คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ มีมติปิด 2 หมู่บ้าน ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง เป็นเวลา 14 วัน หลังพบมีผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม จากการเลี้ยงสังสรรค์ งัดมาตรการเข้มใครมาพื้นที่บุรีรัมย์ต้องกักตัว ขณะทั้งจังหวัดยอดผู้ป่วยสะสมพุ่ง 111 ราย
เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2564 นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมด้วยนายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ และนายภูวดล กิตติวัฒนาสาร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบุรีรัมย์ ร่วมกันแถลงข่าวถึงสถานการณ์ และมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไว้รัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ที่ห้องประชุมสนามช้างอารีน่า ต.อิสาณ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบุรีรัมย์ มีมติกำหนดให้บ้านสาวเอ้ หมู่ที่ 2 และบ้านหนองไผ่ หมู่ที่ 12 ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ เป็นพื้นที่ควบคุม ห้ามมิใดผู้ใดเข้าไป หรือออกจากพื้นที่ ทั้ง 2 หมู่บ้าน เป็นเวลา 14 วัน ผู้ใดฝ่าฝืน มีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 จำคุกไม่เกินหนึ่งปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.2564 เวลา 18.00 น.เป็นต้นไป
ทั้งนี้ มอบหมายให้นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ นายอำเภอคูเมือง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นเจ้าหน้าที่ไปปฏิบัติน้าที่กำกับควบคุมดูแลให้ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดอย่างเคร่งครัด
นายธัชกร กล่าวว่า เพื่อที่จะให้มีการหยุดยั้งการแพร่ระบาด ซึ่งการแพร่ระบาดในจังหวัดบุรีรัมย์ เกิดจากการที่นำเชื้อมาจากพื้นที่ต่างๆ เดิมกำหนดเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม หรือเป็นพื้นที่สีแดง แต่กรณีที่เกิดขึ้นในวันนี้เชื้อได้มาจากจังหวัดสระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่นอกการควบคุมในระยะเวลานั้น คือวันที่ 16 เม.ย. ก็ปรากฏว่ามีมาตรการที่ไม่เข้มงวด ทำให้สามารถที่จะเข้ามาได้ก็ไปดำเนินการตรวจหาเชื้อแล้วสามารถร่วมกิจกรรมอะไรต่างๆ ได้
อย่างไรก็ดี เพื่อที่จะให้จังหวัดบุรีรัมย์ ปราศจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างเฉียบขาดและเฉียบพลัน คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดได้มีมติ ผู้ใดที่เข้ามาในจังหวัดบุรีรัมย์ หรือมาพำนักในจังหวัดบุรีรัมย์ จะต้องกักตัว 14 วัน ก่อนเป็นลำดับแรก ซึ่งเป็นมาตรการที่เข้มงวด ไม่ว่าจะมาจากพื้นที่ไหน ทั้งพื้นที่สีแดง สีส้ม หรือแม้แต่พื้นที่สีเขียว ก็ต้องปฏิบัติตามทุกคน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดบุรีรัมย์ หรือในประเทศ เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ซึ่งขณะนี้ จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วยติดเชื้อสะสมแล้ว 111 ราย เป็นสิ่งที่จะต้องต่อสู้อย่างมีสติ จึงอยากให้ทุกภาคส่วนมีสติ ซึ่งเราจะต้องก้าวผ่านพ้นไปด้วยกัน
ด้าน นายพิเชษฐ พืดขุนทด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า การติดเชื้อของคนในพื้นที่จังหวัดบุรีรัมย์ การมาของคนต่างจังหวัด หลังสงกรานต์ ก็ผ่านระยะช่วงนั้นมา ก็เป็นช่วงที่เริ่มมีการแพร่เชื้อจากคนต่างจังหวัดเข้าสู่คนบุรีรัมย์ และก็จากคนบุรีรัมย์มาสู่คนบุรีรัมย์ด้วยกันเอง ขณะนี้ปัญหาที่พบและน่าเป็นห่วงที่สุด พบอยู่ในพื้นที่บ้านสาวเอ้ หมู่ที่ 2 คุ้มโนนเต่าทอง ต.หินเหล็กไฟ อ.คูเมือง ซึ่งเป็นพื้นที่มีการจัดงานสังสรรค์กัน ในช่วงวันที่ 16-18 เม.ย.2564 โดยมีประชาชนชาว จ.สระแก้ว มาร่วมงานด้วยในช่วงนั้น
หลังจากนั้นก็พบว่าประชาชนชาว จ.สระแก้ว มีการติดเชื้อโควิด-19 และก็มีการค้นพบว่าในพื้นที่บ้านโนนเต่าทอง มีการติดเชื้อโควิด-19 ทั้งหมด 7 ราย มีทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ อีกส่วนหนึ่งก็พบที่บ้านโนนสาวเอ้ ซึ่งเป็นหมู่บ้านเดียวกัน แต่คนละคุ้มบ้าน อีก 1 ราย พื้นที่ตรงนั้น มีประชากรเกือบ 1,000 คน เกือบ 500 หลังคาเรือน ถือว่าเป็นพื้นที่มีความเสี่ยงในการที่จะระบาดเพิ่มขึ้นในพื้นที่ จึงมีความจำเป็นของมติคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด ในการที่จะปิดหมู่บ้าน เพื่อที่จะสอบสวนโรคว่ามีการระบาดเพิ่มเติมในพื้นที่หรือไม่ และเพื่อเป็นการยับยั้งไม่ให้มีการแพร่กระจายของเชื้อออกไปยังพื้นที่อื่นๆ
นายพิเชษฐ กล่าวต่อว่า จึงมีความจำเป็นว่าคนบุรีรัมย์ ต้องช่วยกันยับยั้งไม่มีการติดเชื้อภายในจังหวัด จากคนบุรีรัมย์สู่คนบุรีรัมย์เอง โดยที่เราไม่ทราบว่า ตอนนี้การระบาดอยู่ที่ไหนบ้าง จึงขอความร่วมมือประชาชนงดในเรื่องของการสังสรรค์ ร่วมกับครอบครัวอื่น โดยเป็นมติของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดในการที่จะขอความร่วมมือตรงนี้
"อยากให้คนบุรีรัมย์ อดทนอีกครั้งหนึ่ง เพื่อยับยั้งไม่ให้มีการระบาดของเชื้อไปยังพื้นที่ในจังหวัดบุรีรัมย์อย่างแพร่หลาย ถ้าหากว่าเราผ่านพ้นช่วงนี้ไปได้ การระบาดก็จะลดน้อยลง จึงขอความร่วมมือทุกคน" นพ.สสจ.บุรีรัมย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี