โฆษกศาล ฯระบุศาลสั่งปรับคนไม่สวมหน้ากากอนามัย 9 คดี ปรับเงินไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาลพิจารณาความหนักเบา และพฤติการณ์แห่งคดี ช่วงโควิดนำเทคโนโลยีมาร่วมใช้การพิจารณา ลดเวลา ลดค่าใช้จ่าย อำนวยความสะดวกแก่ปชช.
เมื่อวันที่ 28 เม.ย.นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล โฆษกศาลยุติธรรม ได้กล่าวถึงภาพรวมของการพิจารณาคดีของศาลยุติธรรมทั่วประเทศกรณีบุคคลไม่สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่นอกเคหสถานหรือสถานที่พำนักอันเป็นการฝ่าฝืนประกาศของจังหวัดต่าง ๆ ว่า สำหรับศาลยุติธรรม ได้เริ่มรวบรวมสถิติคดีลักษณะดังกล่าวแล้วนอกจากที่มีการฟ้องคดีและมีคำพิพากษาไปแล้วคือที่ศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จำนวน 1 คดี จำเลย 1 คน
ล่าสุดตั้งแต่วันที่ 26 เม.ย. มีรายงานคดีเข้ามาอีกในศาลเขตพื้นที่ต่าง ๆ รวม 4 ศาล จำนวน 8 คดีด้วยกัน โดยศาลจังหวัดเวียงสระ จ.สุราษฎร์ รายงานว่าเมื่อวันที่ 26 เม.ย. มียื่นฟ้องเข้ามา 1 คดี จำเลย 2 คน ศาลลงโทษปรับคนละ 2,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับ 1,000 บาท และวันที่ 27 เม.ย.มีรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดเวียงสระมีฟ้องเข้ามาอีก 1 คดี จำเลย 1 คน ศาลลงโทษปรับ 1พันบาท เช่นเดียวกับเมื่อวันที่ 26 เม.ย.
ส่วนในวันที่ 27 เม.ย. ที่ศาลแขวงพระนครศรีอยุธยา ยื่นฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับจำเลยคนละ 2,000 บาท
ส่วนที่ศาลจังหวัดยะลาฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 4,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพลดโทษให้กี่งหนึ่งคงปรับจำเลยคนละ 2,000 บาท และที่ศาลจังหวัดเบตง จ.ยะลา ฟ้อง 2 คดี จำเลยคดีละ 1 คน ศาลลงโทษปรับจำเลยคนละ 2,000 บาท จำเลยรับสารภาพลดโทษให้กึ่งหนึ่งคงปรับคนละ 1,000 บาท
โฆษกศาลยุติธรรมกล่าวอีกว่า สำหรับการลงโทษปรับจำเลยที่มีความแตกต่างกันนั้น เนื่องจากผู้พิพากษาสามารถใช้ดุลพินิจพิจารณาพิพากษาตามพฤติการณ์แห่งคดีของแต่ละคดีได้ ซึ่งอาจมีรายละเอียดและความหนักเบาแห่งการกระทำความผิดที่แตกต่างกัน ดังนั้นการพิพากษาลงโทษจึงเป็นไปได้ที่จะไม่เท่ากัน
อย่างไรก็ตามขอย้ำกับประชาชนทั่วประเทศว่าขอให้ติดตามข่าวสาร การประกาศของทางราชการอยู่เสมอเพื่อจะได้ปฏิบัติตามคำสั่งได้อย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัยทั้งของตัวเองและของผู้อื่น
ในส่วนของศาลยุติธรรมนั้นช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 สำนักงานศาลยุติธรรมมีการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อช่วยสนับสนุนงานการพิจารณาตัดสินคดีของผู้พิพากษา เพื่อลดการเดินทางของคู่ความที่จะต้องเดินทางมาศาลในทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่ในชั้นของการยื่นคำร้อง คำขอต่าง ๆ ไปจนกระทั่งถึงการสืบพยานสามารถดำเนินการผ่านระบบออนไลน์ได้ ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้ออกประกาศแนวทางการปฏิบัติให้ศาลยุติธรรมทั่วประเทศดำเนินการแล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี