“โคราช” รับข่าวดียอดผู้ป่วยเพิ่มเพียง 7 ราย ขณะที่ “ตม.นครราชสีมา” แจ้งข้อหาเพิ่ม “ชาวยูกันดา” ติดเชื้อโควิดในข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย หลังโดนข้อหา “ปกปิดไทม์ไลน์” ไปก่อนแล้ว
เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 ที่ห้องประชุมสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครราชสีมา นายวิเชียร จันทรโณทัย ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา (ผวจ.นครราชสีมา) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด โดยมี พญ.อารีย์ เชื้อเดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) , พ.ต.ท.หญิง อุดมลักษณ์ สวัสดิ์กลาง สารวัตรตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนครราชสีมา (สว.ตม.จว.นครราชสีมา) ร่วมประชุม พร้อมแถลงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา
นายวิเชียร ระบุว่า วันนี้ในพื้นที่พบผู้ป่วยเพิ่ม 7 ราย ถือเป็นข่าวดีที่จังหวัดนครราชสีมาพบผู้ติดเชื้อน้อยที่สุดในรอบ 7 วัน แต่เราไม่ได้นิ่งนอนใจ ไม่ได้ประมาท ยังคงคุมเข้มการปฏิบัติตามมาตรการอย่างเคร่งครัด โดยผู้ป่วยรายใหม่ทั้ง 7 ราย ตรวจพบที่อำเภอเมือง 4 ราย อ.ปักธงชัย 2 ราย และ อ.สีดา 1 ราย ขณะนี้พบผู้ป่วยใน 28 อำเภอ รวมผู้ป่วยสะสม 661 ราย หายป่วยสะสม 257 ราย เสียชีวิตสะสม 1 ราย คงเหลือรักษาตัว 403 ราย สำหรับข้อมูล รพ.สนาม มีผู้ป่วย 24 ราย แบ่งเป็นชาย 8 ราย หญิง 16 ราย คงเหลือเตียงว่างใน รพ.สนาม 76 เตียง
สำหรับมาตรการในขณะนี้ยังคงขอความร่วมมือให้พี่น้องประชาชนงดออกนอกเคหสถาน หรืองดเดินทาง ในช่วงเวลา 23.00 น -04.00 น อีกทั้งผู้ที่เดินทางมาจากพื้นที่สีแดงเข้ม จะต้องรายงานตัวต่อ อสม.และหน่วยงานภาครัฐ
นอกจากนี้ขอประชาสัมพันธ์ขอความร่วมมือไปยังประชาชนอย่าปกปิดข้อมูลไทม์ไลน์ ขอให้แจ้งกับแพทย์ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ อสม. แพทย์ รพ.ส่งเสริมสุขภาพตำบล ตามข้อเท็จจริง เพื่อเราจะได้ดูแลแก้ไขและช่วยกันป้องกันให้เข็มแข็ง
ในส่วนที่ผู้ประกอบการเดินรถในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา มีการยื่นขอเสนอให้ทางคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดพิจารณาให้ประกาศหยุดการเดินรถในพื้นที่ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงนั้น เรื่องนี้คณะกรรมการโรคติดต่อได้ประชุมหารือกันแล้ว ยังไม่เห็นชอบ และยังไม่มีความจำเป็นจะต้องประกาศหยุดเดินรถโดยสาร เนื่องจากยังมีประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางจะได้รับความเดือดร้อน หากจะมีการประกาศหยุดเดินรถจากพื้นที่เสี่ยงนั้น ส่วนกลางต้องเป็นหน่วยงานที่ประกาศหยุดการเดินทางรถ เนื่องจากยังมีรถโดยสาร รถไฟ จากจังหวัดอื่นๆที่ไม่ใช่พื้นที่สีแดงเข้ม ยังคงวิ่งผ่านจังหวัดนครราชสีมาอยู่ หากจะหยุดการเดินรถเพื่อควบคุมโรค ยังคงไม่มีเหตุผลพอ แต่หากเป็นความเดือดร้อนด้านอื่น ก็ให้ผู้ประกอบการเดินรถส่งข้อเสนอมาให้คณะกรรมโรคติดต่อจังหวัดพิจารณา
ด้าน พ.ต.ท.หญิง อุดมลักษณ์ เปิดเผยในที่ประชุมถึงกรณีชาวยูกันดา ที่ติดเชื้อโควิด-19 ที่เข้ามาในพื้นที่ อำเภอเสิงสาง จ.นครราชสีมา ว่า จากการตรวจประวัติพบว่าชาวยูกันดารายนี้เดินทางเข้ามาในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2561 เข้ามาด้วยวีซ่าประเภทนักท่องเที่ยว สามารถอยู่ในราชอาณาจักรได้ 60 วัน ซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 24 ตุลาคม 2561 แต่จากข้อมูลได้มีการแจ้งที่พักอาศัยเมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2562 ที่ จ.สุราษฏร์ธานี หลังจากนั้นไม่ได้มีการแจ้งขอทำเรื่องอยู่ต่อหรือมีการรายงานตัวภายใน 90 วัน เพื่อแจ้งที่อยู่ แต่อย่างใด ซึ่งทาง ตม.นครราชสีมา ได้ทราบเรื่องการเข้ามาในพื้นที่ จ.นครราชสีมา จากไทม์ไลน์ของผู้ป่วยชาวยูกันดา และไม่มีการแจ้งเรื่องเข้ามาในพื้นที่ หรือแจ้งเรื่องการมีภรรยาเป็นชาวเสิงสางแต่อย่างใด
“ทาง ตม.นครราชสีมา ได้ดำเนินการกล่าวโทษร้องทุกข์ต่อชาวยูกันดารายนี้แล้วที่ สภ.เสิงสาง ในข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายหมาย ผิดตามมาตรา 81 พ.ร.บ.คนเข้าเมือง มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ ส่วนภรรยาชาวอำเภอเสิงสางจะถูกดำเนินคดีด้วยหรือไม่ ต้องมีการสอบสวนว่าได้ให้ที่พำนักแก่ชาวต่างชาติคนนี้หรือไม่ หากทะเบียนบ้านเป็นชื่อบุคคลใดเป็นเจ้าบ้านก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายในฐานไม่แจ้งว่ามีบุคคลต่างด้าวเข้ามาพัก ภายใน 24 ชม.” พ.ต.ท.หญิง อุดมลักษณ์ กล่าว
วันเดียวกัน พนักงานสอบสวน สภ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ได้รวบรวมพยานหลักฐานข้อกล่าวหาปกปิดข้อมูลอันเป็นอุปสรรคต่อการสอบสวนและการควบคุมโรคติดต่อและแจ้งความอันเป็นเท็จต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคเป็นเหตุให้เกิดความเสียหาย คือบุคลากรทางการแพทย์ต้องกักตัวเอง ตามมาตรา 34 (6)และมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ตามข้อกำหนด ออกตามข้อ 9 ออกตาม พระราชกำหนด (พ.ร.ก.) ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับที่17) ข้อ4 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137 ล่าสุดได้รับแจ้งจากตำรวจตรวจคนเข้าเมืองนครราชสีมา ปรากฏชายสัญชาติยูกันดา เข้ามาในราชอาณาจักรไทยในฐานะนักท่องเที่ยวตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2561 แต่ไม่พบประวัติการขออยู่ต่อในราชอาณาจักรแต่อย่างใด จึงแจ้งข้อกล่าวหาความผิด พ.ร.บ. คนเข้าเมือง มาตรา 81 บุคคลต่างด้าวเดินทางอยู่ในราชอาณาจักรโดยการสิ้นสุด อัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี