ตะครุบอีก 40 พม่า จ่ายค่าหัวนับหมื่น-จ้องทำงาน 4 จว. คายหมดเส้นทางมุดเข้าไทย
2 พฤษภาคม 2564 สถานการณ์การลักลอบเข้าเมืองของกลุ่มแรงงานผิดกฎหมายชาวเมียนมา ด้านชายแดน จ.กาญจนบุรี ยังคงต้องเฝ้าระวัง เนื่องจากยังคงมีแรงงานผิดกฎหมายชาวเมียนมาลักลอบหนีเข้าเมืองอย่างต่อเนื่อง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : ทะลักไม่หยุด! จับ-ผลักดันกลับทันที ’38 เมียนมา’หนีเข้าไทยฝั่งสังขละบุรี)
ล่าสุดวันนี้ (2 พฤษภาคม 2564) พ.อ.เฉลิมพล สังข์ต้อง รอง ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กองกำลังสุรสีห์ (กกล.สุรสีห์) เปิดเผยว่า ปัจจุบันแรงงานชาวเมียนมาได้ลักลอบข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เพิ่มขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายได้สนธิกำลังร่วมกันออกหาข่าวและลาดตระเวนป้องกันกันอย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยเรื่องนี้ พล.ต.บรรยง ทองน่วม ผบ.พล.ร.9 กกล.สุรสีห์ , พ.อ.ยุทธนา มีเจริญ ผบ.ฉก.ลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจลาดหญ้า กกล.สุรสีห์ ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงตามแนวชายแดน จ.กาญจนบุรี ตลอดเส้นทาง 371 กิโลเมตร ติดตามเฝ้าระวังเพื่อป้องกันอย่างใกล้ชิด
ต่อมาเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารหมวดลาดตระเวน (มว.ลว.) ที่ 4 ประจำจุดตรวจร่วมช่องเขาหนีบ หมู่ 14 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ร่วมกับกองร้อยเคลื่อนที่เร็ว (ร้อย.คร.) กกล.สุรสีห์ , ชุดปฏิบัติการข่าว กกล.สุรสีห์, ทหารชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน (ชป.กร.) กองกำลังสุรสีห์ ที่ 105, ร้อยทหารพราน (ร้อย.ทพ.)ที่ 1115 ได้จับกุมแรงงานชาวเมียนมาได้ที่บริเวณชายป่าเชิงเขาสันแดนท้องที่บ้านพุน้ำร้อน หมู่ 12 ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้จำนวน 8 คน เป็นชาย 3 คน หญิง 5 คน
“ที่สำคัญครั้งนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้นำพาได้ ขณะกำลังจอดรถกระบะรอรับไปรับแรงงานมุ่งหน้าไปทำงานในพื้นที่ มหาชัย จ.สมุทรสาคร เป็นชาย 2 คน ทราบชื่อคือนายโอ๊ด และนายดานัย โทเค ชาวกะเหรี่ยง สำหรับแรงงานทั้ง 8 คนนั้น เดินทางมากจากเมืองปาโก ที่อยู่ทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองย่างกุ้ง ประเทเมียนมา โดยใช้เวลาเดินเท้าเข้ามาเป็นเวลานาน 7-8 วัน” พ.อ.เฉลิมพล กล่าว
พ.อ.เฉลิมพล เปิดเผยอีกว่า ต่อมาเวลาประมาณ 19.00 น.ของวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทหารชุดหมวดลาดตระเวนประจำจุดกรวดน้ำเกริ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่อำเภอสังขละบุรี และชุดปฏิบัติการทางเรือ ได้ทำการจับกุมผู้กระทำผิดลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นแรงงานชาวเมียนมาขณะหลบซ่อนตัว เพื่อรอการเคลื่อนย้ายได้ที่บริเวณร่องน้ำชายป่าบ้านทิโคร่ง หมู่ 4 ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี ที่พิกัด MS 502714 จำนวน 32 คน เป็นชาย 13 คน หญิง 19 คน
จากการสอบถามทราบว่าแรงงานมาจาก จ.เมาะละแหม่ง จ.ปะโค จ.เย จ.จะเอ็งซีจี รวมทั้ง จ.พะอาง และ จ.ตะโถ ประเทศเมียนมา โดยแรงงานงานทั้งหมดได้ติดต่อกับนายหน้าที่อาศัยอยู่ประเทศเมียนมาให้นำพาข้ามแดนเข้ามาทำงานในพื้นที่ จ.ชลบุรี จ.สมุทรสาคร จ.ราชบุรี และ จ.นครปฐม ซึ่งแรงงานที่ถูกจับกุมนั้นมีญาติทำงานอยู่ตามจังหวัดข้างต้นอยู่แล้ว โดยเมื่อไปถึงทางญาติที่ทำงานอยู่จะเป็นผู้จ่ายเงินให้กับนายหน้าที่เป็นชาวเมียนมาคนละ 12,000-20,000 บาท โดยแรงงานได้นัดหมายกับผู้นำพาไปรวมตัวกันที่ชายแดนฝั่งอำเภอพญาตองซู ประเทศเมียนมา ตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา เมื่อถึงช่วงกลางคืนผู้นำพาที่ชำนาญเส้นทางได้นำพาเดินลัดเลามาตามชายป่า เพื่อหลบเลี่ยงด่านกรวดน้ำเกริ๊ก หมู่ 8 ต.หนองลู
เมื่อหลบเลี่ยงด่านตรวจมาได้ ผู้นำพาชาวเมียนมาได้ขับรถมารับแล้วนำไปส่งริมทาง เพื่อให้เดินเท้าลัดเลาะหลีกเลี่ยงด่านตรวจสะพานรันตี หมู่ 1 ต.หนองลู อีกครั้งหนึ่ง จากนั้นจึงมาหลบซ่อนตัวเพื่อรอคนมารับไปทำงาน แต่สุดท้ายก็มาถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวได้เสียก่อน
สำหรับผลการตรวจวัดอุณหภูมิขั้นต้นไม่พบผู้ใดอุณหภูมิเกิน 37.5 องศา จากนั้นจึงนำตัวส่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านเมียนมา จ.กาญจนบุรี และการพิจารณาส่งตัวแรงงานที่ถูกจับกุมได้ทั้งหมดกลับประเทศต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี