โพลเปิดมุมมองปชช. 50%เชื่อเกิน3เดือน‘โควิด’ระลอก3ดีขึ้น 58.89%ผวามีระลอก4แน่
25 เมษายน 2564 “สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 2,082 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 16-22 เมษายน 2564 หัวข้อ “คนไทยกับโควิด-19 ระลอก 3” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นกรณีการแพร่ระบาดของโควิด -19 ระลอก 3 ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา สร้างความวิตกกังวลและเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงมาตรการป้องกันตลอดจนแนวทางแก้ปัญหาของรัฐบาล ซึ่งมีหลายพื้นที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย สรุปผลได้ ดังนี้
1. ประชาชนคิดอย่างไร กับ การแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3
อันดับ 1 การแพร่ระบาดกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆอย่างรวดเร็ว 74.29%
อันดับ 2 เห็นใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้เกี่ยวข้องต้องทำงานอย่างหนัก 67.56%
อันดับ 3 กลัวว่ารัฐบาลจะรับมือไม่ไหว /ควบคุมสถานการณ์ไม่ได้ 67.28%
อันดับ 4 ทุกคนต้องหมั่นดูแลตัวเอง เช่น อยู่บ้าน ล้างมือ 63.58%
อันดับ 5 เป็นห่วง/คำนึงถึงความปลอดภัยของคนในครอบครัว 62.76%
2. ประชาชนคิดว่าสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ทำให้คนตื่นตระหนก วิตกกังวลมากกว่าครั้งที่ผ่านมาหรือไม่
อันดับ 1 ตื่นตระหนก วิตกกังวลมากกว่า 68.40%
อันดับ 2 ตื่นตระหนก วิตกกังวลเท่าเดิม 19.60%
อันดับ 3 ตื่นตระหนก วิตกกังวลน้อยกว่า 12.00%
3. ประชาชนคิดอย่างไร กับ ความรุนแรงของการแพร่ระบาดโควิด-19 ในประเทศไทยทั้ง 3 ระลอก
อันดับ 1 ระลอก 3 รุนแรงมากที่สุด 70.51%
อันดับ 2 ทั้ง 3 ระลอกรุนแรงพอๆกัน 23.34%
อันดับ 3 ระลอก 1 รุนแรงมากที่สุด 4.47%
อันดับ 4 ระลอก 2 รุนแรงมากที่สุด 1.68%
4. ประชาชนมีวิธีการป้องกันโควิด-19 ระลอก 3 ในครั้งนี้อย่างไรบ้าง
อันดับ 1 สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา /ล้างมือบ่อยๆ 83.90%
อันดับ 2 หลีกเลี่ยงสถานที่เสี่ยง /มีคนจำนวนมาก 79.72%
อันดับ 3 เว้นระยะห่างทางสังคม 76.50%
อันดับ 4 งดออกจากบ้าน/อยู่บ้าน 71.60%
อันดับ 5 ปฏิบัติตามประกาศของสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด 65.93%
5. ประชาชนคิดว่ารัฐบาลจะรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ได้หรือไม่
น่าจะรับมือได้ 39.19%
ไม่แน่ใจ 35.73%
ไม่น่าจะรับมือได้ 25.08%
6. ประชาชนคิดว่าต้องใช้ระยะเวลาประมาณเท่าใด สถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 จึงจะดีขึ้น
มากกว่า 3 เดือน 50.58%
3 เดือน 22.19%
2 เดือน 17.82%
1 เดือน 9.41%
7. ประชาชนคิดว่าโควิด-19 จะมีการระบาดระลอก 4 อีกหรือไม่
มี 58.89%
ไม่แน่ใจ 37.61%
ไม่มี 3.50%
*หมายเหตุ ผู้ตอบสามารถระบุความคิดเห็นได้มากกว่า 1 เรื่อง (ค่าร้อยละจึงคำนวณในแต่ละข้อ)
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า จากผลการสำรวจประชาชนมองว่าการระบาดระลอกนี้รุนแรงขยายวงกว้างรวดเร็วกว่าที่ผ่านมา ถึงแม้จะเริ่มคุ้นชินกับสถานการณ์ แต่ยังกังวลเรื่องการติดเชื้อและผลกระทบที่จะเกิดขึ้น รัฐบาลควรเพิ่มมาตรการเชิงรุก การตรวจหาเชื้ออย่างทั่วถึง และการเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ การรับมือที่ล่าช้าเช่นนี้จึงกังวลว่าอาจจะมีการระบาดระลอก 4 ตามมา
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ขวัญหทัย เชิดชู คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า การระบาดของ COVID-19 ระลอก 3 สายพันธุ์อังกฤษที่มีความรุนแรงและติดได้ง่ายขึ้น ทำให้ประเทศไทยต้องเจอกับวิกฤตเหมือนช่วงต้นปี 2020 ทำไมจึงเกิดซ้ำกับคนไทยอีกครั้ง เราต้องปรับในมุมมองของกลุ่มผู้ลงทุนและนักท่องเที่ยวต่างชาติ เขาเลือกที่จะเดินทางหรือเลือกลงทุนในกลุ่มประเทศที่มีการฉีดวัคซีนเยอะที่สุด ที่มี Mass Vaccination เพราะกลุ่มประเทศเหล่านี้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ (Herd Immunity) ไม่ได้เลือกไปในกลุ่มประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อน้อย
“ต้องยอมรับว่าวิสัยทัศน์ในการบริหารจัดการวัคซีน COVID ที่หลงประเด็นของรัฐบาล พลาดเรื่องการจัดหาวัคซีน ดั่งคำพูดที่ว่า No Vaccine No Money น่าจะใช่ ซึ่งสอดคล้องกับผลโพลที่รัฐบาลน่าจะรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ระลอก 3 ครั้งนี้ได้เพียง 39.19% และประชาชนไม่แน่ใจถึง 35.73% เมื่อไม่มีการเร่งฉีดวัคซีนในประเทศให้เกิน 50% ของจำนวนประชากรทั้งหมด ประเทศเราก็จะไม่มีภูมิคุ้มกันหมู่ และรายได้หลักของประเทศคือการท่องเที่ยว เมื่อเป็นอย่างนี้ เราจะเปิดประเทศได้อย่างไร ยิ่งฉีดวัคซีนให้ประชากรช้าเท่าไร ยิ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศมากเท่านั้น เสียหายมหาศาล” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ขวัญหทัย กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี