โควิดยังแผลงฤทธิ์ไม่หยุด
ดับเพิ่มอีก4ราย
ติดเชื้อพุ่ง1,443โคม่า223คน
‘อนุทิน’เจรจาซื้อวัคซีนไม่คืบ
ไฟเซอร์ผลิตไม่ทันส่งเดือนพ.ค.
สธ.ห่วง74คนติดเชื้อไม่เข้ารักษา
นายกฯสั่งขยายรพ.สนามเพิ่ม
ผู้ติดเชื้อโควิดไทยยังพุ่งวันเดียวเพิ่ม 1,443 ราย อาการหนัก 223 คนใช้ท่อช่วยหายใจ 55 คน เสียชีวิตอีก 4 ราย เปิดข้อมูล สธ.ยอดผู้ป่วยโยงสถานบันเทิงกระจาย 71 จังหวัดเฝ้าระวังเคสตลาดกลางกุ้งอยุธยา อธิบดีกรมการแพทย์ ยันหาเตียงให้คนกทม.ได้แน่ “อนุทิน”กุมขมับปัญหาเตียงในกทม. ย้ำผู้ป่วยปฎิเสธการเข้ารักษาในรพ.เป็นความผิด เพราะเป็นโรคอันตราย เผยเจรจาวัคซีนทางเลือกไม่คืบ ไฟเซอร์-ยี่ห้ออื่นผลิตส่งไม่ทันเดือนพ.ค. ไทยเลยมีแค่ซิโนแวค –แอสตร้าฯ วอน 74 คนติดเชื้อเข้ารักษาตัวในรพ. เพราะอาการโควิดไม่แน่นอน ด้านนายกฯสั่งเร่งฉีดวัคซีนที่ได้มา ขยายรพ.สนาม ย้ำไม่เคยปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน หมอพร้อมเปิดให้ลงทะเบียนรับวัคซีนได้ 1 พค. ยันสต๊อกยาฟาวิพิราเวียร์เพิ่ม 3.5 ล้านเม็ด น้ำยาตรวจพอใช้
เมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค.แถลงสถานการณ์ประจำวัน พร้อมภาพรวมการระบาดหลายจังหวัดทั่วประเทศ
ติดเชื้อ1,443-โคมา223-ใส่ท่อ55คน
โดยระบุว่า วันนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 1,443 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 1,441 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,328 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 113 ราย นอกจากนี้ เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 2 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 45,185 ราย หายป่วยสะสม 28,958 ราย อยู่ระหว่างรักษา 16,119 ราย ในจำนวนนี้มีผู้ป่วยอาการหนัก 223 ราย จำเป็นต้องใส่ท่อช่วยหายใจ 55 ราย
สลดตายวันเดียว4สะสม108ราย
ทั้งนี้ มีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่ม 4 รายคือ รายที่ 1 เป็นหญิงไทย อายุ 78 ปี อยู่กทม. เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง ไทรอยด์ พบติดเชื้อเมื่อวันที่ 3 เมษายน ไม่มีอาการ เริ่มมีอาการวันที่ 12 เมษายน กระทั่งเสียชีวิตวันที่ 17 เมษายน รายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 78 ปี อยู่กทม. มีอาชีพค้าขาย มีโรคประจำตัวเบาหวานและความดันโลหิตสูง มีอาการเมื่อวันที่ 11 เมษายน จากนั้นผลตรวจยืนยันเป็นโควิด-19 วันที่ 15 เมษายน และเสียชีวิตวันที่ 19 เมษายน รายที่ 3 เป็นหญิงอินเดีย อายุ 86 ปี เป็นผู้ป่วยติดเตียง มีโรคประจำตัวไทรอยด์ พบเชื้อโควิด-19 วันที่ 18 เมษายนและเสียชีวิตวันเดียวกัน และรายที่ 4 เป็นชายไทย อายุ 30 ปี อยู่ในกทม. มีโรคประจำตัวโรคอ้วน มีประวัติไปสถานบันเทิงย่านทองหล่อ มีอาการวันที่ 4 เมษายนผลตรวจยืนยันเป็นโควิดวันที่ 9 เมษายน มีอาการปอดอักเสบรุนแรง และอาการแย่ลง กระทั่งเสียชีวิตวันที่ 19 เมษายน. ขณะที่สถานการณ์โลก มีผู้ติดเชื้อสะสม 142,696,001ราย เสียชีวิตสะสม 3,043,015 ราย รวมยอดสะสมผู้เสียชีวิตจนถึงขณะนี้อยู่ที่ 108 ราย
คลัสเตอร์สถานบันเทิงลาม71จว.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม ศบค.ชุดเล็ก กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)รายงานการระบาดระลอกใหม่ พบข้อมูลผู้ป่วยยืนยันที่เชื่อมโยงสถานบันเทิง 71 จังหวัด และถ้าดูข้อมูลผู้ติดเชื้อตั้งแต่วันที่ 1- 19 เมษายน พบผู้ติดเชื้อในกทม.ที่เชื่อมโยงสถานบันเทิงมีถึง 1,583 ราย หรือคิดเป็น 40% ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดในกทม. ขณะที่จังหวัดอื่นมี 3,104 รายหรือคิดเป็น 25% ทั้งนี้ มีเพียง 6 จังหวัดที่ผู้ติดเชื้อไม่เชื่อมโยงสถานบันเทิงได้แก่ ชัยนาท ปัตตานี นราธิวาส ยะลา สตูล และระนอง โดยจากการสอบสวนโรคผู้มีประวัติเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง มีผู้ที่ให้ข้อมูล 73% และไม่ให้ข้อมูล 27% หากจำแนกผู้ที่ติดเชื้อกลุ่มนี้พบว่ามากที่สุดคือ นักเที่ยว รองลงมาคือ พนักงานในร้าน และยังพบอีกว่า ผู้ติดเชื้อกลุ่มนี้ 59.56% มีอาการ และไม่มีอาการ 40.44%
จับตาตลาดกุ้งให้ผู้ค้าประเมินตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การระบาดระลอกนี้แม้ส่วนใหญ่มาจากสถานบันเทิง แต่ที่ลืมไม่ได้คือ การติดเชื้อในตลาดที่เป็นปัจจัยหลักก่อนหน้านี้ ล่าสุดทีมตระหนักรู้สถานการณ์ของกรมควบคุมโรครับแจ้งว่า พบผู้ป่วยโควิดเป็นญาติของพนักงานร้านอาหารแห่งหนึ่งในตลาดกลางเพื่อการเกษตร จ.พระนครศรีอยุธยา เดินทางมาพื้นที่เสี่ยงใน กทม.ตั้งแต่วันที่ 11 เมษายนทำให้ญาติรับเชื้อและพนักงานของร้านรับเชื้อรวม 17 ราย และก่อนหน้านี้มีการตรวจหาเชื้อเชิงรุกในตลาดดังกล่าวไปแล้ว 742 ราย พบว่าติดเชื้อ 6 ราย ล่าสุดวันที่ 19 เมษายนตรวจแล้ว 594 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างรอผล โดยกรมอนามัยให้ผู้ประกอบการทั่วประเทศทำใบประเมินตัวเองเพื่อประเมินความเสี่ยง ซึ่งจะรายงานผลให้ทราบต่อไป
แบ่งผู้ป่วย3ระดับ-แดง/เหลืองนอนรพ.
นพ.ทวีศิลป์กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)รายงานให้ที่ประชุม ศบค.ทราบถึงการจัดการสถานที่รักษาผู้ติดเชื้อโควิดในกทม.ว่า จะบูรณาการโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สังกัด กทม. และสังกัดมหาวิทยาลัย เพื่อบริหารจัดการผู้ติดเชื้อ โดยแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ สีเขียวเป็นผู้ไม่มีอาการหรือมีอาการเล็กน้อย จะให้อยู่โรงพยาบาลสนามและฮอสปิเทล สีเหลือง เป็นผู้ป่วยที่อาการไม่รุนแรง แต่มีอาการเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว มีโรคประจำตัวคือ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง ไตเรื้อรัง หัวใจ เลือดสมอง เบาหวาน อ้วนเกิน 90 กิโลกรัม ตับแข็ง ภูมิคุ้มกันต่ำ รวมถึงผู้มีอายุเกิน 60 ปี สีแดง เป็นผู้มีอาการหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ปอดอักเสบรุนแรง มีภาวะปอดบวม การอิ่มตัวของเลือดน้อยกว่า 96% ความอิ่มตัวของเลือดลดลง 3% หลังออกแรง โดยสีเหลืองและสีแดงจะให้พักที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพรักษา โดยอธิบดีกรมการแพทย์ยืนยันว่าถ้ามีผู้ป่วยที่พบมาก่อนหน้านี้จะได้รับเตียง และหากมีเพิ่มขึ้นถึงวันละพันรายก็จะประสานหาเตียงให้ได้ต่อไป
โควิดรอบใหม่กระจายง่าย-รุนแรง
นพ.โอภาส พุทธเจริญ หัวหน้าศูนย์โรคอุบัติใหม่ทางคลินิก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย โพสต์ข้อสังเกตและภาพเอกซเรย์ปอดของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์ใหม่ผ่านเฟซบุ๊ก Opass Putcharoen ถึงการระบาดของเชื้อโควิด ระลอกเดือนเมษายนโดยมีรายละเอียดว่า ระลอกนี้เชื้อดุกว่าเดิม จากเคส 200กว่ารายของระลอกนี้ที่โรงพยาบาล 1.ปกติยทั่วไปถ้าเป็นเชื้อระลอกแรก 7 วันไปแล้ว เชื้อจะน้อยลงแม้ว่าตรวจ PCR บวก แต่จะเพาะเชื้อไม่ขึ้น แต่เชื้อของระลอกนี้ 10 วันแล้วยังเพาะเชื้อขึ้นอยู่ แสดงว่าเชื้ออยู่ในร่างกายได้นานขึ้น 2.รอบก่อนไม่ค่อยเห็นวัยรุ่นที่สุขภาพแข็งแรงเกิดปอดอักเสบ แต่รอบนี้พบมากขึ้นกว่าเดิม 3.หลังติดเชื้อไปแล้ว 1 สัปดาห์ คนที่เสี่ยงเกิดอาการรุนแรงจะเริ่มมีอาการให้เห็น แต่รอบนี้เร็วกว่าเดิมไม่ถึงสัปดาห์ก็เริ่มมีอาการมากขึ้น การอักเสบเกิดขึ้นเร็ว การให้ยาต้านไวรัสกับยาสเตียรอยด์ต้องพร้อม การวินิจฉัยปอดอักเสบต้องทำได้เร็ว
จับตาเคสหนักในไอซียูมากขึ้น
“4.ปริมาณเชื้อในโพรงจมูกและเสมหะมีมากกว่าเดิม เชื้อกระจายได้ง่าย 5.สัปดาห์นี้เป็นต้นไป เราจะเห็นเคสหนักในไอซียูมากขึ้น จากที่เห็นก็น่าจะสอดคล้องกับข้อมูลในประเทศอังกฤษที่มีสายพันธุ์ B117 ระบาด พบว่าควรมีวิธีเพื่อลดอัตราการเสียชีวิต ได้แก่ การป้องกันแพร่เชื้อในชุมชน ด้วยมาตรการต่างๆ รวมถึงการกระจายวัคซีนที่เป็นสิ่งที่สำคัญในการลดความรุนแรงของโรค”นพ.โอภาสกล่าว
เจรจาไฟเซอร์ไม่คืบส่งไม่ทันพค.
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุขเปิดเผยความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโควิด-19ว่า เมื่อวันที่ 19 เมษายน ตัวแทนบริษัท ไฟเซอร์ได้มาหารือ ซึ่งการเจรจาเรื่องวัคซีนนั้น มีความพยายามหารือกับผู้ผลิตหลายราย แต่ไม่มีบริษัทใดสามารถให้คำยืนยันถึงการผลิตและจัดส่งวัคซีนได้เดือนพฤษภาคม หากรับเงื่อนไขข้อตกลงร่วมกันได้ ยินดีที่จะสั่งซื้อ เพื่อสำรองไว้เป็นวัคซีนทางเลือก ซึ่งตอนนี้ก็มีเพียง บริษัท ซิโนแวค เท่านั้นที่จะส่งในเดือนพฤษภาคม และบริษัท แอสตราเซเนกา ที่ผลิตในไทย เท่านั้นที่สามารถผลิตและจัดส่งวัคซีนให้ได้ตามสัญญาที่กำหนดไว้คือ เดือนมิถุนายน พร้อมเตรียมขออนุมัติขยายไซต์การผลิตให้เพิ่มขึ้นด้วย ซึ่งทุกอย่างทำตามมาตรฐาน และแผนที่วางไว้ แต่ก็ยังเจรจากันต่อ ถ้าเขามีวัคซีนมา และเงื่อนไขอยู่ในสิ่งที่เรารับได้ก็พร้อมที่จะซื้อ เพราะหลายคนก็บอกว่าเราควรมีวัคซีนทางเลือก วัคซีนสำรอง จึงเจรจาอยู่
วัคซีนหลักแอสตร้าฯ-ซิโนแวค
“วัคซีนหลักของเราตอนนี้ยังเป็นแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตในประเทศไทย ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามกำหนดที่ตกลงกันไว้ในสัญญาจัดซื้อจัดหา และจากรายงานผู้เกี่ยวข้องที่ติดตามสายการผลิตของแอสตร้าฯ ทุกสายยังยืนยันว่าคุณภาพผลิตภัณฑ์ยังเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และภายในสัปดาห์นี้ก็จะส่งเอกสารให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พิจารณาโรงงาน หรือไซต์การผลิตในไทย ซึ่งก็คือบริษัทสยามไบโอไซเอน เป็นบริษัทผู้ผลิตตามขั้นตอน ไม่ได้ล่าช้า เราจะไปอนุมัติก่อนหน้านี้ไม่ได้ เนื่องจากผลิตยังไม่เสร็จ แต่ตอนนี้ผลิตกันออกมาแล้วอยู่ในขั้นตอนที่ต้องทำให้มั่นใจว่าความปลอดภัย ล็อต แรกที่จะออกมาวันนี้ ยังได้รับรายงานว่าเป็นไปตามกำหนดคือเดือนมิถุนายน”นายอนุทินกล่าว และว่า ขณะที่วัคซีนซิโนแวคที่เพิ่งเข้ามาใหม่อีก 1 ล้านโดส เมื่อวันที่ 10 เมษายน สัปดาห์นี้จะกระจายลงพื้นที่และฉีดให้บุคลากรแพทย์ ให้ครบทั้งรัฐและเอกชน เพื่อจะได้ไม่ต้องกังวลเวลาบุคลากรเข้าไปดูแลผู้ติดเชื้อ
ยันน้ำยาตรวจ-ยาฟาวิพิราเวียร์มีพอ
ส่วนเรื่องของน้ำยาตรวจโควิดไม่เพียงพอ เนื่องจากมีผู้มาตรวจหาเชื้อโควิดจำนวนมากนั้น นายอนุทินยืนยันว่า ได้สั่งซื้อและผลิตน้ำยาตรวจเพิ่มสำรองไว้มากกว่า 1 ล้านชุด เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาแน่นอน รวมถึงการสำรองยาฟาวิพิราเวียร์ ด้วย
มึนหาเตียงกทม.-ติดเชื้อไม่เข้ารพ.
นายอนุทินกล่าวอีกว่าปัญหาจัดการเตียง ให้ผู้ป่วยนั้น ยอมรับว่าปัญหาการบริหารจัดการในกทม. น่าปวดหัวที่สุด เพราะเป็นเมืองใหญ่ ไม่เหมือนต่างจังหวัดที่มีอสม.และช่วยเหลือโดยยืนยันว่าผู้ป่วยติดเชื้อทุกคนต้องได้พบแพทย์ ทั้งนี้ กรมการแพทย์รับเป็นผู้ดำเนินการและจัดคิวการรับบริการผู้ป่วย แบ่งเป็นสีเขียว เหลือง แดง คนที่ป่วยต้องอยู่ในรพ.คนที่มีอาการไม่รุนแรงเล็กน้อยอยู่ในรพ.สนาม ทั้งนี้ ผู้ป่วยไม่สามารถปฎิเสธรักษาได้ ถือว่ามีความผิด เนื่องจากเป็นโรค ที่ต้องการรักษาอย่างรวดเร็ว เพื่อลดการเจ็บป่วยรุนแรงและแพร่เชื้อ
ยันไม่ปิดกั้นเอกชนนำเข้าวัคซีน
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์หลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ว่า วันนี้รัฐบาลยกระดับมาตรการป้องกันโควิดระบาดระลอกใหม่ ซึ่งต้องรอประเมินผลใน 2 สัปดาห์ ส่วนกรณีมีการเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเอกชนนำเข้าวัคซีนนั้น ยืนยันว่า ตนให้สธ.ดำเนินการมาตลอด โดยตั้งคณะกรรมการฯขึ้นมาดูแล เพื่อให้ได้วัคซีนทางเลือกเข้ามาใช้ในประเทศไทย ซึ่งทำมาตั้งแต่ระบาดระยะแรก เมื่อได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัยแล้ว ก็เปิดโอกาสช่องทางให้หลายๆยี่ห้อเข้ามาเสนอขายวัคซีนให้เรา ขอให้เข้าใจตรงนี้ ไม่ใช่เพราะเราจองช้าหรือช้าเกินไป จำนวนน้อยเกินไป ทุกอย่างพัฒนาตามสถานการณ์ เราไม่อยากให้ประชาชนต้องเสี่ยง อย่างไรก็ตาม การประชุมครม.วันนี้ตนเร่งรัดให้ทุกจังหวัดเร่งฉีดวัคซีนที่ได้รับให้ครบเร็วที่สุด และรัฐบาลก็เตรียมวัคซีนสำรองไว้ด้วยในระยะต่อไป ให้ทั่วถึง ให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ให้ได้ ดังนั้น ที่วิจารกณ์กันว่ารัฐบาลไม่เปิดทางให้เอกชนจึงเป็นไปไม่ได้ แต่การดำเนินการเราไม่สามารถไปซื้อเหมือนซื้อยาปกติได้ เพราะเป็นวัคซีนที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉิน จำเป็นรัฐต้องเป็นผู้จัดหา
ผู้สื่อข่าวถามถึงการเข้าถึงวัคซีนของประชาชน นายกฯ กล่าวว่า วันนี้ได้เร่งรัดไปแล้วจึงทราบว่าในส่วนของแอปพลิเคชั่นหมอพร้อม กระทรวงสาธารณสุขจะเริ่มให้ลงทะเบียนวันที่ 1 พฤษภาคม เพราะต้องเตรียมการเพื่อให้เข้าถึงประชาชนทั้งประเทศโดยเร็ว
สธ.สต๊อกฟาวิพิราเวียร์3.5ล.เม็ด
พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวว่า ในส่วนยาฟาวิพิราเวียร์รัฐบาลเตรียมแผนจัดหาไว้แล้วโดยกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ก็ต้องใช้มาตรการเดิมคือ สวมหน้ากาก เว้นระยะห่าง และล้างมือ สำหรับแผนจัดหายาฟาวิพิราเวียร์เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2 ล้านเม็ด เดือนพฤษภาคม-มิถุนายน 1 ล้านเม็ด เดือนมิถุนายน- กรกฎาคม 5 แสนเม็ด ฉะนั้นเราจะสั่งซื้อยาฟาวิพิราเวียร์สำรองในสต๊อก 3.5 ล้านเม็ดให้ได้เร็วที่สุด ซึ่งวันนี้ทราบว่ายังมีพอใช้รักษาสต๊อกต่างๆที่เตรียมไว้หากสถานการณ์เร็วร้ายมากขึ้น ก็ต้องเพิ่มไปอีก
เมย.-พค.ซิโนแวคเข้าอีก1.5ล้านโดส
นายกฯกล่าวว่า สำหรับการเข้ามาของวัคซีนย้อนไปเดือนกุมภาพันธ์รวมเข้ามา 317,000 โดส แบ่งเป็นซิโนแวค 200,000 โดส แอสตราเซเนกา 117,000 โดส เดือนมีนาคมซิโนแวคเข้ามาอีก 800,000 แสนโดส เดือนเมษายนซิโนแวคเข้ามาอีก 1,000,000 โดส รวมเข้ามาแล้ว 2,117,000 โดส ตอนนี้ทำแผนแจกจ่ายไปทั่วประเทศ และขอให้เร่งฉีด ถ้าบุคคลากรแพทย์ ไม่พอ ขอให้ไปรวบรวมหมอ พยาบาล ที่มีความสามารถ มาช่วยกันฉีด ขณะเดียวกันโรงพยาบาลเอกชนก็พร้อมช่วยฉีด เพื่อให้เร็วขึ้น ส่วนวัคซีนที่ประมาณการไว้ที่จะเข้ามาและติดต่อไว้ขณะนี้คือ วันที่ 24 เมษายน ซิโนแวคจะเข้ามาอีก 5 แสนโดส เดือนพฤษภาคมซิโนแวคเข้ามาอีก 1 ล้านโดส แต่ในส่วน 1 ล้านโดสตรงนี้ต้องรอนโยบายรัฐบาลจีนด้วย เพราะการนำออกจากประเทศจีน
เจรจาไฟเซอร์ส่งให้5-10ล.ช่วงกค.
ในส่วนของแอสตราเซเนกาที่ผลิตในประเทศไทยนั้น นายกฯกล่าวว่า จะเริ่มทยอยส่งตั้งแต่เดือนมิถุนายน 4-6 ล้านโดส และเพิ่มจำนวนตั้งแต่เดือนกรกฎาคมจนถึงสิ้นปี 2564 จนครบ 61 ล้านโดส บวกกับเราที่จัดหาเพิ่มเติมเป็นวัคซีนทางเลือกคิดว่าน่าจะพอ ขณะนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติกำลังเจรจากับไฟเซอร์ ประเทศอังกฤษ มีความเป็นไปได้ส่งให้ได้ช่วงเดือนก.ค.ถึงสิ้นปี 64 ประมาณ 5-10 ล้านโดส ขณะนี้กำลังรอใบเสนอราคาและเงื่อนไขอยู่ ซึ่งเรามีวัคซีนอีกหลายยี่ห้อ อยู่ในขั้นตอนติดต่อ รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ
วอนคนติดเชื้อเชื่อหมอเข้ารพ.รักษา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวด้วยว่า เรื่องใดตนพูดออกไป พูดในฐานะเป็นผู้นำรัฐบาลและเป็นนายกรัฐมนตรี วันนี้ย้ำเรื่องโรงพยาบาลสนามขอทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ต้องเตรียมให้ได้ทุกพื้นที่ และประชาชนที่ติดเชื้อขอให้เชื่อหมอ และเข้าใจตรงกันว่า หลายคนอยากจะเข้าโรงพยาบาลของรัฐ โรงพยาบาลเอกชนแต่เนื่องจากสิ่งอำนวยการความสะดวกการและรองรับไม่เพียงพอ และจำเป็นต้องรักษาเตียงให้กับผู้ป่วยโรคอื่นด้วย จึงต้องตั้งโรงพยาบาลเอกชนเป็นโรงพยาบาลสนาม ซึ่งยังมีเตียงว่างอยู่จำนวนมากพอสมควรและพร้อมที่ตั้งเพิ่มขึ้นใหม่ อาจอยู่ไกลบ้านท่านบ้าง เราคงจะไปดึงดันอยู่โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชนอย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องนึกถึงคนอื่นด้วย รัฐบาลพยายามทำเต็มที่
ใช้คู่สายด่วน1668สางปมเตียงกทม.
วันเดียวกัน นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุขแถลงความคืบหน้าการแก้ปัญหาจัดหาเตียงว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมามีปัญหาจัดเตียงให้ผู้ป่วย เนื่องจากตัวเลขผู้ติดเชื้อมีจำนวนสูงขึ้น แต่ขณะนี้สถานการณ์เตียงได้จัดการเป็นระบบแล้ว โดยร่วมกับสถานพยาบาลทุกสังกัด โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ส่วนต่างจังหวัดไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องจัดการเตียง การจัดการเตียงให้ผู้ป่วยในกทม.เรียบร้อยแล้ว ดำเนินการผ่านคู่สาย 1668 และมีสายด่วนอื่นด้วยคือ 1330 สปสช. และ1669 สายด่วน(ศูนย์เอราวัณ) เป็นหลักจัดหาเตียงในกทม. ซึ่งขณะนี้รองนายกฯได้เพิ่มเรื่องอาสากู้ภัยมาช่วยเรื่องรถรับส่งผู้ป่วยด้วย
สำหรับการจัดหาเตียงวันที่ 19 เมษายน แบ่งเป็นรอเตียงจากการรับสาย 1668 จำนวน 509 คน แบ่งเป็นการสว็อปเชื้อรพ.รัฐ หรือแล็บเอกชนเป็นกลุ่มสีเขียว 218 คน ส่งไปรพ.กทม.แล้ว 29 คน ส่งไปรพ.เลิดสิน 96 คน รอส่งวันนี้ 73 คน ส่งรพ.สนาม ท่าฉลอม 20 คน ส่วนสว็อปรพ.รัฐหรือแล็บเอกชนนอก รพ. เป็นกลุ่มสีเหลือง 60 คน สีแดง 3 คน รอส่งศูนย์ประสานเตียง รพ.ราชวิถี และสว็อป รพ.เอกชน รวมสีเขียว เหลือง แดง รวม 228 คน ส่งแล้ว 219 คน รอส่งวันนี้ 9 คน นอกจากนี้ มีรอเตียงจากสถาบันบำราศนราดูร 95 คน แบ่งเป็นสีเขียว 90 คนส่งไปรพ.เลิดสินแล้ว สีเหลือง 5 คน รอส่งศูนย์ประสานเตียง ราชวิถี
74รายไม่เข้ารพ.-สธ.ห่วงอาการหนัก
“ ส่วนการจัดการเตียงที่ติดต่อไม่ได้มี 74 รายขอย้ำว่า เตียงยังมีว่างอยู่ในแต่ละส่วน เพียงแต่กลุ่มนี้มีความต้องการที่อาจไม่ตรงกับสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขจัดให้ จึงอยากขอความร่วมมือว่า หลักการของสธ.วันนี้ ผู้ติดเชื้อทุกคนต้องเข้ารับการรักษาในรพ. รพ.สนาม หรือฮอสพิเทลตามเกณฑ์สีเขียว เหลือง แดง ทุกกรณี ที่ต้องเข้าเพราะกังวลเรื่องการกระจายเชื้อ เช่น ถ้าท่านดื้อไม่ยอมเข้ารับการรักษา คิดว่าไม่มีอาการ แต่จะอยู่บ้าน ก็เห็นอยู่แล้วว่า 2-3 วันที่ผ่านมาน้าค่อม ชวนชื่น ให้สัมภาษณ์อาการไม่มีอะไร แต่วันนี้ต้องเข้าห้องไอซียู เพราะอาการไม่แน่นอน นี่คือสิ่งที่เรากังวล เราขอร้อง เราต้องการให้ท่านเข้าระบบเพื่อดูแลสุขภาพ ดังนั้น 74 รายตัวอย่างตรงนี้ขอให้เข้ามาสู่ระบบ” นายสาธิต กล่าว และว่า นอกจากนี้ ยังมีประเด็นรพ.สนามขอให้เชื่อฟังกติกา กฎเกณฑ์ของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข หากคนไข้ไปอยู่รพ.สนาม แต่ไม่ปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ก็จะเป็นปัญหาอีก แต่หากให้ความร่วมมือจะช่วยให้การจัดการดูแลดีขึ้น
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี