สภาพอากาศร้อนจัด สาวใหญ่พนักงานเอกชนแห่งหนึ่งชวนเพื่อน 3 คนมาพักผ่อนที่จุดชุมชนนวัตวิถี บ้านยางโทน หมู่ 2 ตำบลวัดพริก อำเภอเมืองพิษณุโลก แล้วชวนกันลงเล่นน้ำคลายร้อนที่แม่น้ำน่าน เกิดจมน้ำ 2 ราย ผู้ใหญ่บ้านกระโดดลงน้ำไปช่วยไว้ได้ 1 รายรอดอย่างหวุดหวิด ส่วนสาวซัพพลายเออร์ฯ จมน้ำหายไปในน้ำวน
เมื่อเวลา 12.00 น.วันที่ 1 เม.ย.64 ที่หน่วยกู้ภัยบูรพาและสมาคมกู้ภัยข่าวภาพรับแจ้งมีบุคคลจมน้ำในแม่น้ำน่าน บริเวณชุมชนนวัตวิถี OTOP บ้านยางโทน ม.2 ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์กของชุมชน จำนวน 2 ราย มีพลเมืองดีช่วยเหลือนำส่งลงพยาบาลได้ 1 คนอีก 1 คนสูญหายไปในแม่น้ำน่านจึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุเป็นริมแม่น้ำน่าน ม.3 ต.วัดพริก อ.เมือง จ.พิษณุโลก พบเพื่อนของผู้สูญหายคือ นางประณัยยา เจริญเชาว์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 73 ม.2 ต.บึงพระ อ.เมือง จ.พิษณุโลก เล่าให้ฟังว่า ตนพร้อมเพื่อน และผู้สูญหาย ได้เดินทางมาพักผ่อนกันที่แห่งนี้ ซึ่งเป็น ชุมชนนวัตวิถี บ้านยางโทน ก็สั่งอาหารมาทานกันบริเวณริมน้ำ จากนั้น น.ส.สิริกาญจน์ (ผู้สูญหาย) พร้อมเพื่อนอีกคนได้ลงเล่นน้ำตรงหาดทรายริมน้ำ ส่วนตนและเด็กน้อยอีก 1 คนก็เล่นอยู่อีกจุดหนึ่ง ไม่ไกลกันมากนัก สักแป๊บได้ยินเสียงคนโวยวายก็รีบหันไปดูเห็น น.ส.สิริกาญจน์ และเพื่อนอีกคนกำลังจะจมน้ำ เหตุการณ์มันเกิดขึ้นไวมาก สักพักเพื่อนของตนอีกคนนึงก็ลอยตามน้ำไปไวมากแป๊บเดียวอยู่กลางแม่น้ำ ตนก็รีบตะโกนให้คนช่วย
ส่วน น.ส.สิริกาญจน์ ก็จมน้ำหายไปแล้ว สักครู่ก็มีผู้ชายคนนึงรีบวิ่งลงมาคว้าไม้และกระโดดลงไปช่วยเพื่อนของตนอีก 1 คนที่ลอยคออยู่กลางมาน้ำเข้ามาได้ ในอาการตกใจ อยู่ในอาการช๊อคจึงรีบน้ำตัวส่งโรงพยาบาล
นายชัยวิชิต เพ็งหัวรอ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านวัดพริก คนที่ลงไปช่วยคนจมน้ำเล่าให้ฟังว่า ตอนนั้นตนอยู่ด้านบนริมตลิ่ง กำลังจะกลับบ้าน เห็นว่ามีคนลงมาเล่นน้ำตรงจุดเล่นน้ำ ก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะปกติคนก็จะลงเล่นน้ำบริเวณเป็นประจำ จู่ๆ ได้ยินเสียงคนตระโกนว่าช่วยด้วย มีคนจมน้ำ ตนก็รีบวิ่งลงไปก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งลอยไปอยู่กลางแม่น้ำ กำลังจะหมดแรง ตนก็คว้าไม้ไผ่แล้วรีบว่ายลงไปช่วย ตะโกนถามผู้หญิงคนนั้นว่าไหวไหม เขาบอกว่าเขาไม่ไหวแล้ว ตนเลยให้เขาเกาะปลายไม้แล้วให้หงายท้องลอยตัวขึ้นแล้วตนก็ลากเข้ามาถึงฝั่งแล้วรีบให้คนพาส่งโรงพยาบาล ส่วนอีกหนึ่งคนที่จมน้ำหายไปนั้น ตนมองไม่เห็นแล้วจึงรีบเรียกกู้ภัยเข้ามาตรวจสอบ
นายชัยวิชิต บอกต่ออีกว่าจุดนี้เป็นจุดนวัตวิถีชุมชน ปกติหน้าร้อนชาวบ้านก็จะมาขายของ เพราะคนนิยมมาเล่นน้ำกัน เพราะเป็นพื้นที่หาดทรายลาดลงไป เวลาหน้าแล้งนั้น สามารถเดินข้ามแม่น้ำน่านได้เลย แต่จุดตรงที่มีคนจมน้ำนั้น เป็นลักษณะโค้งตัวยูและมีน้ำวนด้านล่างเป็นตะพักลำน้ำลึกมาก เพราะคนโบราณบอกว่าตรงนั้นเป็นวังอีแรด เป็นวัดเก่า มีรูปปั้นแรดจมอยู่ด้านล่าง ปกติจะมีทุนลอยเตือนไว้ ว่าห้ามเล่นน้ำตรงจุดนั้น แต่วัยรุ่นชอบมาเล่นน้ำกันแล้วลากทุนขึ้น วันเกิดเหตุก็ไม่มีทุนเตือน ประกอบกับกลุ่มผู้สูญหายไม่ใช่คนในพื้นที่จึงคาดว่าจะไม่รู้ว่าจุดนั้นเป็นพื้นที่อันตราย จึงทำให้จมน้ำดังกล่าว
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยบูรพาพร้อมด้วยสมาคมกู้ภัยข่าวภาพ ได้นำเรือลงตีทุ่นตามคำบอกเล่าของเพื่อนผู้สูญหายและส่งนักประดาน้ำลงดำหาใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง แต่ยังไม่พบผู้สูญหาย เนื่องจากจุดเกิดเหตุเป็นช่วงโค้งน้ำ มีตะพักลึกและน้ำวนใต้น้ำระดับน้ำแรงมากเป็นอุปสรรคต่อการค้นหาผู้สูญหาย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี