โควิดยังแรงป่วยพุ่ง2,112ราย
ตายเพิ่ม15คน
โคม่า1,042-ใส่ท่อหายใจ343
ศบค.รับสายพันธุ์บราซิลเข้าไทย
เปิดรพ.สนามที่อิมแพ็ค5พันเตียง
กทม.ฉีดวัคซีน50เขต/6หมื่นต่อวัน
คลัสเตอร์ปทุมวันพบติดเชื้อนับพัน
อย.ยันยังไม่มีนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์
ไทยติดเชื้อใหม่ 2,112 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 74,900 ราย อยู่ระหว่างรักษา 30,222 ราย อาการหนัก1,042 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 343 ราย ดับเพิ่ม 15 รายนายกฯนั่ง ผอ.ศูนย์แก้โควิดกทม.-ปริมณฑล ดึง8 อาจารย์หมอ เป็นที่ปรึกษา กทม.เร่งกระจายวัคซีน 50 เขต 7 ล้านคน ตั้งเป้าฉีดวันละ 6 หมื่น เฝ้าระวังคลัสเตอร์ปทุมวัน พบติดเชื้อแล้วนับพัน เผยสายพันธุ์บราซิลเข้าไทยแล้ว อยู่ในที่กักตัว ด้านอย.ยันไทยยังไม่นำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ ย้ำใครนำเข้าต้องมาขึ้นทะเบียนกับอย.ไม่เช่นนั้นถือว่ามีโทษทั้งจำทั้งปรับ ขณะสธ.ใช้อิมแพ็ค เมืองทองตั้งรพ.สนาม รองรับผู้ป่วย กลุ่มสีเหลืองกว่า 5 พันเตียง ลดความแออัดรพ.ผู้ป่วยอาการหนัก
เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงสถานการณ์ผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตประจำวัน
ติดเชื้อยังพุ่ง2,112คน-โคมา1,042ราย
โดยระบุว่า วันนี้ไทยมีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,112 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,107 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,955 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 152 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 5 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 74,900 ราย หายป่วยสะสม 44,360 ราย เฉพาะวันนี้หายป่วย 1,886 ราย อยู่ระหว่างรักษา 30,222 ราย อาการหนัก 1,042 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 343 ราย
ตายอีก15สะสม318คน-กทม.พุ่ง789
ส่วนผู้เสียชีวิตนั้น วันนี้มีเพิ่ม 15 ราย เป็นชาย 8 ราย หญิง 7 ราย อายุเฉลี่ย 50-86 ปี ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว และมี 1 ราย ที่มาโรงพยาบาลโดยไม่ทราบว่าเป็นผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในวันดังกล่าว ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 318 ราย อย่างไรก็ตาม สำหรับ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันที่ 5 พฤษภาคม ได้แก่ กทม. 789 ราย นนทบุรี 249 ราย สมุทรปราการ 226 ราย ชลบุรี 110 รายและสุราษฎร์ธานี 65 ราย ตัวเลขผู้ติดเชื้อในกทม.และปริมณฑลยังเป็นตัวเลขก้อนใหญ่ โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อของกทม.และปริมณฑลวันที่ 5 พฤษภาคมรวมกัน 1,314 ราย ขณะที่สถานการณ์โลกมีผู้ติดเชื้อสะสม 154,973,048 เสียชีวิตสะสม 3,241,024 ราย
ตั้งศูนย์สู้โควิด กทม.-ปริมณฑล
พญ.อภิสมัยกล่าวว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค.ลงนามคำสั่งตั้งศูนย์อำนวยการแก้ไขโควิด-19 พื้นที่กทม.และปริมณฑล ตามที่พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) เสนอรายละเอียด โดยศูนย์ดังกล่าวมีนายกฯ เป็นผอ.ศูนย์ฯ แบ่งการทำงานเป็น 5 ฝ่ายได้แก่ ฝ่ายอำนวยการ ฝ่ายปฏิบัติการการตรวจเชิงรุก ฝ่ายบริหารจัดหารผู้ติดเชื้อและกลุ่มเสี่ยง ฝ่ายบริหารจัดการพื้นที่ ฝ่ายบริหารจัดการการฉีดวัคซีน โดยให้ผอ.เขต ผอ.ศูนย์ควบคุมการแพร่ระบาดโควิดในระดับเขต จะทำงานร่วมกับศูนย์ใหญ่ บริหารจัดการต่างๆ ให้สอดคล้องกัน
เร่งคุมระบาดคลัสเตอร์ปทุมวัน
นอกจากนี้ นายกฯยังลงนามคำสั่งแต่งตั้ง คณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 เพื่อทำหน้าที่ให้คำปรึกษา ความเห็น และข้อเสนอแนะทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับมาตรการสาธารณสุขและแนวทางป้องกันแก้ปัญหาสถานการณ์ ฉุกเฉินอันเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด - 19 ประกอบด้วย 1.นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร 2. นพ.อุดม คชินทร 3. นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา 4. นพ.สุทธิพงศ์ วัสรสิทธุ 5.นพ.ปิยะมิตร ศรีธรา 7.นพ.อนันต์ ศรีเกียรติขจร 7. พญ.จิรายุ เอื้อวรากุล และ 8.นพ.ไพโรจน์ จงบัญญัติเจริญ
พญ.อภิสมัยกล่าวอีกว่า ส่วนการทำงานในกทม. ผอ.เขตปทุมวันรายงานการลงพื้นที่ตรวจสอบเชิงรุกระหว่างวันที่ 5 เมษายน-4 พฤษภาคมว่าได้ค้นหาเชิงรุกในชุมชนเขตปทุมวันไปแล้ว 30,000 ราย พบผู้ติดเชื้อ 1,586 ราย เฉพาะวันนี้ในเขตปทุมวัน พบผู้ติดเชื้อ 162 ราย ซึ่งทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการรักษาแล้ว และมีผู้สัมผัสใกล้ชิด 304 ราย ทั้งหมดให้กักตัวที่บ้าน ถ้าพบผู้ติดเชื้อจะคัดแยกและส่งต่อไปรักษาตามอาการ อีกทั้ง สำนักอนามัยยังจัดถุงยังชีพช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ด้วย
กทม.ลุยฉีดวัคซีน7ล้าน/ตั้งเป้า6หมื่น/วัน
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (5 พฤษภาคม) กทม.มีแผนตรวจเชิงรุกในชุมชนบ่อนไก่ เคหะบ่อนไก่ ให้ได้วันละ 2,000 คนต่อวัน และตรวจเชิงรุกในสถานประกอบอีก 1,000 คนต่อวัน รวมแล้วค้นหาเชิงรุกวันละ 3,000 คนต่อวัน แผนดังกล่าวจะดำเนินการถึงวันที่ 10 พฤษภาคม เช่นเดียวกับเขตคลองเตย ที่จะค้นหาเชิงรุกและฉีดวัคซีนควบคู่กันไป โดยสัปดาห์นี้ กทม.จะคุยเรื่องกระจายวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ซึ่งทั้ง 50 เขตมีประชาชนนอย่างน้อย 7 ล้านคน จะระดมฉีดให้ได้วันละ 60,000 รายต่อวันเป็นอย่างน้อย
สายพันธุ์บราซิลมาไทยแล้วอยู่ที่กักตัว
ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานพบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลในไทย พญ.อภิสมัยกล่าวว่า ตอนนี้บุคคลที่เดินทางเข้าไทยจะจัดให้อยู่ในสถานกักตัวของรัฐ ซึ่งนอกจากตรวจหาเชื้อแล้ว ทางกระทรวงสาธารณสุขได้เพิ่มมาตรการตรวจหาสายพันธุ์ด้วย ยอมรับว่าตอนนี้พบเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์บราซิลในสถานกักตัวของรัฐ แต่ยังไม่มีการพบในชุมชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกฯได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจเพื่อการบูรณาการด้านการแพทย์และสาธารณสุข ภายใต้ศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด - 19 โดยมีคณะกรรมการ 22 คน ประกอบด้วย 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่ปรึกษา 2. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นที่ปรึกษา 3. เลขาธิการ สมช. เป็นประธานกรรมการ 4.ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นรองประธานกรรมการ 5.ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ 6. อธิบดีกรมการปกครอง เป็นกรรมการ 7.อธิบดีกรมการแพทย์ เป็นกรรมการ 8.อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นกรรมการ 9.อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ เป็นกรรมการ 10.อธิบดีกรมสุขภาพจิต เป็นกรรมการ 11.อธิบดีกรมอนามัย เป็นกรรมการ 12.ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม เป็นกรรมการ 13.เลขาธิการองค์การอาหารและยา เป็นกรรมการ 14.เลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ เป็นกรรมการ 15.เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เป็นกรรมการ 16.ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เป็นกรรมการ 17.เสนาธิการทหาร เป็นกรรมการ 18.ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กระทรวงกลาโหม เป็นกรรมการ 19.นายกสมาคมโรงพยาบาลเอกชน เป็นกรรมการ 20.อธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นกรรมการและเลขานุการ 21.รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ และ22.ผู้ช่วยเลขาธิการ สมช. เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
สายด่วน1330หาเตียงให้ได้แล้ว2.6พันคน
ด้านนพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดหาเตียงให้ผู้ติดเชื้อโควิด – 19 ผ่านสายด่วน 1330 ว่า ที่ผ่านมาสายด่วน 1330 สามารถช่วยประสานหาเตียงให้ผู้ป่วยได้ประมาณวันละ 100 ราย ยอดรวมนับตั้งแต่วันที่ 10 เมษายนเป็นต้นมากว่า 2,600 ราย ขณะนี้ได้ขยายคู่สายเพิ่มจาก 300 คู่สายเป็น 600 คู่สายมีอัตราสายหลุดประมาณ 1% แต่ตั้งเป้าลดลงให้เหลือ 0% รวมทั้งปรับกระบวนการทำงานโดยแบ่งเจ้าหน้าที่เป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคือ คนรับสายจากผู้ป่วย ซักประวัติ สอบถามอาการเบื้องต้น จากนั้นอีกกลุ่มโทรกลับไปประสานเพื่อคัดกรองว่าผู้ป่วยเป็นกลุ่มอาการระดับสีอะไร จากนั้นอีกกลุ่มจัดหาเตียงให้ ระบบลักษณะนี้ทำให้การทำงานเร็วขึ้น
“การจัดหาเตียง สปสช.พยายามจัดหาให้ผู้ป่วยเข้าโรงพยาบาลให้ได้แบบวันต่อวัน หรือภายใน 24 ชั่วโมง การขอเตียงนั้นจะประสานกรมการแพทย์ โดยต้องมีผลตรวจเชื้อมาแสดงด้วย ส่วนใหญ่ถ้าเป็นกลุ่มอาการระดับสีเขียวจะจัดหาเตียงได้เร็ว แต่ถ้าอาการเปลี่ยนระดับสีเขียวมาเป็นสีเหลือง หรือสีเหลืองมาเป็นสีแดงก็จะนานหน่อย เพราะต้องจัดระบบส่งต่อและเตรียมให้ได้รับการรักษาดีที่สุด”นพ.จเด็จกล่าว
ย้ำคนไทยกลุ่มเสี่ยงตรวจ-รักษาฟรีทุกรพ.
นพ.จเด็จ กล่าวต่อว่า ในส่วนสปสช. เราสนับสนุนงบประมาณ ค่าตรวจคัดกรองคนไทยทั้งประเทศ สปสช.ก็สนับสนุน กลุ่มเสี่ยงสามารถไปตรวจได้ทั้งที่โรงพยาบาลรัฐและเอกชนโดยไม่เสียค่าบริการ และถ้าตรวจแล้วพบว่าติดเชื้อจะได้รับการรักษาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเช่นกัน ไม่ว่าจะอยู่ในโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม หรือ Hospitel โดยเฉพาะผู้ที่รักษาในโรงพยาบาลเอกชน ขอย้ำว่าอัตราค่ารักษาต่างๆ สปสช. กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และโรงพยาบาลเอกชนตกลงกันแล้ว แต่อาจมีปัญหาที่หน้างานที่เข้าใจไม่ตรงกันหรืออาจร้องเรียนว่า สปสช.จ่ายเงินช้า จึงเรียกเก็บจากผู้ป่วยก่อน
อย.ยันไทยยังไม่ได้ซื้อวัคซีนไฟเซอร์
ด้านนพ.ไพศาล ดั่นคุ้ม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แถลงชี้แจงกรณีมีการนำเสนอข้อมูลระบุขณะนี้มีการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์เข้ามาใช้ในประเทศไทยแล้วว่า ไม่เป็นความจริง อย.ยืนยัน วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ ยังไม่ได้นำเข้ามาใช้ในประเทศไทย และจากการตรวจสอบกองยา และด่านอาหารและยา ก็ไม่พบรายงานนำวัคซีนของไฟเซอร์เข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด ขณะเดียวกัน ได้ตรวจสอบกับบริษัทไฟเซอร์ในไทย ทางบริษัทยืนยันว่า ยังไม่ได้นำเข้ามาในประเทศไทยแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม มีการเจรจากับกระทรวงสาธารณสุขเรื่องนำเข้ามาใช้ฉีดในกลุ่มเด็ก 12-18 ปี ในประเทศอยู่ระหว่างเจรจา โดยจนกว่าจะมีการเจรจาจนได้ข้อสรุปทางบริษัทถึงจะมายื่นเอกสารขึ้นทะเบียนในประเทศไทย
ย้ำไทยมีวัคซีนใช้เพียงแค่3ตัว
“ขอเตือนว่าหากวัคซีนหรือยาตัวใดที่ไม่ได้ขึ้นทะเบียนนำเข้าโดยไม่มีทะเบียนถือเป็นยาที่ไม่มีทะเบียน มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 5,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ โทษตามพ.ร.บ.ยา ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลเรื่องวัคซีนจากเว็บไซต์ของอย. เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงว่าวัคซีนโควิด-19 ตัวไหนที่ขึ้นทะเบียนบ้างแล้วและนำมาใช้ในประเทศไทยได้” นพ.ไพศาล กล่าว และย้ำว่า ตอนนี้ไทยมีวัคซีนขึ้นทะเบียนแล้ว 3 ตัวคือ แอสตร้าเซนเนก้า ซิโนแวค และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ส่วนวัคซีนโมเดิร์นนา โดยบริษัท ซิลลิค ฟาร์มา จำกัดยื่นเอกสารมาแล้วอยู่ระหว่างพิจารณา และอีก 2 ราย อยู่ระหว่างทยอยยื่นเอกสารพร้อมประเมินคำขอขึ้นทะเบียนต่อเนื่อง ได้แก่ วัคซีนโควัคซีน โดยบริษัท ไบโอเจเนเทค จำกัด และวัคซีนสปุตนิกV โดยบริษัท คินเจน ไบโอเทค จำกัด
ย้ำนำเข้าวัคซีนต้องขึ้นทะเบียนอย.ก่อน
นพ.สุโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการ อย.กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นกับบริษัทไฟเซอร์ประเทศไทย บริษัทยืนยันว่า ไม่ได้เป็นเว็บไซต์ของบริษัท คาดว่าบริษัทไฟเซอร์ประเทศไทยจะแถลงชี้แจงอีกครั้งกรณีมีการเผยแพร่ข้อมูลพร้อมแผนที่ โดยระบุว่าไทยเป็นหนึ่งที่ใช้วัคซีนไฟเซอร์แบบฉุกเฉิน
ถามต่อว่าเป็นไปได้หรือไม่ หากประเทศใดประเทศหนึ่งอยากหิ้ววัคซีนยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งเข้ามาฉีดให้ประชากรของตัวเองที่พำนักในประเทศไทย นพ.ไพศาลกล่าวว่า ทางการการทูตตนไม่ทราบ แต่ตอนนี้ไม่ว่าเป็นการนำเข้ามาในประเทศไทยเพื่อใช้แบบใดต้องมาขออนุญาตจากอย.ก่อน ไม่เช่นนั้นถือเป็นยา หรือวัคซีนที่ไม่มีทะเบียน และจากการตรวจสอบยังไม่มีการนำเข้ามาแต่อย่างใด
ฉีดวัคซีนคลองเตยวันที่2ยังไม่พบคนแพ้
ความคืบหน้าการฉีดวัคซีนให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่กทม. ที่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องหลายเขต ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ลานจอดรถห้างโลตัสพระราม 4 กทม.ร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขนำวัคซีนมาฉีดให้ประชาชนในพื้นที่คลองเตย เป็นวัน 2 ตามเป้าที่ตั้งไว้ให้ได้วันละ 2,500-3,000 ราย เป็นวัคซีนซิโนแวคที่จะฉีดให้ประชาชนที่มีอายุ 18-58 ปี และแอสตราเซเนกาจะฉีดให้กลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 58 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ จะฉีดวัคซีนในชุมชนคลองเตยนั้น เงื่อนไขคือ จะฉีดให้ชาวบ้านที่อยู่กลุ่มเสี่ยงก่อน และจะขยายไปจนกว่าจะฉีดครบ เพื่อประชาชนจะได้รับวัคซีนทั่วถึง โดยขั้นตอนก่อนเข้าฉีดวัคซีนนั้น เมื่อได้บัตรคิวแล้วจะมารับวัคซีน ผ่านการคัดกรอง ชั่งน้ำหนัก วัดความดัน เข้าไปฉีดวัคชีน เมื่อได้รับวัคซีนทั้งหมดต้องไปอยู่ที่เต็นท์สังเกตอาการ มีทีมแพทย์พยาบาลคอยดูแล ตลอดการฉีดยังไม่พบกลุ่มคนที่แพ้วัคซีนทันที
เปิดอีก2จุดในกทท.ตรวจเชื้อวันละ3พัน
นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คมนาคมเปิดเผยว่า จากสถานการณ์ระบาดในชุมชนคลองเตยได้สั่งให้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) บูรณาการและสนับสนุนร่วมกับสำนักงานเขตคลองเตยและหน่วยงานสาธารณสุข ใช้พื้นที่การท่าเรือฯ ตั้งจุดตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อ ให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนคลองเตย มาตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม และวันนี้ (5 พฤษภาคม) การท่าเรือฯเปิดพื้นที่จุดตรวจเพิ่มอีก 2 จุดคือ ตลาดคลองเตย กลุ่มเป้าหมาย 1,000 คน และโรงเรียนชุมชนหมู่บ้านพัฒนา กลุ่มเป้าหมายอีก 2,000 คน รวมทั้ง 2 จุด จำนวน 3,000 คน และจะค้นหาพื้นที่อื่นเพิ่มเติม ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนในพื้นที่ชุมชนคลองเตยหรือชุมชนบริเวณใกล้เคียง หรือผู้ที่เสี่ยงสูง ให้รีบเดินทางมาเข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด เพื่อเร่งแยกผู้ติดเชื้อออกจากพื้นที่ชุมชน ซึ่งจะช่วยลดการแพร่ระบาดลงได้
ปิดตลาดห้วยขวาง7วันลูกจ้างติดโควิด
สำนักงานเขตดินแดง กรุงเทพมหานครสั่งปิดตลาดห้วยขวางชั่วคราว 7 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-9 พฤษภาคม หลังพบลูกจ้างในตลาดสดติดเชื้อโควิด 2 คน และนายจ้างใกล้ชิด 2 คนได้สั่งให้กักตัว 14 วันและรอผลตรวจโรค โดยสำนักงานเขตดินแดงนำป้ายมาปิดประกาศห้ามเข้า-ออกพื้นที่ ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจะลงพื้นที่ตลาดสดห้วยขวาง เร่งค้นหาเชิงรุกตรวจคัดกรองอีกกว่า 300 คน และจะตรวจเชิงรุกไปจนถึงวันที่ 7 พฤษภาคม บริเวณลานกีฬาห้วยขวาง
ยันยาฟาวิพิราเวียร์มีพอสต๊อก1.5ล.เม็ด
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม แถลงหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ถึงยาฟาวิพิราเวียร์ที่ใช้รักษาผู้ป่วยติดเชื้อโควิดว่า แม้จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น แต่เราได้มีการสำรองไว้แล้วอย่างเพียงพอ โดยยังมีเหลือในสต็อก 1.5 ล้านเม็ด กระจายไปยังทุกเขตสุขภาพทั่วประเทศ และจะได้รับเพิ่มอีก 3 ล้านเม็ดในเดือนนี้ จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่มียาเพียงพอ
นายกฯ กล่าวว่า ตั้งแต่เริ่มมีการระบาดจนถึงขณะนี้ ประเทศไทยมีผู้ป่วยสะสมประมาณ 7 หมื่นคน และรักษาหายกลับบ้านแล้วมากกว่า 4 หมื่นคน ซึ่งเป็นความสามารถของทีมแพทย์ไทย ที่อยู่ในเกณฑ์ระดับโลก เป็นความภูมิใจของคนไทยทั้งประเทศ รัฐบาลมีนโยบายดูแลคนไทยทุกคนในการรักษาโควิด-19 โดยรัฐจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายตามสิทธิการรักษาของผู้ป่วย และในกรณีโรงพยาบาลเอกชน จะได้รับค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ทุกรายการ
สธ.เปิดรพ.สนามที่อิมแพครับ5พันเตียง
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ว่า กระทรวงสาธารณสุข (สธ.)รายงานที่ประชุมครม. รับทราบการตั้งโรงพยาบาลสนามที่อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยจะให้เป็นโรงพยาบาลสนามสำหรับรองรับผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มสีเหลือง ซึ่งเป็นกลุ่มผู้ป่วยมีอาการ แต่ไม่รุนแรงและเหนื่อยหอบ หายใจเร็ว จากเดิมผู้ป่วยกลุ่มนี้จะถูกส่งเข้ารักษาในโรงพยาบาลเช่นเดียวกับผู้ป่วยกลุ่มสีแดง ซึ่งเป็นกลุ่มมีอาการรุนแรงคือ หอบ เหนื่อย หายใจลำบาก ปอดอักเสบรุนแรง มีภาวะปอดบวม ทั้งนี้ สธ.ประเมินแล้วว่าการตั้งโรงพยาบาลสนามสำหรับผู้ป่วยกลุ่มสีเหลืองนี้จะช่วยลดภาระของโรงพยาบาลรัฐและเอกชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล ให้มีพื้นที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีแดงที่มีอาการหนักได้มากขึ้น ส่วนพื้นที่รองรับผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวคือ มีผลยืนยันติดเชื้อโควิด แต่ไม่มีอาการ หรือมีอาการเล็กน้อย เช่น ไข้ ไอ น้ำมูก ตาแดง ผื่นขึ้น ซึ่งใช้โรงพยาบาลสนามทั่วไปและHospitel อยู่นั้น ยังมีพื้นที่พอ ยังไม่จำเป็นต้องจัดหาพื้นที่เพิ่ม
สำหรับข้อมูลโรงพยาบาลสนาม อิมแพค ชาเลนเจอร์ เมืองทองธานีนั้น รับผู้ป่วยได้ประมาณ 5,200 เตียง โดยใช้พื้นที่อาคาร 1 และ 2 อาคารละ 2,000 เตียง ส่วนอาคาร 3 เตรียมพร้อมสำหรับผู้ป่วยมีอาการ ภายในจะตั้งเต็นท์ความดันลบ มีเครื่องช่วยหายใจ สามารถรองรับได้ 1,200 เตียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี