“ผบช.สตม.” นำแถลง “สืบ ตม.3” ตามรวบแก๊งสวมรอยผู้จัดการโรงแรมที่‘กักตัว’ ASQ ตุ๋นเงินต่างชาติ สั่งขยายผลล่าให้เหี้ยนทั้งขบวนการ
30 มีนาคม 2564 สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. , พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ , พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ , พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด , พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3 , พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก.ตม.1 และว่าที่ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 ร่วมแถลงผลการจับกุมแก๊งหลอกโอนเงิน โดยอ้างเป็นผู้จัดการสถานที่กักตัวทางเลือก หรือ ASQ (Alternative state Quarantine)
สืบเนื่องจาก สตม.ได้รับแจ้งจาก น.ส.นิโคล ว่าลูกชาย คือ นายทาบิโซ่ สัญชาติแอฟริกาใต้ จะเดินทางเข้าประเทศไทย จึงได้ติดต่อจองโรงแรมแห่งหนึ่งซึ่งเป็นสถานที่กักตัวทางเลือก หรือ ASQ (Alternative state Quarantine) โดยในการติดต่อเข้าพักได้แจ้งความประสงค์ผ่านทาง https://asq.wanderthai.com ต่อมาได้มีคนร้ายอีเมลมาแจ้งว่าเป็นผู้จัดการโรงแรม และขอเก็บค่าธรรมเนียม โดย น.ส.นิโคล ได้ทำการโอนเงินจำนวน 35,000 บาท ไปตามบัญชีที่ได้รับแจ้ง ต่อมาภายหลังจึงทราบว่าไม่ใช่การดำเนินการของทางโรงแรม ทำให้ได้รับความเสียหาย
ต่อมา กก.สส.บก.ตม.3 ได้ทำการสืบสวนหาตัวผู้ใช้ ผู้ถอนเงิน จนกระทั่งทราบว่า ผู้ใช้ผู้ถอนเงินจากบัญชีดังกล่าว คือ น.ส.แอมมี่ และจากการตรวจสอบพบว่า น.ส.แอมมี่ เป็นบุคคลตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยาที่ 278/2563 ลงวันที่ 30 ตุลาคม 2563 ข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น” ด้วย ต่อมาได้ทำการสืบสวนจนกระทั่งทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีมาพักอยู่ที่ ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี จึงได้เดินทางมาตรวจสอบจนกระทั่งนำไปสู่การจับกุมผู้ต้องหา
จากการตรวจค้นห้องพักของ น.ส.แอมมี่ พบ บัตรเอทีเอ็มที่ใช้ในการกดเงินในคดีนี้ และบัตรเอทีเอ็มอื่น รวม 3 ใบ โทรศัพท์ 3 เครื่อง ซิมการ์ด 5 ใบ สมุดบัญชีของบุคคลอื่น 1 เล่ม และชุดต่างๆที่ใส่ในวันที่มีการกดเงิน โดย น.ส.แอมมี่ รับว่า บัตรเอทีเอ็ม, ซิมการ์ด, สมุดบัญชี ได้รับจากบุคคลที่อยู่ในขบวนการ เพื่อใช้ในการติดต่อ ถอนเงินและฝากเงินตามคำสั่ง โดยรับค่าจ้างในการทำงานวันละ 1,000 บาท จึงได้ส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.บางปะอิน คดีตามหมายจับ และจะได้ขยายผลจับกุมตัวการร่วมต่อไป
ทั้งนี้ การขยายผลการดำเนินคดีดังกล่าวนี้ ทาง ผบช.สตม. ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากในห้วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 มีการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาในประเทศตามวิถี New Normal ผู้ต้องหากับพวกที่ยังหลบหนีอยู่ฉวยโอกาสนี้กระทำผิดเอาผลประโยชน์เข้าตนเอง ไม่สนใจภาพลักษณ์ของประเทศไทย การขยายผลจับกุมของ กก.สส.บก.ตม.3 ในครั้งนี้ ดำเนินการภายใต้นโยบายของ ผบช.สตม. อันจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวนักลงทุนชาวต่างชาติและและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย
ด้าน พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม./โฆษก สตม. , พ.ต.อ.ภัคพงศ์ สายอุบล รอง ผบก.ตม.1/รองโฆษก สตม. ร่วมกันเปิดเผยว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เรื่องการควบคุมกำกับดูแลชาวต่างชาติที่เข้ามาพำนักอาศัยหรือเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมายให้ สตม. ดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในขณะที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศ หรือกลุ่มคนร้ายข้ามชาติที่เข้ามาแฝงตัวอยู่ก่อเหตุกับคนไทยหรือชาวต่างชาติ โดยใช้ประเทศไทยเป็นฐานในการกระทำความผิด
ทั้งนี้ สตม. จึงขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดต่างๆ รวมทั้งการดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนหรือ ทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเบาะแสในการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี