ในยุคดิสรัปชัน ไม่เพียงเทคโนโลยีที่ทำให้โลกป่วน แม้แต่โครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนไปก็เข้ามาป่วนโลกไม่น้อย ตามการคาดการณ์ขององค์การสหประชาชาติ ภายใน 9 ปีนี้หลายประเทศจะประสบกับความเปลี่ยนแปลงด้านโครงสร้างประชากรครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ (Demographic Disruption) ประเทศไทยเองก็จะก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยขั้นสูงสุด (super-aged society ) โดยราว 1 ใน 3 ของคนไทยจะมีอายุเกิน 60 ปี ปรากฏการณ์นี้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเศรษฐกิจครั้งใหญ่ โดยเฉพาะด้าน “ตลาดแรงงาน”
มีข้อสรุปสำคัญจากศ.ดร.เกื้อ วงศ์บุญสิน นักวิชาการ อาวุโส พร้อม ผศ.ดร.ปิยะชาติ ภิรมย์สวัสดิ์ อาจารย์ประจำสาขาการเงิน และ รศ.ดร.พัฒนาพร ฉัตรจุฑามาส ผู้อำนวยการศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่องานวิจัยด้านบรรษัทภิบาลและการเงินเชิงพฤติกรรม สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาฯ ทั้งสามจาก ศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่องานวิจัยด้านบรรษัทภิบาลและการเงินเชิงพฤติกรรมแห่งสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาฯ พูดถึงงานวิจัยชิ้นหนึ่งของศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางฯ เน้นศึกษาความเปลี่ยนแปลงอัตราการจ้างงานและค่าตอบแทนในตลาดแรงงานภายหลังถูกกระทบจากสภาวะสังคมสูงวัยโดยประยุกต์ใช้วิธีวิจัยของ Cai and Stoyanov (2016) ประกอบกับผลสำรวจการจ้างงานแต่ละอาชีพในปี 2562 ของสำนักงานสถิติแห่งชาติ (สสช.) กล่าวไว้ว่า “หลายอาชีพจะถูกทดแทนด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ การจะอยู่รอดอย่างมั่นคงของทุกอาชีพต้องรู้จักปรับตัวให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป” คณะผู้วิจัยกล่าวพร้อมเสนอแนวทางการปรับตัวด้านอาชีพและทักษะสำคัญในการอยู่รอดในสังคมสูงวัย ที่ทุกคนควรเตรียมตัวเสียแต่วันนี้
ยิ่งสูงวัย ยิ่งเก๋า
บางกลุ่มอาชีพยิ่งอายุมากขึ้นประสบการณ์ความรู้ก็จะยิ่งมากกลุ่มนี้จะได้รับประโยชน์จากการเพิ่มทักษะทางปัญญา (cognitive skills) และทักษะการสื่อสาร (ฟัง พูด อ่าน เขียน) ตามขวบปีของชีวิตและการ สั่งสมประสบการณ์ เช่น บรรดานักบริหาร ครูอาจารย์ นักการตลาด และนักกฎหมาย ฯลฯ ยกตัวอย่างอาชีพนักการตลาดต้องรู้จักฟัง โดยเฉพาะฟังคำติชมจากลูกค้าต่อสินค้าและบริการ อาชีพนี้จำเป็นต้องฝึกฝนทักษะการรับฟังอย่างตั้งใจ เข้าใจและเห็นความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริงก่อนลงมือจัดการกับปัญหาหรือทำอะไรต่อ ทักษะการรับฟังด้วยหัวใจคือส่วนหนึ่งของทักษะการสื่อสารด้วยปัญญา ในความหมายนี้ซึ่งต้องอาศัยวินัยและวันเวลาเพียรปฏิบัติจนติดเป็นนิสัย
ยิ่งสูงวัย ยิ่งเฉา
เป็นกลุ่มอาชีพที่ยิ่งสูงวัยยิ่งหมดสภาพอาชีพกลุ่มนี้จะได้รับผลกระทบจากทักษะทางปัญญาที่ลดลง และทักษะทางกาย (physicalskills) ที่ถดถอย เช่น การรับรู้และตอบสนองความสามารถในการจำพละกำลัง ความคล่องแคล่วและความอดทนอาชีพกลุ่มนี้อาทิ เกษตรกร แรงงานก่อสร้าง ผู้ผลิตและควบคุมเครื่องจักรกลต่างๆ รวมทั้งคนงานเหมืองแร่และผู้ขับขี่ยวดยานและเครื่องจักรเคลื่อนที่ คนเหล่านี้ เมื่ออายุมากขึ้นความคล่องแคล่วความอดทน และการรับรู้และตอบสนองจะลดลง ทำให้ผลิตภาพในการทำงานลดลงตามอายุ กลุ่มนี้ต้องปรับตัวค่อนข้างมาก ซึ่งภาครัฐเองก็ต้องให้ความสำคัญและส่งเสริมการปรับตัวของคนในกลุ่ม อาชีพนี้
Gen Y + X อยู่อย่างไรในสังคมผู้สูงอายุ
ทักษะของวัยทำงานวันนี้ อีก 5 ปี อาจจะไม่เป็นที่ต้องการอีกต่อไป เนื่องจากเทคโนโลยีทำแทนได้ คนวัยทำงานต้องเร่งปรับตัว ยกระดับทักษะตนเองให้ทันต่อลักษณะงานและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป โดยใช้สูตร “RUN” คือ Reskill เรียนรู้ทักษะใหม่ในการทำงานที่ต่างไปจากเดิมUp skill พัฒนายกระดับทักษะเดิมให้ดีขึ้นNew skill สร้างทักษะใหม่ตามการเปลี่ยนแปลงของงานและเทคโนโลยี
4 เคล็ดลับสูงวัยอย่าง Wealthy & Healthy
หากอายุขัยเฉลี่ยของคนไทยอยู่ที่ราว 80 ปี นั่นหมายถึงอีก 20 ปีหลังเกษียณจำต้องมีรายได้ไม่ก็มีเงินออมไว้ใช้จ่ายสมมติ 20,000-30,000 บาท/เดือน เราต้องมีเงินออมแล้วอย่างต่ำ 10 ล้านบาท ซึ่งสำหรับหลายคนอย่าว่าแต่สิบล้านเลย เพียงหนึ่งล้านก็ไม่อาจเป็นไปได้ เพราะฉะนั้น แทนที่จะออมขาเดียว น่าจะเรียนรู้ให้เงินทำงานแทนเราด้วย
เคล็ดลับสูงวัยอย่างมีทรัพย์และสุขภาวะ 4 ข้อ ดังนี้
1.รู้จักลงทุน-ศึกษาและเริ่มทดลองซื้อขายหุ้นในตลาดหรืออาจลดความเสี่ยงด้วยการซื้อหน่วยลงทุนในกองทุนประเภทต่างๆ การรู้จักลงทุนด้วยวิธีเหล่านี้ให้โอกาสผลตอบแทนได้มากกว่าเงินออมปกติหลายเท่า
2.อาชีพเสริมหลังเกษียณ-แม้จะได้ค่าตอบแทนไม่มากเท่าวัยทำงาน แต่ก็ถือเป็นแหล่งรายได้ที่พอบรรเทาค่าใช้จ่ายประจำเดือนได้ไม่มากก็น้อย
3.รักษาสุขภาพ-อาการเจ็บป่วยมีรายจ่ายเสมอ เงินออมที่มีก็อาจพร่องลง เลือนหายไปกับสุขภาพที่ทรุดโทรมการรักษาสุขภาพให้แข็งแรงตามวัยย่อมเป็นผลดีต่อเงินในกระเป๋า
4.ดูแลจิตใจ-สุขภาพจิตที่ดีถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้สูงอายุทั้งช่วยลดความเสี่ยงต่อการเจ็บไข้ได้ป่วยและเพิ่มความเบิกบานในหัวใจ ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีคุณค่าต่อตนเองและผู้อื่น เช่น หมั่นหาโอกาสเรียนรู้สิ่งใหม่ที่ทำแล้วมีความอิ่มเอิบใจ กิจกรรมอาสาสมัครที่พอทำได้และไม่ทิ้งโอกาสแบ่งปันประสบการณ์ความรู้กับคนรุ่นหลัง รวมทั้งหลีกเลี่ยงบรรยากาศที่ชวนหดหู่
สัมมาชีพวัยเกษียณ
อาชีพวัยเกษียณที่ดีที่สุดสำหรับเราคืออาชีพที่ได้ใช้หรือต่อยอดจากทักษะความรู้ความสามารถที่เรามี เช่น นักธุรกิจวัยเกษียณก็อาจผันตัวเป็นนักลงทุนในตลาดหุ้น นักวิชาการหรือครูอาจารย์ก็น่าจะปรับตัวหันมาผลิตสื่อการสอนออนไลน์
และอันดับความจำเป็นท้ายสุดไม่ว่าจะอาชีพใด สำคัญที่สุดต้องเป็นอาชีพที่เราทำแล้วสุขใจ รู้สึกมีคุณค่า และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี