โควิดยังแรงป่วยพุ่ง2,044ราย
ตายอีก27ศพ
โคม่า1,170-ใส่ท่อหายใจ367
นายกฯสั่งด่วนเร่งเจรจาซื้อวัคซีน
ตั้งเป้าสำรองเอาไว้200ล้านโดส
ไฟเซอร์พร้อมส่งวัคซีนให้ไทย
20ล้านโดสในช่วงไตรมาสที่3
ไทยติดโควิดรายวันพุ่ง 2,044 ราย ตายเพิ่ม 27 ศพยอดหายป่วยเกินป่วยใหม่อีก 2,377 ราย ยังรักษาตัว 29,320 ราย อาการหนัก 1,170 ราย ใส่เครื่องช่วยหายใจ 367 ราย กทม.ยังน่าห่วงระบาดลามหลายพื้นที่ มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นต่อเนื่องวันเดียว ทำนิวไฮ 869 คนส่งทีมดาวกระจาย 6 เขตเร่งคุมเชื้อ พร้อมขยายตั้งรพ.สนามชื่อ “ศูนย์บุษราคัม” รักษาผู้ป่วยระดับสีเหลืองรับแนวโน้มต้องการเตียงยังสูง “อนุทิน” ถกไฟเซอร์ สรุปยอมสำรองวัคซีนให้ไทย 10-20 ล้านโดส ฉีดให้เด็ก12 ปี ขึ้นไป
เริ่มส่งได้ก.ค.นี้ พร้อมเปิดรับยี่ห้ออื่นใครพร้อมส่งข้อมูลหลักฐานครบถ้วนชัดเจน ยืนยันได้ว่าส่งได้ปีนี้ สธ.พร้อมพิจารณา ด้าน กก.โรคติดต่อไฟเขียวฉีดซิโนแวค ให้คนอายุ 60ปีขึ้นไปได้ ร่วมเอกชนฉีดวัคซีนให้แรงงาน 16ล้านคนเริ่มมิ.ย. สปสช.ย้ำตรวจรักษาโควิดแล้วโดนเก็บเงิน ให้ร้องเรียนที่สายด่วน 1330 กด 12
เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงสถานการณ์ประจำวันว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 2,044 ราย เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,040 ราย มาจากระบบเฝ้าระวังและระบบบริการ 1,820 ราย มาจากการค้นหาเชิงรุก 220 ราย เป็นผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ 4 ราย ทำให้มียอดผู้ติดเชื้อสะสม 78,855 ราย หายป่วยสะสม 49,172 ราย เฉพาะวันนี้หายป่วย 2,377 ราย อยู่ระหว่างรักษา 29,320 ราย อาการหนัก 1,170 ราย ใส่ท่อช่วยหายใจ 367 ราย
ตายอีก27คนยอดสะสม363ราย
สำหรับผู้เสียชีวิตวันนี้ มีเพิ่มเติม 27 ราย อยู่ในกทม. 18 ราย นนทบุรี สมุทรปราการ จังหวัดละ 2 ราย ปทุมธานี ชัยภูมิ ฉะเชิงเทรา ระนอง ระยอง จังหวัดละ 1 ราย เป็นชาย 15 ราย หญิง 12 ราย ส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง เบาหวาน หัวใจ ไขมันเลือดสูง โรคอ้วน โรคปอดเรื้อรัง โรครูมาตอยด์ โรคหลอดเลือดสมอง ไตเรื้อรัง โรคทางสมอง และยังพบมีสารเสพติด 1 คน โรคทางสมอง 2 คน และพบติดเตียง 5 คน ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ป่วยชาย 15 คน หญิง 12 คน โดยค่ากลางอายุ 61 ปี (30-90ปี ) ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อยังมาจากการใกล้ชิดสมาชิกครอบครัวที่ติดเชื้อ สัมผัสผู้ติดเชื้อยืนยันไปสถานที่เสี่ยง สถานบันเทิง อาศัยในพื้นที่เสี่ยง ทำให้มียอดผู้เสียชีวิตสะสม 363 ราย
กทม.-นนท์-นครปฐมป่วยหนักพุ่ง
จากนั้น นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.แถลงว่า สำหรับ 5 จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดวันที่ 7 พฤษภาคม ได้แก่ กทม.ติดเชื้อใหม่ 869 ราย นนทบุรี 201 สมุทรปราการ 165 ราย ชลบุรี 89 ราย สมุทรสาคร 69 ราย และถ้าดูตัวเลข กทม.และปริมณฑล มีถึง 1,372 ราย เฉพาะ กทม.มีผู้ติดเชื้อเกิน 500 รายมาตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อดูจำนวนผู้ป่วยอาการหนักจะเห็นว่า กทม. นนทบุรี นครปฐม มีผู้ป่วยอาการหนักเพิ่มขึ้นทุกวัน จึงจำเป็นต้องจัดหาเตียงดูแลผู้ป่วยอาการหนัก ดังนั้น การหาเตียงผู้ป่วยหนักของ กทม.ปริมณฑลมาเฉลี่ยกัน ซึ่งที่ประชุมอีโอซีกระทรวงสาธารณสุขจึงพูดถึงการจัดหาเตียงผู้ป่วยหนักว่ายังต้องการไปถึงกลางเดือนพฤษภาคมหรือสัปดาห์ที่ 2 และ 3 ของเดือนพฤษภาคม เพราะมีแนวโน้มความต้องการเตียงพุ่งขึ้น
ตั้งรพ.บุษราคัมรับคนป่วยสีเหลือง
นอกจากนี้ ยังหารือถึงการสร้างเตียงนอกโรงพยาบาลสำหรับผู้ป่วยระดับสีเหลือง ซึ่งแสดงอาการแต่ไม่หนักมาก มองไว้ที่ศูนย์การประชุมแห่งหนึ่งย่านแจ้งวัฒนะ โดยโรงพยาบาลลักษณะนี้เรียกชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า เหลืองบุษราคัม
นพ.ทวีศิลป์กล่าวว่าผอ.เขตบางแครายงานสถานการณ์ในเขตว่ามียอดผู้ติดเชื้อระลอกล่าสุด191ราย ทั้งจากชุมชน ห้างสรรพสินค้าและหมู่บ้าน มีแรงงานต่างด้าวติดเชื้อจากห้างสรรพสินค้าและไปแพร่กระจายในชุมชนด้วย ตอนนี้จึงทำงานเชิงรุกไปถึงในแต่ละพื้นที่ ทั้งห้างสรรพสินค้าและซอยเพชรเกษม 84 เมื่อเจอคนติดเชื้อก็แยกเข้าสู่โรงพยาบาลโดยเฉลี่ยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง6รายให้อยู่ที่บ้านหรือพื้นที่ที่ กทม.จัดให้
10เขตกทม.ติดสูงสุด-คลองเตยที่1
ในการประชุมของศูนย์บูรณาการแก้ไขสถานการณ์โควิด19 ศูนย์อนามัยแจ้งข้อมูลต่อที่ประชุมว่า การระบาดจนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม พบพื้นที่การระบาดกรุงเทพฯ ที่ติดเชื้อสูงสุด 10 อันดับแรก ได้แก่ 1. คลองเตย พบผู้ป่วย 46 ราย 2.ปทุมวัน 24 ราย 3. บางแค 24 ราย 4.ลาดพร้าว 13 ราย 5.ราชเทวี 10 ราย
6.ป้อมปราบศัตรูพ่าย 9 ราย 7.บึงกุ่ม 9 ราย 8. ภาษีเจริญ 8 ราย 9. บางขุนเทียน 8 ราย และ10. ดินแดง 8 ราย โดยที่ประชุมได้ให้ผู้อำนวยการเขตบางแค รายงานสถานการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คลัสเตอร์นี้เกิดตั้งแต่มีนาคม เป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งที่เชื่อมโยงสถานบันเทิง ระลอกนั้นพบ 57 ราย จากนั้นช่วงมีนาคมต่อเมษายนเกิดการระบาดในตลาดบางแค 485 ราย กระทั่งพบคลัสเตอร์ชุมชน ห้างสรรพสินค้า หมู่บ้าน โดยระลอกนี้ 191 ราย กำลังควบคุมอยู่
จับตาคลัสเตอร์บางแคป่วยอีก191คน
“การควบคุมโรคเขตบางแคลงไปค้นหาผู้ติดเชื้อเชิงรุกทั้งในห้างสรรพสินค้า และชุมชน ซ.เพชรเกษม 84 ซึ่งสิ่งสำคัญเมื่อเจอคนติดเชื้อ ต้องแยกคนติดเชื้อเข้าสู่รพ.โดยเฉลี่ย 1 คนติดเชื้อจะมีคนสัมผัสเสี่ยงสูง 6 คน จึงต้องนำมาตรวจและกักตัวที่บ้าน หรือตามที่กทม.มีแนวทาง จากนั้นก็ติดตามจนครบกำหนด ขณะเดียวกันตรวจหาเชื้อในกลุ่มที่กว้างขึ้นต่อไป ซึ่งได้ทำมาแล้วและจะทำต่อเนื่อง” โฆษก ศบค. กล่าว
ไฟเซอร์สำรองวัคซีนให้ไทย10-20ล.โดส
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก “อนุทิน ชาญวีรกูล” ระบุว่า...ไฟเซอร์ มาแล้ว ประชุมแผนการจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ มาให้ประชาชน คาดว่าจะได้รับวัคซีน 10-20 ล้านโดส เริ่มส่งได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3-4 ปีนี้ จากความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับ บริษัทไฟเซอร์ ประเทศไทย เป็นไปด้วยดี อย.จะอำนวยความสะดวกการขึ้นทะเบียนวัคซีนไฟเซอร์ ให้เร็วที่สุด ผู้ผลิตวัคซีนรายอื่นหากพร้อมด้านจัดส่งวัคซีนให้ประเทศไทย แบบกำหนดเวลาที่แน่ชัดได้ สามารถติดต่อเข้ามาได้ กระทรวงสาธารณสุข พร้อมรับข้อเสนอ และพร้อมให้ความร่วมมือ
พร้อมส่งไตรมาส3ฉีดให้เด็ก12-18
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวหลังหารือร่วมกับบริษัท ไฟเซอร์(ประเทศไทย)ว่า บริษัทไฟเซอร์รับปากสำรองการผลิตวัคซีนโควิดให้ไทย เพื่อใช้ฉีดให้เด็กที่มีอายุ12-18 ปี คาดว่าจัดส่งให้ได้ไตรมาสที่3 และ4ของปีนี้ ประมาณ10–20ล้านโดส พร้อมเร่งให้บริษัทเตรียมเอกสาร เพื่อยื่นกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.)หลังทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันสำเร็จ ส่วนเรื่องราคาการจัดซื้อ ไม่สามารถ เปิดเผยได้ เกรงเกิดปัญหา เปรียบเทียบราคากับประเทศอื่นที่เป็นคู่สัญญา
หนุนฉีดวัคซีนให้วัยแรงงาน16ล.คน
วันเดียวกัน นายอนุทินเป็นประธานประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ก่อนเผยว่า สธ.ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า ภาคเอกชน จะร่วมฉีดวัคซีนในประชากรวัยแรงงาน 16 ล้านคน โดยมีสํานักงานประกันสังคมและจังหวัดรวบรวมรายชื่อแรงงานที่จะรับวัคซีน รวมทั้งจะเพิ่มจุดฉีดวัคซีนนอกสถานพยาบาลของรัฐในกทม. 82 แห่ง ต่างจังหวัดอีกประมาณ 300 แห่ง และในอนาคตจะมีรถเคลื่อนที่
ไฟเขียวอายุ60ขึ้นฉีดซิโนแวคได้
นอกจากนี้ ยังเห็นชอบแนวทางฉีดวัคซีนของซิโนแวคให้ผู้ที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป เนื่องจากผลการศึกษาของประเทศจีน มีความชัดเจนมากขึ้นแล้ว จากนี้จะส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายต่อไป จึงจะรฉีดในกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไปได้ ส่วนการเปรียบเทียบปรับกรณีไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเวลาออกนอกเคหสถาน โดยจะจะอนุโลม ยกเว้น และลดค่าปรับตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เป็นภาระค่าใช้จ่ายให้ประชาชน
จุฬาฯเปิดพื้นที่ฉีดวัคซีนให้อาจารย์1มิ.ย.
นายอนุทินยังเปิดเผยหลังหารือกับศ. ดร.บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรณีจัดหาสถานที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชน โดยเฉพาะในเขตของจุฬาฯ และเครือข่ายของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในกทม.ว่า การที่จุฬามาเริ่มให้บริการฉีดแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ดีให้องค์กรอื่นในการกระจายการฉีดวัคซีนออกไปทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนรวดเร็วขึ้น
ขณะนี้ศ.ดร.บัณฑิตกล่าวว่า จุฬาฯจะจัดตั้งจุดให้บริการฉีดวัคซีน เริ่มต้นรอบเขตปทุมวันและสาทร จะช่วยให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนได้รวดเร็ว เป็นการนำวัคซีนเข้าไปหาประชาชน จุฬาฯพร้อมทั้งบุคลากร และระบบตรวจติดตาม ระบบเชื่อมโยงฐานข้อมูลเข้าสู่ระบบหมอพร้อมของกระทรวงสาธารณสุข สภามหาวิทยาลัยหารือเบื้องต้นแล้ว หากจุฬาฯจัดระบบเรียบร้อยจะขยายไปยังมหาวิทยาลัยทั้งภาครัฐ และเอกชนในเขตกทม. ก่อนขยายต่อไปทั่วประเทศ
บุคลากร-นศ.กลางพค.วันละ1.5พัน
สำหรับกลุ่มเป้าหมาย กลุ่มแรกคือ ครู อาจารย์ในกทม.ที่จะเปิดเทอมวันที่ 1 มิถุนายน และกลุ่มที่ 2 เป็นบุคลากรในมหาวิทยาลัย อาจารย์ นิสิตนักศึกษาและคนในครอบครัวสายตรง เบื้องต้นจะตั้งจุดบริการ 2 จุดคือ จามจุรีสแควร์ ชั้น 4 และชั้น 5 และศูนย์บริการสุขภาพ ที่อาคารจามจุรี 9 ตั้งเป้าฉีดจุดละ 1,500 คนต่อวัน คาดเริ่มฉีดได้กลางเดือนพฤษภาคมนี้
จองคิวฉีดวัคซีนแล้ว1.5ล้านคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลการลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีนโควิด-19 เมื่อเวลา 08.00 น.วันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา พบจองคิวสะสม 1.5 ล้านคน แบ่งป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป 11.7 ล้านคน และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรคเรื้อรัง 4.3 ล้านคน เป็นการจองคิวผ่าน Line “หมอพร้อม” และ แอปฯ “หมอพร้อม” ประมาณ 1.2 ล้านคน และจองคิวผ่านโรงพยาบาล, รพ.สต. และ อสม. ประมาณ 290,000 คน. เป็นการจองคิวผ่านไลน์หมอพร้อม และแอปฯ “หมอพร้อม” ประมาณ 1.2 ล้านคน และจองคิวผ่านโรงพยาบาล รพ.สต. และอสม. ประมาณ 290,000 คน ส่วนข้อมูลฉีดวัคซีนทั่วประเทศ ตามรายงานของศบค. ถึงเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคมฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 ประมาณ 17,000 คน เข็มที่ 2 ประมาณ 11,000 คน ยอดสะสมฉีดวัคซีนเข็มแรกประมาณ 1.1 ล้านคน ส่วนยอดสะสมเข็มที่ 2 ประมาณ 430,000 คน
รักษาโควิดฟรีเจอเก็บเงินร้อง1330
นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวย้ำว่าประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือแพทย์พิจารณาแล้วว่ามีความเสี่ยง ไปรับบริการโควิด-19 ไม่ว่าจะที่โรงพยาบาลรัฐหรือเอกชน สามารถรับบริการฟรี ไม่เสียค่าบริการ หากถูกโรงพยาบาลเอกชนเรียกเก็บเงินร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1330 กด 12 รับเรื่องร้องเรียนเรียกเก็บเงินโควิดได้ทันที การตรวจรักษาในโรงพยาบาลเอกชนนั้น จะมีรายการค่าใช้จ่ายที่ สปสช.จ่ายให้กว่า 3,800 รายการ เช่น ค่าห้อง ค่าอาหาร ค่ายา ค่าแพทย์ ค่าพยาบาลฯ รายการเหล่านี้ตกลงกับโรงพยาบาลเอกชนทั้งหมดตั้งแต่ปีที่แล้วเ ถ้าอยู่ในรายการเหล่านี้สามารถเบิกได้หมด โรงพยาบาลเอกชนไม่จำเป็นต้องเก็บจากประชาชน
“คำว่าไม่เก็บจากประชาชน ไม่ได้หมายความว่าโรงพยาบาลเอกชนให้บริการฟรี ทั้งหมดนี้ สปสช.จะจ่ายให้ ถ้าอยู่ในรายการที่กำหนดสามารถเบิกได้หมด เฉลี่ยแล้วผู้ป่วยอาการน้อยค่าใช้จ่ายประมาณ 100,000 บาท/ราย ผู้ป่วยรุนแรงเราเคยจ่าย 800,000 - 1,000,000 บาทก็มีมาแล้ว เพราะอยู่ในกติกาที่ตกลงกันไว้ เราจ่ายให้ โรงพยาบาลเพียงแค่ส่งรายการมา” นพ.จเด็จ กล่าว และว่ากรณีค่าใช้จ่ายไหนที่เกิดขึ้นไม่มีในรายการที่กำหนด โรงพยาบาลเอกชนสามารถเสนอมาที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) เพื่อพิจารณาเพิ่มรายการให้ เมื่อพิจารณาแล้ว สปสช.ก็จะจ่ายเงินคืนให้ ที่ผ่านมาก็ทำแบบนี้มา 3-4 ครั้งแล้ว
เคาะแผนหาวัคซีนทางเลือก
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงผลประชุมคณะทำงานพิจารณาการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19 ที่ศ.คลินิกเกียรติคุณ น.พ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร เป็นประธานคณะทำงานถึงแนวทางจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อโควิด-19 สำหรับใช้ในสถานพยาบาลของรัฐ และวัคซีนทางเลือกเพื่อนำมาให้บริการในสถานพยาบาลเอกชนว่า ควรกำหนดให้วัคซีนโควิดเป็นสินค้าควบคุม ซึ่งสถานพยาบาลภาคเอกชนควรคัดเลือกวัคซีนโควิดทางเลือก ที่มีคุณลักษณะหรือยี่ห้อที่ต่างจากวัคซีนที่ภาครัฐนำเข้ามา และสามารถจัดส่งวัคซีนได้ทันภายในปี 2564 รวมทั้งในอนาคตกรณีมีการวิจัยและผลิตวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม ก็สามารถนำเสนอวัคซีนทางเลือกรายการอื่นเพิ่มเติมต่อไปได้
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังสรุปการจัดหาวัคซีนโควิดเพิ่มเติมสำหรับภาครัฐ ประกอบด้วย Pfizer, Sputnik V และ Johnson & Johnson และจัดหาวัคซีนโควิดของสถานพยาบาลเอกชนนั้น ที่ประชุมเห็นว่า ควรเป็นวัคซีนโควิดในรายการอื่น ที่ไม่ได้ให้บริการโดยภาครัฐและสถานพยาบาลรัฐ เพื่อให้เป็นวัคซีนทางเลือกอย่างแท้จริง และไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับภาครัฐ เช่น Moderna, Sinopharm หรือวัคซีนอื่นที่มีการขึ้นทะเบียนต่อไปในอนาคต ขอให้ควบคุมราคาให้บริการฉีดวัคซีนทางเลือกให้ประชาชนในสถานพยาบาลเอกชนให้สมเหตุสมผล มีราคาเหมาะสม ซึ่งที่ประชุมคณะทำงานฯมอบให้อย.ช่วยผลักดันให้มีบริษัทผลิตและจัดจำหน่ายวัคซีนเข้ามาขึ้นทะเบียนในไทยให้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับการจัดหาวัคซีนในสถานพยาบาลเอกชนนั้น องค์การเภสัชกรรม (อภ.)จะเป็นผู้บริหารจัดการและประสานกับบริษัทผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายวัคซีน โดยต้องเป็นไปตามกฎหมาย รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นจากสินค้าไม่ปลอดภัย (Product Liability) และสถานพยาบาลเอกชน/ภาคเอกชนที่ประสงค์จะนำเข้าวัคซีนโควิด-19 ทางเลือก จะเป็นผู้รับผิดชอบส่วนอื่นที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องชำระเงินจองวัคซีนโควิด-19 ทางเลือกล่วงหน้าให้องค์การเภสัชกรรมเต็มจำนวนมูลค่าการสั่งซื้อ (100%) รวมทั้ง จัดทำประกันสำหรับกรณีผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนให้กับประชาชน โดยภาคเอกชนที่จะขอนำเข้าวัคซีนทางเลือก สามารถดำเนินการแต่งตั้งตัวแทนจากบริษัทวัคซีนต้นทางและยื่นหนังสือต่ออภ.โดยที่ประชุมคณะทำงานฯมอบให้อภ. ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง เพื่อดำเนินการร่วมกับภาคเอกชนจัดหาวัคซีน ซึ่งต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดหาวัคซีนที่มีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธาน
บางแคตรวจเชิงรุกพบติดโควิด191คน
ร.ต.ท.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เอิร์ธ พงศกร ขวัญเมือง - Earth Pongsakorn Kwanmuang” ว่า กรณีมีข่าวพบคลัสเตอร์ผู้ติดเชื้อในห้างสรรพสินค้าย่านบางแคเป็นจำนวนมากว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบผู้ติดเชื้อในชุมชน ซ.เพชรเกษม 84 จำนวน 14 คน ในวันที่ 28 เมษายน ศูนย์บริการสาธารณสุขและสำนักงานเขตลงพื้นที่สอบสวนโรค พบผู้ติดเชื้อเป็นพนักงานห้างเดอะมอลล์บางแค จึงได้ Swab ตรวจหาเชื้อเชิงรุกเพิ่มเติม พบติดเชื้อเพิ่ม 191 คน มีรายละเอียดดังนี้
พนักงานห้างเดอะมอลล์บางแค และคนที่เกี่ยวข้องบางส่วน 3,686 คน พบติดเชื้อ 82 คน ผู้อยู่อาศัย ในชุมชน ซ.เพชรเกษม 84 จำนวน 2,700 คน พบติดเชื้อ 13 คน สอบสวนโรคในพื้นที่บางแคเพิ่มเติมอีก พบผู้ติดเชื้อทำงานเป็นพนักงานรถเมล์ 7 คน พักอาศัยในชุมชนบ้านขิง จึง Swab หาเชื้อเชิงรุกผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเพิ่มเติมอีก วันที่ 30 เมษายนและวันที่ 3 - 5 พฤษภาคม ดังนี้ คนในชุมชนบ้านขิง 1,500 คน พบผู้ติดเชื้อ 87 คน คนที่พักอาศัยในหมู่บ้านทวีโชติ 150 คน พบผู้ติดเชื้อ 9 คน พนักงานรถเมล์ 70 คน รอผลตรวจ
กทม.ส่งทีมดาวกระจาย 6 กลุ่มเขต
นางศิลปสวย ระวีแสงสูรย์ ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยสถานการณ์ระบาดโรคโควิด-19 ที่กระจายวงกว้างว่า กรุงเทพมหานครร่วมกับสถาบันและป้องกันโรคเขตเมือง (สปคม.) กระทรวงสาธารณสุข และภาคีเครือข่าย จัดทีมลงพื้นที่เสี่ยงเพื่อตรวจค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกหาผู้ติดเชื้ออย่างเข้มข้นต่อเนื่อง รวมทั้งจัดทีมพิเศษเฉพาะกิจลงพื้นที่ดาวกระจายใน 6 กลุ่มเขตจนถึงวันที่ 11 พฤษภาคม มีเป้าหมายคัดกรองประชาชนกลุ่มเสี่ยงให้ได้ 3,000 คนต่อวัน ดังนี้ 1.กลุ่มเขตกรุงเทพเหนือ : ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ 2.กลุ่มเขตกรุงเทพตะวันออก : สวน 70 พรรษามีนบุรี เขตมีนบุรี 3.กลุ่มเขตกรุงเทพกลาง : สนามกีฬาห้วยขวาง เขตห้วยขวาง 4.กลุ่มเขตกรุงเทพใต้ : ใต้ทางด่วนพระราม 3 เขตยานนาวา 5.กลุ่มเขตกรุงธนเหนือ : สวนสาธารณะใต้สะพานพระราม 8 เขตบางพลัด 6.กลุ่มเขตกรุงธนใต้ : เดอะมอลล์บางแค เขตบางแค
ไฟเขียวแผนฟื้นฟูการท่องเที่ยว4ระยะ
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติว่า ที่ประชุมพิจารณาและเห็นชอบ แนวทางฟื้นฟูการท่องเที่ยว เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว ประกอบด้วย มอบให้กระทรวงมหาดไทย เตรียมประสานรวบรวมจำนวนวัคซีนโควิด ให้พื้นที่ที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยว 10 พื้นที่ กระทรวงสาธารณสุข พิจารณาการจัดสรรวัคซีน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.) เตรียมความพร้อมด้านการตลาด และ ให้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬามีหนังสือถึงสำนักงานคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ เพื่อพิจารณาการจัดสรรวัคซีน
สำหรับแนวทางเปิดประเทศขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวนี้ เกิดขึ้นจากกระทรวงการท่องเที่ยวฯหารือหน่วยงานรัฐ เอกชน และจังหวัดต่างๆกำหนด 4 ระยะ ได้แก่ ระยะที่ 1 นำร่อง 1 เมษายน- 30 มิถุนายน เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีน มีใบรับรองการฉีดวัคซีน และกักตัวตามระยะเวลาที่ ศบค.กำหนด ระยะที่2 Phuket Sandbox 1กรกฎาคม-30 กันยายน เปิดรับนักท่อเงที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้ว มีใบรับรองการฉีดวัคซีน เข้ามาในพื้นที่ภูเก็ตโดยไม่มีการกักตัว ระยะที่3 ผ่อนคลายในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เริ่ม 1 ตุลาคมเป็นต้นไป รับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนและมีใบรับรองการฉีดวัคซีน ขยายพื้นที่ไปจ.กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ ชลบุรี บุรีรัมย์ เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และกรุงเทพฯ โดยไม่ต้องกักตัว และระยะที่4 เข้าสู่ภาวะปกติ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 เป็นต้นไป เปิดรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับวัคซีนแล้วและมีใบรับรองการฉีดวัคซีนเข้ามายังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี