30 มีนาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเหตุการณ์เย็นวานนี้ (29 มีนาคม 2564) พลุตะไลที่ใช้จุดในงานเผาศพพุ่งตกลงมาใส่ศีรษะเด็กนักเรียนโรงเรียนอาจวิทยาคาร ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา ขณะเด็กนักเรียนกำลังเลิกโรงเรียนจะกลับบ้าน ทำให้เด็กนักเรียนหญิงได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย คือ เด็กหญิงณัฐชา สวัสดี หรือน้องมิ๊นท์ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.3 ได้รับบาดเจ็บถูกพลุตกใส่ศีรษะเป็นบาดแผลฉกรรจ์

ล่าสุดวันนี้ ที่บ้านเลขที่ 149 บ้านตะคุ หมู่ 1 ตำบลตะคุ อำเภอปักธงชัย ซึ่งเป็นบ้านของน้องมิ๊นท์ ผู้บาดเจ็บ โดยบรรยากาศบริเวณบ้านมีญาติพี่น้องของน้องมิ๊นท์ที่ทราบข่าว พากันเดินทางมาสอบถามอาการบาดเจ็บของน้องมิ๊นท์กันเป็นจำนวนมาก

นายนิรุต สวัสดี พ่อของน้องมิ๊นท์ เปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุน้องมิ๊นท์เลิกเรียนแล้ว และกำลังจะเดินกลับบ้าน พร้อมกับเพื่อนๆ รวม 3 คน ช่วงเวลานั้นบริเวณเมรุวัดหน้าพระธาตุ ซึ่งอยู่ใกล้กับโรงเรียนได้มีการจัดงานเผาศพ และขณะเผาศพชาวบ้านก็ได้มีการจุดพลุตะไลตามประเพณีโบราณ แต่พลุตะไลที่จุดได้เกิดหล่นลงมาตกใส่ศีรษะของน้องมิ๊นท์ ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส

นายนิรุต สวัสดี บิดา กล่าวอีกว่า เรื่องอาการล่าสุดขณะนี้ทางแพทย์ รพ.มหาราชนครราชสีมาแจ้งว่า เด็กอยู่ในห้องไอซียูปลอดเชื้อ 100% อาการของน้องยังคงโคม่า ไม่รู้สึกตัว โดยแพทย์ได้เอ็กซเรย์ดูที่ศีรษะของน้องพบว่า ศีรษะของน้องถูกเศษไม้ของพลุตะไลทิ่มแทงเข้าไปในกะโหลกศีรษะความลึกประมาณ 10 เซนติเมตร และแพทย์ได้บอกให้ครอบครัวเริ่มทำใจ เพราะน้องอาการหนักมาก ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่อยากโทษว่าเป็นความผิดของใคร และก็คงปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย ส่วนการช่วยเหลือดูแลเยียวยาเรื่องต่างๆนั้นตอนนี้ไม่สะดวก  

ส่วนที่บริเวณเมรุเผาศพวัดหน้าพระธาตุพบว่า บริเวณที่ตั้งของเมรุเผาศพในหมู่บ้าน ห่างจากตัวโรงเรียนที่เกิดเหตุประมาณ 50 เมตร โดยบริเวณด้านหลังเมรุพบร่องรอยการจุดพลุงานศพทิ้งไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งจากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า ปัจจุบันชาวบ้านมักจุดพลุในงานศพโดยใช้พลุแบบใหม่ที่มีเสียงดัง และแตกกระจายในท้องฟ้า ซึ่งพลุแบบนี้จะไม่ค่อยมีเศษพลุตกลงมาด้านล่าง ขณะที่วันเกิดเหตุคนจุดพลุได้ใช้พลุตะไลซึ่งทำจากไม้ จึงทำให้มีเศษของไม้ร่วงหล่นลงมายังพื้นด้านล่าง

พันตำรวจเอก ชนัตถ์ กวีขาวฉลาด ผู้กำกับการ สภ.ปักธงชัย เปิดเผยว่า ทางด้านคดีขณะนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวชาย 2 คนที่จุดพลุตะไลในงานศพขณะเกิดเหตุมาสอบปากคำแล้ว โดยทั้งสองคนให้การยอมรับว่าเป็นผู้จุดพลุตะไลจริง ซึ่งก่อนจุดพลุตะไลทางคนจุดอ้างว่า ได้หันพลุตะไลไปทางทุ่งนาซึ่งไม่มีผู้คนแล้ว แต่ช่วงเกิดเหตุมีลมพัดแรง คาดว่าแรงลมได้พัดพลุตะไลที่จุดหลุ่นลงมาในที่ชุมชนจนทำให้เด็กได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งดำเนินคดีกับชายสองคนที่จุดพลุในข้อหา กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเกิดอันตรายสาหัสแล้ว