“แรงงานเมียนมา” ทะลักชายแดนกาญจนบุรีต่อเนื่อง วันนี้รวบอีก 48 ราย สารภาพเดินเลาป่าจาก “ทวาย” มา 7 วัน จ่ายค่าหัวนายหน้าเพื่อนร่วมชาติ 1.3-2 หมื่นบาท ก่อนมุ่งหน้าไปทำงานพื้นที่ชั้นใน
27 เมษายน 2564 จากนโยบายของนายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี (ผวจ.กาญจนบุรี) , พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 ค่ายสุรสีห์ , พล.ต.ต.วรณัน สุขเจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี , พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ , พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ , พ.ต.อ.พงษกร อุปพงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี และนายธนณัฎฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอเมืองกาญจนบุรี ให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจที่อยู่เส้นทางตามแนวชายแดน ไทย-เมียนมา ให้ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นเพื่อเฝ้าระวังป้องกันและปราบปรามการลักลอบหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยของแรงงานชาวเมียนมาโดยผิดกฎหมาย ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19
ทั้งนี้ โดยเฉพาะเส้นทางถนนสาย 323 ด่านเจดีย์สามองค์-สังขละบุรี-ทองผาภูมิ-ไทรโยค-กาญจนบุรี และเส้นทางด่านถาวรบ้านพุน้ำร้อน ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี รวมทั้งช่องทางธรรมชาติตลอดแนวชายแดนไทย-เมียนมา ระยะทาง 371 กิโลเมตร
จากนโยบายดังกล่าวล่าสุดเมื่อเวลา 14.30 น.วันนี้ 27 เมษายน 2564 พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ รับแจ้งว่า เจ้าหน้าที่หมวดลาดตระเวน (มว.ลว.) ที่ 4 ประจำจุดตรวจร่วมช่องเขาหนีบ หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่กองร้อยเคลื่อนที่เร็ว (ร้อย.คร.) กองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการข่าวกองกำลังสุรสีห์ เจ้าหน้าที่ทหารชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.) กองกำลังสุรสีห์ ที่ 105 เจ้าหน้าที่ร้อยทหารพราน (ร้อย.ทพ.)ที่ 1115 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองกาญจนบุรี รวมทั้งผู้ใหญ่บ้านหมู่ 14 ต.บ้านเก่า ได้ร่วมกันจับกุมแรงงานชาวเมียนมาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายขณะหลบซ่อนตัวอยู่ที่บริเวณชายป่าบ้านประตูด่าน หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี จำนวน 48 ราย เป็นชาย 21 ราย หญิง 27 ราย
จากการทั้งหมดไม่มีเอกสารแสดงตน และมีกระเป๋าสัมภาระพร้อมที่จะเดินทางครบทุกคน หลังจากคุมตัวเอาไว้ได้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้ทำการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้นไม่พบอุณหภูมิร่างกายสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียส
จากการสอบสวนกลุ่มแรงงานเบื้องต้นทราบว่าทั้งหมดเดินทางมาจาก จ.ทวาย ประเทศเมียนมา โดยใช้เวลาในการเดินทางลัดเลาะไปตามป่าเขาเป็นเวลานานถึง 7 วันกว่าจะลักลอบข้ามเข้ามาประเทศไทยได้ สำหรับผู้นำพาเป็นชาวเมียนมาด้วยกัน เมื่อมาถึงจุดพักคอยบริเวณชายป่าบ้านประตูด่าน ผู้นำพาจึงเดินทางข้ามแดนกลับไปยังประเทศเมียนมา โดยแจ้งว่าจะมีคนนำรถมารับ โดยแรงงานทั้งหมดจะเดินทางไปทำงานในพื้นที่ กทม. , จ.นครปฐม , จ.สมุทรสาคร รวมทั้ง จ.ราชบุรี ส่วนค่าหัวนั้นได้จ่ายให้กับนายหน้าที่เป็นชาวเมียนมาด้วยกันไปแล้วคนละ 13,000-20,000 บาท แต่สุดท้ายก็ต้องมาถูกจับกุมตัวเสียก่อน
หลังจากแรงงานให้การยอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวแรงงานทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะส่งให้ ตม.กาญจนบุรี เพื่อผลักดันกลับประเทศต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนกรณีการจับกุมแรงงานชาวเมียนมาได้ที่บริเวณป่าละเมาะท้องที่ หมู่ 8 ต.ศรีมงคล อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมานั้น ได้จำนวน 54 คน นอกจากจับกุมแรงงานชาวเมียนมาจำนวนดังกล่าวได้แล้ว เจ้าหน้าที่ยังสามารถจับกุมกลุ่มผู้ร่วมขบวนการที่เป็นผู้นำพาชาวไทยได้อีก จำนวน 4 คน ประกอบไปด้วย 1.นายเดชา อายุ 38 ปี อยู่ อ.วังเจ้า จ.ตาก 2.นายวิรัช อายุ 45 ปี อยู่ อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี 3.นายปัณณธร อายุ 25 ปี อยู่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี และ 4.นายเจนณรงค์ อายุ 29 ปี อยู่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี พร้อมรถยนต์กระบะยี่ห้อ หมายเลขทะเบียนกาญจนบุรี มีนายเดชา เป็นคนขับ , รถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียนกาญจนบุรี มีนายวิรัช เป็นคนขับ มีนายปัณณธร นั่งมาด้วยกัน และรถยนต์กระบะทะเบียนกาญจนบุรี มีนายเจนณรงค์ เป็นคนขับ
ทั้ง 4 ราย ถูกดำเนินคดีในข้อหา ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นการจับกุม ส่วนแรงงาน จำนวน 54 คน ถูกดำเนินคดีในข้อหา เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และนอกจากนี้ผู้นำพาชาวไทยทั้ง 4 คน รวมทั้งแรงงานจำนวน 54 คน ยังถูกดำเนินคดีในข้อหา ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ พ.ศ.2558 อีก 1 ข้อหาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี