเป็นการคุกคามราษฎรไทยที่ลงไปตรวจสอบข้าวสารดังกล่าว ซึ่งโดยปกติทางเจ้าหน้าที่ไทย กองทัพไทย จะต้องให้หน่วยประสานงานชายแดนพื้นที่แม่ฮ่องสอน ทำหนังสือประท้วงไปยังเมียนมาทันที (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนสั่งสอบข้าวสาร 700 กระสอบ ห้ามส่งออกให้พม่าเด็ดขาด)
นอกจากนี้ มีรายงานว่าสถานการณ์ในฝั่งเมียนมา เขตพื้นที่ของกองกำลังติดอาวุธกะเหรี่ยงอิสระ หรือ KNU ยังคงมีการสู้รบกับทหารเมียนมา มากว่า 2 สัปดาห์ หลังกองกำลังกะเหรี่ยงฯกลุ่มดังกล่าวส่งทหารไปคุ้มกันราษฎรชนเผ่ากะเหรี่ยง ที่เดินขบวนประท้วงรัฐบาลรัฐประหารของเมียนมา ที่มีการประท้วงไปทั่วประเทศ และไม่มีใครสามารถคาดการณ์ได้ว่าสถานการณ์การสู้รบของทั้ง 2 ฝ่ายจะเกิดขึ้นตามแนวชายแดนติดกับไทยเมื่อไร และยิ่งมีความขัดแย้งในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้น ยิ่งทำให้สถานการณ์ยากที่จะประเมิน และส่อแววว่าจะส่งผลกระทบต่อราษฎรไทยที่อาศัยอยู่ติดแม่น้ำสาละวิน โดยมีหลายหมู่บ้านที่ทางรถเข้าไม่ถึง ต้องอาศัยการสัญจรในแม่น้ำสาละวิน ที่คั่นกลางระหว่าง 2 ประเทศ
ในส่วนของราษฎรบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย และบ้านท่าตาฝั่ง อ.แม่สะเรียง ทั้งสองหมู่บ้านต่างอาศัยอยู่ติดแม่น้ำสาละวิน และเคยประสบกับผลกระทบจากเหตุการณ์การสู้รบของทหารเมียนมากับทหารกะเหรี่ยงมาแล้วอย่างโชกโชน มีบางครั้งที่ทหารเมียนมาถึงกับส่งกำลังเข้ามาถล่มกองกำลังกะเหรี่ยงถึงในเขตไทย โดยไม่สนใจเรื่องสนธิสัญญาระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ราษฎรในพื้นที่พากันหวาดกลัวและกังวลมาจนถึงทุกวันนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี