กระทรวงเกษตรฯ ผนึกกระทรวงพาณิชย์ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิตตั้งอนุกรรมการและคณะทำงานจัดทำแผนขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ใน 4 กลุ่มสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการของตลาด และสร้างแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิตพาณิชย์ตลาด” เพิ่มความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ มาตรฐานความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับให้โดนใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ
ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อ
ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตลาดนำการผลิต รวมทั้งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการย่อย 4 คณะ ประกอบด้วย1. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างและใช้ข้อมูลจากฐานเดียวกัน (Single Big Data) เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้มีความเชื่อมโยงกันและสามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน เข้าถึงได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว 2. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างแพลตฟอร์มกลาง “เกษตรผลิต พาณิชย์ตลาด” โดยตั้งเป้าหมายหลักเพื่อให้เกิดการซื้อขายสินค้าเกษตรมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ 3. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการสร้างความเชื่อมั่นด้านคุณภาพ มาตรฐาน ความปลอดภัยและการตรวจสอบย้อนกลับ ตั้งเป้ายกระดับสินค้าเกษตรและอาหารไทยไปสู่ระดับมาตรฐานพื้นฐานตามที่ตลาดต้องการ และ 4. คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด วางแนวทางพัฒนาคุณภาพสินค้าเกษตร รวมถึงพัฒนาหลักสูตรให้แก่บุคลากร ตอบโจทย์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดต่อไป
ด้านนายเข้มแข็ง ยุติธรรมดำรง อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่าในส่วนของคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาด ได้มีมติแต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ จำนวน 4 คณะ ใน 4 กลุ่มสินค้า ประกอบด้วย 1.สินค้าข้าว พืชไร่และพืชสวน 2.สินค้าผลไม้ 3.สินค้าปศุสัตว์ และ 4.สินค้าประมง ซึ่งคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าข้าว พืชไร่ และพืชสวน เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 3 ชนิด ได้แก่ สินค้าข้าว มันสำปะหลัง และยางพารา โดยกำหนดสินค้าข้าว และมันสำปะหลังเป็นสินค้านำร่อง (Quick win) ในการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนดังกล่าว และจะส่งเสริม พัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการและผู้ส่งออกเพื่อรองรับการค้ายุคใหม่ สร้างความสามารถในการแข่งขันของสินค้าและผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ สนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สร้างแรงจูงใจให้คนรุ่นใหม่หันมาทำการเกษตรมากขึ้น รวมถึงส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากวัสดุเหลือใช้จากทางการเกษตรมาผลิตเป็นสินค้านวัตกรรมและพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษา เพื่อพัฒนาทักษะสร้างองค์ความรู้ด้านต่าง ๆ เช่น กลยุทธ์ด้านการตลาดทั้งออฟไลน์ ออนไลน์ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การสร้างแบรนด์ เป็นต้น
ส่วนคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าผลไม้ เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 4 ชนิด คือ ทุเรียน มะม่วง มังคุด และลำไย โดยวางแนวทางการพัฒนาคนให้สามารถผลิตสินค้ามีคุณภาพได้มาตรฐาน มีระบบการจัดการหลังการเก็บเกี่ยวของทุเรียน มะม่วง มังคุด และลำไยที่เหมาะสม สร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรและองค์กรเกษตรกร พัฒนาเกษตรกรให้เป็นผู้ประกอบการด้านการเกษตร มีความรู้ในการสร้างมูลค่าเพิ่มและ
แปรรูปสินค้าเกษตร และเข้าถึงนวัตกรรมและเทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่ ทั้งนี้ คณะทำงานฯ ได้กำหนดให้ทุเรียนเป็นสินค้านำร่อง (Quick win) ปี 2564-2565 ในการจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนดังกล่าว มุ่งเน้นการป้องกันและแก้ไขปัญหาทุเรียนด้อยคุณภาพออกสู่ตลาด (ภาคตะวันออก) เริ่มตั้งแต่ช่วงก่อนฤดูผลไม้
ออกจะต้องจัดฝึกอบรมพัฒนาเจ้าหน้าที่และเกษตรกรชาวสวนทุเรียนทุกระดับทั้งมือตัด มือคัด สถาบันเกษตรกร วิสาหกิจชุมชน Smart Farmer, Young Smart Farmer,ผู้ประกอบการ (ล้ง) สมาพันธ์ทุเรียนฯ เป็นต้น
สำหรับคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าปศุสัตว์ เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 6 ชนิด คือ นมโค เนื้อโคเนื้อสุกร ไก่เนื้อ ไข่ไก่ และเนื้อแพะ โดยได้วางแนวทางการพัฒนาคนให้มีองค์ความรู้เทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่สามารถผลิตสินค้ามีคุณภาพ ได้มาตรฐาน พัฒนาผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ให้มีมูลค่าเพิ่มและตรงตามความต้องการของตลาด ส่วนคณะทำงานจัดทำแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์สินค้าประมง เห็นชอบกำหนดกลุ่มสินค้าเป้าหมาย จำนวน 2 ชนิด คือ กุ้งขาว และกุ้งก้ามกราม โดยแนวทางการพัฒนาเริ่มจากต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ เพิ่มขีดความสามารถการผลิตของเกษตรกรให้เป็นไปตามมาตรฐานการผลิตที่ระเบียบและกฎหมายกำหนด พัฒนาสายพันธุ์ให้เป็นไปตามความต้องการของตลาด
ทั้งนี้ มติที่ประชุมยังได้มอบหมายให้คณะทำงานฯ ปรับปรุงแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนการพัฒนาคนและผลิตภัณฑ์ให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นโดยแบ่งกลุ่มคนภาคเกษตรในอนาคตของประเทศไทย ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มเศรษฐกิจพอเพียง/กลุ่มพื้นฐาน/กลุ่มอนุรักษ์ 2) กลุ่มคนที่ทำเกษตรแปรรูป 3) กลุ่มผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร/ผู้บริโภค และ 4) กลุ่มนักวิชาการ ภาคประชาสังคม (NGO) เพื่อจัดทำแผนพัฒนากำลังคนภาคเกษตรในอนาคตต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี