“บอร์ด กพฐ.” นำนโยบาย “ตรีนุช” ลงสู่การปฏิบัติ ดันโรงเรียนมีคณะทำงานดูแลความปลอดภัย เสนอปลด 4 “Big Block”อุปสรรค์พัฒนาหลักสูตรเดินช้า
นายเอกชัย กี่สุขพันธ์ ประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยว่า ในการประชุม กพฐ.เมื่อเร็วๆนี้ ที่ประชุมนำนโยบายของ น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) ไปสู่การปฏิบัติ โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา ซึ่งที่ประชุมเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ผลักดันให้โรงเรียนทุกแห่งมีคณะทำงานดูความเสี่ยงของสถานศึกษา โดยอาจจะมีประมาณ 2-3 คน เพราะตนมองว่าสถานศึกษาในปัจจุบัน ละเลยเรื่องความเสี่ยงและความปลอดภัยในสถานศึกษาอย่างมาก โดยคณะทำงานชุดนี้ จะเข้ามาดูความเสี่ยงทุกประเภท ที่อาจจะเกิดขึ้นกับนักเรียนและโรงเรียน เช่น เรื่องความปลอดภัย การถูกคุกคาม การละเมิดทางเพศ การทะเลาะและบูลลี่ระหว่างนักเรียนกับนักเรียน ถ้าสถานศึกษามีคณะทำงานดี จะสร้างความปลอดภัยให้กับนักเรียนมากขึ้น เช่น ถ้าสถานศึกษาจะพานักเรียนไปเข้าค่ายลูกเสือ คณะทำงานชุดนี้ จะทำหน้าที่ตรวจสอบและซักถามการจัดกิจกรรมของสถานศึกษาว่าปลอดภัยกับนักเรียนจริงหรือไม่ และถ้าเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น สถานศึกษามีวิธีปฏิบัติอย่างไร มองว่าถ้าทุกโรงเรียนมีคณะทำงานชุดนี้ จะทำให้นักเรียนมีความปลอดภัยและมีความสุขกับการเรียนมากขึ้น
นายเอกชัย กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมหารือเรื่องการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ ตนเสนอว่าการพัฒนาหลักสูตรนี้มีอุปสรรค หรือ “Big Block” ที่คอยบล็อกทำให้การพัฒนาหลักสูตรเดินหน้าไปได้ช้า มีอยู่ 4 Block คือ 1.ตัวชี้วัด ถ้าไม่ปรับตัวชี้วัดให้เห็นเป็นรูปธรรม ให้เห็นสมรรถนะชัดเจน ทำให้ตัวชี้วัดอาจจะมีมากเกินจำเป็น และครูบางคนกังวลกับตัวซี้วัด ศึกษานิเทศก์ก็สนใจเรื่องตัวชี้วัด ทำให้ครูไม่กล้าจัดการเรียนการสอนนอกเหนือจากที่แผนการเรียนรู้กำหนด 2.ระบบการทดสอบ ถ้าระบบการทดสอบยังเน้นเนื้อหาไม่เน้นสมรรถนะ ทำให้ครูลำบากในการจัดการเรียนการสอนที่เน้นพัฒนาสมรรถนะให้นักเรียน
3.ระบบการศึกษาต่อ ถ้าขาดการเชื่อมโยงการศึกษาทุกระดับ ตั้งแต่ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สู่มัธยมศึกษาตอนปลาย และไประดับอุดมศึกษา จะพบว่าระบบการคัดเลือกนักเรียนที่เข้าเรียน ม.1 และ ม.4 เป็นการคัดเลือกคนที่มีความรู้ทางวิชาการ แต่ไม่ได้วัดสมรรถนะการคิด การสื่อสาร การวิเคราะห์ ในขณะที่ระดับมหาวิทยาลัย วัดการคิด การวิเคราะห์ของผู้เรียน และ 4.การเข้าสู่วิทยฐานะของครู ที่ยังเน้นการทำเอกสารทางวิชาการ ซึ่งทำให้ครูบางคนประสบปัญหา เพราะไม่ใช่ครูทุกคนเก่งเรื่องการทำงานเอกสาร ครูบางคนอาจจะเก่งเรื่องการลงมือปฏิบัติมีผลงานเชิงประจักษ์ที่ชัดเจน ดังนั้น ควรจะมีช่องทางสนับสนุนครูเหล่านี้ด้วย Big Block เหล่านี้ ที่จะไปบล็อกการพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะ แม้จะได้หลักสูตรฐานสมรรถนะมาแล้ว แต่ถ้าไม่แก้ปัญหา Big Block ทั้ง 4 ข้อการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรฐานสมรรถนะ อาจจะไม่ได้ประสิทธิภาพมากเท่าที่ควร
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี