เป็นประจำทุกๆ ปี ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะมีนโยบายให้ส่วนราชการในสังกัดดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ที่มีผลงานดีเด่น สาขาอาชีพ/ประเภทที่กำหนดเป็นเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณ และเผยแพร่ผลงานดีเด่นให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จัก อีกทั้งเป็นการเสริมสร้างให้เกิดขวัญกำลังใจในการสร้างผลงานที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมยิ่งขึ้น สำหรับในส่วนของกรมส่งเสริมสหกรณ์นั้น ขุนเกษตรา ได้รับการเปิดเผยจาก นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ว่า ในปี 2564 กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ดำเนินการคัดเลือกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติโดยกำหนดคุณสมบัติว่าจะต้องมีผลการดำเนินงานมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี และต้องมีข้อมูลย้อนหลัง (งบการเงิน) เพื่อการตรวจสอบไม่น้อยกว่า 3 ปี ต้องเป็นสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรที่ผ่านระดับมาตรฐานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ต้องไม่มีข้อบกพร่อง และไม่มีข้อสังเกตของผู้สอบบัญชี หากเป็นสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ที่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลดีเด่นแห่งชาติมาแล้ว จะต้องไม่น้อยกว่า 5 ปี นับจากปีที่ได้รับรางวัล จึงมีสิทธิ์เข้ารับการคัดเลือกได้ ซึ่งการแบ่งประเภทสหกรณ์ดีเด่น มีทั้งสหกรณ์ที่อยู่ในภาคการเกษตรและสหกรณ์นอกภาคการเกษตร ได้แก่ สหกรณ์การเกษตรทั่วไป สหกรณ์โคนม สหกรณ์นิคม สหกรณ์ประมง สหกรณ์ผู้ใช้น้ำ สหกรณ์ผู้ผลิตยางพารา สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์ร้านค้า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน สหกรณ์บริการ และสหกรณ์ในพื้นที่โครงการพระราชดำริหรือพื้นที่โครงการหลวง ส่วนการคัดเลือกกลุ่มเกษตรกรดีเด่น แบ่งออกเป็น กลุ่มเกษตรกรทำนา กลุ่มเกษตรกรทำสวน กลุ่มเกษตรกรทำไร่ กลุ่มเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ และกลุ่มเกษตรกรทำประมงหรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ
ทั้งนี้ ในปี 2564 มีสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 6 แห่ง ประกอบด้วย 1.สหกรณ์การเกษตรไชยา จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี 2.สหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์คพัฒนานิคม จำกัด จังหวัดลพบุรี 3.สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขพัทลุง จำกัด จังหวัดพัทลุง 4.ร้านสหกรณ์พนักงานโรงพยาบาลบ้านแพ้ว จำกัด จังหวัดสมุทรสาคร 5.สหกรณ์บริการไออาร์พีซี จำกัด จังหวัดระยอง และ 6.สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรวมน้ำใจท่ายาง จำกัด จังหวัดเพชรบุรี ส่วนกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2564 จำนวน 2 แห่ง คือ 1.กลุ่มเกษตรกรทำนากุดประทาย จังหวัดอุบลราชธานี และ 2.กลุ่มเกษตรกรปลูกหม่อนเลี้ยงไหมดงบัง จังหวัดชัยภูมิซึ่งเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ ที่ได้รับการคัดเลือกจะได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ณ พลับพลาที่ประทับ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง
นายวิศิษฐ์ ให้ข้อมูลอีกว่า กรมส่งเสริมสหกรณ์มีแนวทางในการพัฒนาและยกระดับให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติเหล่านี้เป็นตัวอย่างให้กับสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรอื่นๆ ได้เข้ามาศึกษาเรียนรู้ และนำไปปรับใช้กับการพัฒนาการดำเนินงาน โดยจัดทำผลงานและทำเนียบเพื่อเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จัดเวทีให้สหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การบริหารจัดการ รวมทั้งเทคนิควิธีในการให้สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรมีส่วนร่วมในการทำธุรกิจและร่วมกิจกรรมของกลุ่ม มีการจัดประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เชิญไปเป็นวิทยากร เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ให้ความรู้แก่สหกรณ์ต่างๆและเปิดโอกาสให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรอื่นไปศึกษาดูงานกับสหกรณ์ที่ได้รางวัลดีเด่นแห่งชาติ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสร้างเครือข่ายในขบวนการสหกรณ์
ในตอนท้าย ท่านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ยังได้ฝากถึงสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรว่า การพัฒนาสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกร ควรจะมีการประเมินองค์กรของตนเองอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกปี โดยใช้เกณฑ์การประเมินในการคัดเลือกสหกรณ์และกลุ่มเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ เพื่อประเมินองค์กรของตนเองว่าควรจะมีการพัฒนาหรือควรปรับปรุงในด้านใด แล้วนำผลที่ได้มาพัฒนาปรับปรุงปรับใช้กับการบริหารงานของตนเอง คิดค้นกิจกรรมและสวัสดิการอื่นๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของสมาชิก และส่งเสริมให้สมาชิกมีส่วนร่วมในการทำธุรกิจกับกลุ่มมากขึ้น พร้อมทั้งขอเชิญชวนให้ส่งผลการประเมินตนเองตามเกณฑ์การคัดเลือกฯ ไปยังจังหวัด เพื่อคัดเลือกเป็นสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกรดีเด่นในแต่ละระดับต่อไป
ขุนเกษตรา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี