จีนปิดด่านรุ่ยลี่ สินค้าไทยทะลักรัฐฉาน เอกชนเสนอเปิดสะพานน้ำสาย 1 เพิ่ม
11 เมษายน 2564 รายงานข่าวจาก จ.เชียงราย แจ้งว่า จากสถานการณ์การปราบปรามกลุ่มผู้ออกมาชุมนุมเพื่อต้านการรัฐประหารในประเทศเมียนมา และวิกฤติไวรัสโควิด-19 ทำให้ทางการจีนปิดด่านพรมแดนด้านเมืองรุ่ยลี่ เขตปกครองตนเองชาวไตรุ่ยลี่ มณฑลยูนนาน ที่เชื่อมกับเมืองมูเซ ประเทศเมียนมา โดยอ้างเรื่องสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 เป็นผลทำให้จุดการค้าระหว่างรัฐฉานกับประเทศต่างๆถูกปิดเกือบทั้งหมด เพราะทาง สปป.ลาว ปิดพรมแดนตลอดแนวเช่นกัน ทำให้คงเหลือเพียงจุดผ่านแดนถาวร อ.แม่สาย จ.เชียงราย ที่มีการเปิดตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพื่อการค้าชายแดนกับประเทศเมียนมาเท่านั้น ส่งผลทำให้ในปัจจุบันการนำเข้าและส่งออกสินค้าเป็นอย่างคึกคัก
ขณะที่ด่านศุลกากรแม่สาย แจ้งว่า ในปี 2563 ไทย-เมียนมา มีการค้ารวม 12,980 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 11,528 ล้านบาท นำเข้า 1,452 ล้านบาท และตั้งแต่เดือนตุลาคม-ธันวาคม ปีงบประมาณ 2564 มีการค้ารวม 2,961 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 2,880 ล้านบาท และนำเข้า 81 ล้านบาท กระทั่งเดือนมกราคม 2564 มีการค้ารวม 1,005.4 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 983.3 ล้านบาท นำเข้า 22 ล้านบาท เดือน กุมภาพันธ์ (จนถึงวันที่ 16) มีการค้ารวม 662.8 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 501.1 ล้านบาท และนำเข้า 161.7 ล้านบาท สินค้าส่งออกส่วนใหญ่เป็นเครื่องอุปโภคบริโภค น้ำมันเชื้อเพลิง วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ ส่วนสินค้านำเข้าส่วนใหญ่เป็นสินค้าทางการเกษตร
ด้าน น.ส.ผกายมาศ เวียร์รา รองประธานหอการค้า จ.เชียงราย และประธานหอการค้า อ.แม่สาย กล่าวว่า เนื่องจากรัฐฉานของประเทศเมียนมา มีความต้องการสินค้าไทยเกือบทุกชนิด ดังนั้นการเปิดจุดการค้าผ่าน อ.แม่สาย ยังคงมีความสำคัญต่อทั้ง 2 ประเทศ แม้ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นใดก็ตาม โดยเฉพาะสินค้าประเภทน้ำมันเชื้อเพลิง อุปโภคบริโภค วัสดุก่อสร้าง ฯลฯ เป็นที่นิยมของชาวเมียนมาอย่างมาก ดังนั้นสถานการณ์การค้าด้าน อ.แม่สาย จึงยังคงคึกคักและมีรถขนส่งสินค้าที่มีข้อตกลงตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ระหว่างกันให้บริการขนสินค้ากว่า 300-400 คัน และจากการที่กองทัพเมียนมาประกาศหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือน ในเดือนเมษายนนี้ ทำให้สถานการณ์ยังคงดีขึ้นตามลำดับ
น.ส.ผกายมาศ กล่าวด้วยว่า จากการที่มีการค้าที่คึกคักยังทำให้ส่วนท้องถิ่น จ.ท่าขี้เหล็ก ที่มีข้อตกลงป้องกันไวรัสโควิด-19 กับฝ่ายไทยได้เสนอขอให้รถตู้ขนส่งสินค้าจากประเทศเมียนมาสามารถขับเข้ามาลึกถึงเขตตัวเมือง อ.แม่สาย เพื่อไปรับสินค้าตามโกดัง ห้างสรรพสินค้า ร้านค้า ฯลฯ เพื่อความสะดวกในการนำสินค้าเข้าไปยังเมียนมาหลังจากที่ผ่านมามีข้อตกลงให้รถของทั้ง 2 ฝ่าย สามารถอยู่ได้เฉพาะในฝั่งประเทศตัวเองและให้เปลี่ยนถ่ายคนขับตรงสะพาน ซึ่งทางฝ่ายไทยก็กำลังพิจารณากันอยู่ สิ่งนี้ก็แสดงให้เห็นว่าสินค้าไทยเป็นที่ต้องการของเมียนมาอย่างมาก ตนจึงเสนอในการประชุมส่วนราชการและภาคเอกชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เดินทางไปยัง จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง เพื่อขอให้เปิดจุดการค้าเพิ่มเติมอีก 1 แห่งคือตรงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 1 ซึ่งได้ปิดตัวลงตั้งแต่ต้นปี 2563 เพื่อแบ่งเบาการขนสินค้าของสะพานแห่งที่ 2 รวมทั้งดำเนินการตามรูปแบบของ จ.แม่ฮ่องสอน ที่มีการเปิดจุดผ่อนปรนทุกจุดตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน เป็นต้นไปแล้วนั่นเอง
ปัจจุบันทางการเมียนมายังอนุญาตให้คนขับรถบรรทุกขนาดใหญ่จากประเทศไทยสามารถขับเข้าไปในท่าขี้เหล็กโดยไม่ต้องเปลี่ยนถ่ายคนขับเป็นชาวเมียนมาเพียงแต่ให้สวมชุดป้องกันหรือพีพีอีเท่านั้นอีกด้วย และยิ่งด่านรุ่ยลี่-มูเซ ทางรัฐฉานตอนเหนือซึ่งเป็นด่านสำคัญที่สุดอีกแห่งหนึ่งระหว่างจีน-เมียนมาปิดตัวลงทำให้กลายเป็นโอกาสของสินค้าไทยที่จะกระจายไปในรัฐฉานได้มากขึ้น เพราะปัจจุบันมีถนนอาร์สามบีสายแม่สาย-ท่าขี้เหล็ก-เชียงตุง-เมืองลา และแยกไปทางเมืองตองจี-มัณฑะเลย์ ตองจี-ลาเฉียว-มูเซ ฯลฯ โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าจาก อ.แม่สาย เข้าไปยังเมืองเชียงตุง สามารถกระจายไปยังเมืองตองจีได้ในระยะทางประมาณ 450 กิโลเมตร และจากตองจีสามารถเชื่อมเข้าไปถึงเมืองมัณฑะเลย์เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศเมียนมาได้อีกด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี