โควิด"เบตง"ดับรายแรก พบมีโรคประจำตัว ก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเบตง ด้วยอาการรู้สึกเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ มีไอ ก่อนพบติดเชื้อโควิด และเสียชีวิต ขณะที่ผู้ว่าฯ ยะลาสั่งปิดสถานที่ในพื้นที่ชั่วคราวเพื่อสกัดการแพร่ระบาดแล้ว

เมื่อวันที่ 26 เม.ย.64 ในพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อให้การปฏิบัติการในการค้นหาผู้ติดเชื้อโควิด-19 เชิงรุกฯ และให้เป็นไปตามมาตรการ การควบคุมวิกฤตโควิด-19 อย่างเด็ดขาด  ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดยได้ทำการยกระดับในการสแกนตัวบุคคลในการเดินทางเข้าพื้นที่เขตอำเภอเบตง ภายหลังจากมีผู้ติดเชื้ออย่างต่อเนื่องในพื้นที่ จำนวน 8 ราย

ข่าวแจ้งว่า ล่าสุดมีเคสผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ผู้ป่วยเพศชาย อายุ 63 ปี 10 เดือน  โดยผู้ป่วยมีโรคประจำตัว ซึ่งผู้ป่วยมีประวัติเกี่ยวกับโรคไตวายและได้เข้ารับการรักษาตัวที่ โรงพยาบาลเบตง เมื่อวันที่ 15 เม.ย. 2564ที่ผ่านมา โดยมีอาการ รู้สึกเหนื่อยง่าย นอนไม่หลับ มีไอ แพทย์ได้ทำการ วินิจฉัยเบื้องต้น  Pneumonia  โดยได้ทำการสุ่มเก็บตัวอย่างหาเชื้อโควิด เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 2564ที่ผ่านมา

ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าพบเชื้อโควิด-19 เมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2564 จึงได้ทำการย้ายผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในตึก cohort ของโรงพยาบาลเบตง ต่อมา เมื่อวันที่ 25 เม.ย. 2564 เวลา 06.45 น.ผู้ป่วยได้เสียชีวิตลงและได้ทำการฌาปนกิจในวันเดียวกันทันทีโดยทีมแพทย์ไม่ให้ญาติเข้าไปเกี่ยวข้องเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

ขณะที่เมื่อวานนี้ นายชัยสิทธิ์ พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้มีหนังสือสั่งการให้มีการปิดสถานที่เป็นการชั่วคราวเพื่อปฏิบัติการค้นหาเชิงรุกในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในเขตท้องที่อำเภอเบตง ซึ่งในส่วนของพื้นที่อำเภอเบตง มีผู้ติดเชื้อในระลอกเดือนเมษายน รวมจำนวน 8 ราย และมีผู้เสียชีวิตแล้ว จำนวน 1 ราย จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการค้นหาเชิงรุกในด้านสาธารณสุขอย่างเข้มข้น เพื่อให้สามารถควบคุมไม่ให้การแพร่ระบาดของเชื้อโรคโควิด-19 ในพื้นที่ขยายเป็นวงกว้าง กระทบต่อความเป็นอยู่และคุณภาพชีวิตของประชาชน ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดยะลา เห็นชอบให้ปิดสถานที่ในเขตท้องที่อำภอเบตงเป็นการชั่วคราว เพื่อการปฏิบัติการค้นหาเชิงรกในพื้นที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของโรค ประกอบด้วย สถานที่ท่องเที่ยว สนามเด็กเล่น สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกายฟิตเนส สระว่ายน้ำ สนุ้กเกอร์ ร้านเกม ร้านอินเตอร์เน็ต ห้องสมุดสาธารณะ สถานที่กวดวิชา ร้านเสริมสวย แต่งผม ตัดผมหรือตัดเล็บ สถานที่สักหรือเจาะผิวหนังหรือส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย คลินิกเวชกรรมเสริมความงาม สถานประกอบกิจการอาบน้ำ อบไอน้ำ อบสมุนไพร สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ และสถานประกอบการนวดแผนไทย นวดฝ่าเท้า

ทั้งนี้ หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้ถือเป็นความผิดต้องรับโทษตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มีผลตั้งแต่วันที่ 27 เมษายน 2564 ถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2564