สาววัย 19 จ.บุรีรัมย์ ป่วยไบโพลาร์เกิดอาการคลุ้มคลั่ง ถือปังตอไล่ฟันขู่จะฆ่าป้า-ยาย ชาวบ้านแจ้งตำรวจช่วย ระดมทั้งโล่และไม้ง่ามเข้าชาร์ทกัน ป้าวอนมูลนิธิฯ-ภาครัฐช่วยเหลือ หวั่นคลั่งอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.บุรีรัมย์ ว่า เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2564 ศูนย์วิทยุสถานีตำรวจภูธรเมืองบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีหญิงสาวคลุ้มคลั่งถือมีดไล่ทำร้ายป้า และยายของตัวเอง ที่บริเวณชุมชนหลักเมือง ในเขตเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทำการตรวจสอบตามที่ได้รับแจ้ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจจึงได้นำอุปกรณ์ทั้งโล่ และไม้ง่าม ไปยังจุดเกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้งก็พบ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี ถือมีดปังตอวิ่งอยู่บริเวณซอยข้างหอสมุด ใกล้กับคลองละลมโบราณ เจ้าหน้าที่ก็พยายามเกลี้ยกล่อมให้วางมีดแต่หญิงสาวคนดังกล่าวกลับร้องตะโกนโวยวาย และแกว่งมีดไปมาสร้างความตื่นตกใจให้กับชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เพราะกลัวจะถูกทำร้ายเนื่องจากหญิงคนดังกล่าวมีอาการคลุ้มคลั่งคล้ายกับเสียสติไปแล้ว
เจ้าหน้าที่เห็นท่าไม่ดีจึงตัดสินเข้าใช้โล่และไม้ง่ามเข้าชาร์ทตัว ซึ่งหญิงคนดังกล่าวก็ยังดิ้นต่อสู้ขัดขืน และพยายามใช้มีดฟันโล่ตำรวจด้วย ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมงจึงสามารถล็อกตัวหญิงคนดังกล่าวได้แบบทุลักทุเล แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย จากนั้นได้ให้เจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลมารับตัวเพื่อไปดูแลรักษา
จากการสอบถาม น.ส.นุช อายุ 45 ปี ป้าของ น.ส.เอ กล่าวว่า หลานป่วยเป็นสมาธิสั้นและไบโพลาร์มาหลายปีแล้ว พาไปรักษาและรับยามากินตลอดแต่บางครั้งก็จะมีอาการคลุ้มคลั่งชอบโวยวายและพยายามทำร้ายทำร้ายคนอื่น เมื่อ 4 เดือน ก่อนแม่ของหลานได้ทิ้งไว้ที่ รพ.จิตเวช จ.นครราชสีมา เมื่ออาการดีขึ้นทางโรงพยาบาลก็ประสานให้ญาติไปรับ แต่ผู้เป็นแม่ไม่ยอมไปรับตนเองซึ่งเป็นป้าแท้ๆ และยายก็ต้องไปรับหลานมาเลี้ยงที่บ้าน
ปัจจุบันได้อาศัยอยู่กับยายวัย 72 ปี ส่วนตนเองก็ต้องไปทำงานที่ ต.บ้านยาง แต่บางวันก็ต้องมานอนเป็นเพื่อนยายเพราะกลัวเวลาที่หลานคลุ้มคลั่งจะทำร้ายยาย เพราะยายอายุมากแล้วคงไม่มีแรงสู้หลานสาวได้ ซึ่งล่าสุดก่อนที่หลานจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งถือไล่ฟันขู่จำทำร้ายตนเองกับยาย เนื่องจากหลานเห็นแม่มาวนเวียนอยู่แถวๆ บ้าน จึงเก็บเสื้อผ้าบอกว่าจะไปอยู่กับแม่ พอตนบอกว่าแม่เขาไปแล้วเท่านั้นแหละหลานก็โวยวาย แล้วไปรื้อค้นเอามีดในบ้านออกมาไล่ฟันขู่จะฆ่าตนเอง และยาย ชาวบ้านที่เห็นจึงแจ้งตำรวจให้มาช่วยเหลือ
น.ส.นุช กล่าวอีกว่า อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาแนวทางช่วยเหลือ พาหลานไปอยู่ในความดูแลของมูลนิธิ หรือสถานสงเคราะห์ที่สามารถดูแลได้ เพราะกลัวว่าหากปล่อยออกมาจะเกิดอาการคลุ้มคลั่งอาจจะทำร้ายยายหรือคนอื่น ประกอบกับยายก็ไม่มีรายได้อะไรมีเพียงเบี้ยผู้สูงอายุ และบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ลำพังจะกินอยู่ก็ไม่พออยู่แล้ว ส่วนตัวเองก็ป่วยต้องไปหาหมอประจำเหมือนกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี